Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์19 มีนาคม 2550
จัดสรรฝากความหวัง “ลองสเตย์” ต่อท่อน้ำเลี้ยงชุบชีวิตอสังหาฯ             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ไทยจัดการลองสเตย์ จำกัด (ทีแอลเอ็ม)

   
search resources

Real Estate
ไทยจัดการลองสเตย์, บจก.




ดีเวลลอปเปอร์หวังธุรกิจลองสเตย์ที่กำลังมาแรง จะช่วยพลิกสถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ย่ำแย่ให้ดีดกลับมาดีได้ เหตุตลาดระดับบนกำลังตกต่ำสุดขีด เผยทุนเกาหลี-เยอรมันเล็งลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ที่พัทยาและชะอำ

ตลาดลองสเตย์กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นับได้ว่าสิ่งที่แยกจากกันไม่ออก เพราะที่ผ่านมาเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม รีสอร์ต รวมไปถึงวิลล่าตากอากาศในเมืองท่องเที่ยว ต่างก็ได้รับอานิสงส์จากกลุ่มนักท่องเที่ยววัยเกษียณที่นิยมมาพักผ่อนระยะยาวที่เมืองไทย เพราะเมืองไทยมีความพร้อมมากกว่าประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเดียวกัน ประกอบกับค่าครองชีพต่ำ จึงทำให้ธุรกิจลองสเตย์เติบโตอย่างต่อเนื่องและส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยตรง

แหล่งข่าวในวงการอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาดีเวลลอปเปอร์โครงการบ้านจัดสรรได้รับผลดีจากการเข้ามาพักอาศัยในไทยของชาวต่างชาติ เห็นได้จากดีเวลลอปเปอร์หลายรายเร่งขยายการลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ไปยังจังหวัดใหญ่ ๆ จำนวนมาก โดยเฉพาะโครงการระดับไฮเอนด์ ทั้งในรูปแบบขายและให้เช่า เพื่อรองรับกับความต้องการของชาวต่างชาติ ซึ่งลักษณะการเข้ามาพักจะเข้ามาแบบระยะยาว และต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน

ทั้งนี้ การลงทุนของดีเวลลอปเปอร์บางรายได้จับมือกับบริษัท ไทยจัดการลองสเตย์ หรือ ทีแอลเอ็ม ขณะที่หลายรายลงทุนพัฒนาโครงการเอง โดยจังหวัดที่เลือกไปลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นจังหวัดท่องเที่ยว อาทิ พัทยา ภูเก็ต กระบี่ หัวหิน และปราณบุรี เป็นต้น เพราะกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง อีกทั้งยังต้องการความเป็นส่วนตัว ดีเวลลอปเปอร์จึงเลือกไปลงทุนในจังหวัดดังกล่าว

ทั้งนี้ บริษัท ไทยจัดการลองสเตย์ จำกัด หรือ ทีแอลเอ็ม เกิดขึ้นในปี 2545 จากมติของคณะรัฐมนตรี ตามโครงการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวพำนักระยะยาว โดยมีแนวทางหลักๆ ในการอำนวยความสะดวกทุกด้านให้กับชาวต่างชาติในการมาพำนักที่เมืองไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทย ในลักษณะการเช่าระยะยาว ทั้งในแง่การหาลูกค้า รวมทั้งการส่งเสริมดีเวลลอปเปอร์ให้มีการลงทุนก่อสร้างโครงการเพื่อรองรับตลาดนี้โดยเฉพาะโปรเจกต์ยังไม่คืบ

โครงการดังกล่าวน่าจะเป็นเรื่องที่กระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้ แต่ในความเป็นจริงกลับพบว่าบิ๊กโปรเจกต์ต่างๆ ระหว่างเจ้าของที่ดินและดีเวลลอปเปอร์ กลับไม่เคยถูกผลักดันให้เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน แม้ปี 2549 จะได้เซ็นสัญญากับดีเวลลอปเปอร์มากถึง 36 ราย เพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัย จำนวน 51 โครงการรองรับกลุ่มลองสเตย์ในเขตกรุงเทพฯ ภูเก็ต กระบี่ และพัทยา

ดึงเกาหลีพัฒนาที่ดินจอมเทียน

ประสาน หวังรัตนปราณี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยจัดการลองสเตย์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ กำลังจะเซ็นสัญญากับบริษัท KTCC จากเกาหลี เพื่อเข้ามาพัฒนาโครงการลองสเตย์บนที่ดินริมหาดจอมเทียน พัทยา มูลค่า 300-400 ล้านบาท ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ โดยจะเข้ามาดำเนินการได้ในประมาณเดือน ส.ค. นอกจากนี้ยังอยู่ในระหว่างการเจรจากับกลุ่มทุนเยอรมัน เพื่อพัฒนาโครงการที่ชะอำด้วย

เปิดที่ดินบางนาผุดคอมเพล็กซ์

ประสาน กล่าวเพิ่มว่า นอกจากนี้ ทีแอลเอ็ม ยังมีแผนที่จะนำที่ดินกว่า 1,000 ไร่ บน ถ.บางนา-ตราด กม.36 มาพัฒนาเป็น Longstay Complex ซึ่งภายในโครงการจะมีคอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ โรงพยาบาล โรงแรม สปา สปอร์ตคลับอย่างครบวงจร โดยที่พักอาศัยจะมีทั้งรูปแบบการเช่าและขาย คาดว่าจะใช้งบลงทุน 3,000 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจากับ บริษัท Vivas ดีเวลลอปเปอร์ที่ใหญ่ที่สุดในฟินแลนด์ เข้ามาร่วมหุ้นกับคนไทยเพื่อจัดตั้งเป็นบริษัทขึ้นมาพัฒนาโครงการ คาดว่าการเจรจาจะรู้ผลภายในสิ้นปีนี้

เจรจาขอที่ดินธนารักษ์

นอกจากแผนพัฒนาโครงการในที่ดินดังกล่าว ทีแอลเอ็ม ยังมีแผนที่จะเจรจากับกรมธนารักษ์ เพื่อขอที่ราชพัสดุที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาพัฒนาเป็น Longstay Camping ในลักษณะ Pool Cart หรือรถลากเคลื่อนที่ เหมือนในประเทศออสเตรเลีย

กระตุ้นตลาดบ้านหลังที่ 2

นอกจากนี้ ธุรกิจลองสเตย์ยังช่วยกระตุ้นตลาดบ้านมือสองอีกด้วย โดยทีแอลเอ็ม มีแผนที่จะเปิดตัวบัตรใหม่ คือ Thailand Second Home จำหน่ายให้เฉพาะสมาชิกที่สนใจจะซื้อบ้านในประเทศไทยเท่านั้น เพื่อให้คนกลุ่มนี้สามารถมีบ้านในประเทศไทยได้ โดยไม่ใช้นอมินี และไม่ขัดต่อกฎหมาย เนื่องจากเป็นการเช่าระยะยาวตลอดชีวิตของผู้ถือบัตร ขณะเดียวกัน ยังร่วมกับสถาบันการเงินเพื่อปล่อยสินเชื่อให้แก่สมาชิก โดยต้องชำระเงิน 50% ของราคาบ้านก่อน แล้วจึงสามารถยื่นกู้ได้ สำหรับราคาบ้านที่จะซื้อได้จะต้องมีราคาขั้นต่ำประมาณ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 35 ล้านบาท และบริษัทจะมีการบริหารจัดการในการปล่อยเช่าเพื่อหารายได้ ในช่วงที่สมาชิกไม่อยู่และต้องการรายได้จากค่าเช่า   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us