Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์19 มีนาคม 2550
พลัสฯ เดินหน้าปั้นแบรนด์ใหม่ส่ง “My condo-town+” ลงสนาม             
 


   
www resources

โฮมเพจ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์

   
search resources

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์, บจก.
Real Estate




“พลัส พร็อพเพอร์ตี้”เดินหน้าเต็มสูบ ปั้นแบรนด์ใหม่ “My condo-town+” ดักกำลังซื้อคอนโด-ทาวน์เฮาส์ทุกกลุ่มเป้าหมายระดับกลาง พร้อมเปิดแผนลงทุนปีนี้ลุยต่อโครงการ 10 แห่ง ปูพรมครึ่งปีแรก 6 แห่ง มูลค่า 3,000 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้เติบโต 60%

แม้ว่าชื่อของ “พลัส พร็อพเพอร์ตี้” และคอนโด วัน จะโด่งดังจนติดลมบนในวงการอสังหาริมทรัพย์แล้ว แต่ดูเหมือนว่า เมธา จันทร์แจ่มจรัส ประธานอำนวยการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จะไม่ยอมหยุดนิ่งอยู่เพียงแค่นี้และยังต้องการที่จะสร้าง Sub brand ของพลัสฯ ให้เป็นที่รู้จักเช่นเดียวกับการสร้างพลัสฯ คอนโด วัน และคอนโด วัน เอ็กซ์ ให้เข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคตลอดไป เพราะรู้ว่าแบรนด์มีความสำคัญต่อการตัดสินใจซื้อบ้านของผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อย ๆ

ด้วยความสำเร็จเกินคาดจากการปลุกปั้น พลัสฯ คอนโด วัน และคอนโด วัน เอ็กซ์ เพราะใช้เวลาเพียงปีเศษเท่านั้น แบรนด์ทั้ง 3 แบรนด์ของพลัสฯ ก็เข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้เมธาต้องเร่งตอกย้ำแบรนด์เก่าและสร้างแบรนด์ใหม่ต่อไป เพื่อให้พลัสฯ เป็นบริษัทแรกๆ หากผู้บริโภคคิดจะเลือกซื้อบ้าน

ต้นปีนี้พลัสฯ ได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่ 2 แบรนด์ สำหรับการทำตลาดคอนโดมิเนียมและทาวน์เฮาส์ เพื่อแยกสินค้าออกจากกัน โดยได้สร้างแบรนด์ My Condo (มาย คอนโด) สำหรับการทำตลาดสินค้าคอนโดมิเนียม และใช้แบรนด์ Towm+(ทาวน์พลัส) สำหรับทำตลาดบ้านเดี่ยว ทั้งนี้ มาย คอนโดจะแตกต่างจากคอนโด วัน ตรงที่ขนาดพื้นที่ใช้สอยน้อยลง และราคาเริ่มต้นต่ำกว่า เฉลี่ยที่ตารางเมตรละ 4 หมื่นบาทขึ้นไป หรือเริ่มต้นที่ยูนิตละ 9 แสนบาทขึ้นไป และตกแต่งพร้อมอยู่ขณะที่คอนโด วัน ราคาเฉลี่ยที่ตารางเมตรละ 4-6 หมื่นบาทขึ้นไป และผู้บริโภคจะต้องตกแต่งเอง

“การเปิดตัวสินค้ายูนิตเล็กลงและตั้งราคาขายต่ำกว่า 1 ล้านบาท เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายยังต้องการที่อยู่อาศัยกลางเมืองในราคาราวๆ 1 ล้านบาท แต่เนื่องจากต้นทุนค่าที่ดินและค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้น ทำให้พลัสฯ ไม่สามารถก่อสร้างคอนโดฯราคานี้ได้ ดังนั้น เพื่อให้สามารถขายสินค้าได้และตรงกับที่กลุ่มเป้าหมายต้องการ บริษัทฯ จึงต้องปรับลดขนาดพื้นที่เล็กลง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการซื้อ”เมธากล่าว

ส่วนทาวน์พลัสนั้น จะปรับลดราคาเริ่มต้นลงมาเช่นเดียวกัน จากเดิมที่ราคาขายทาวน์เฮาส์ของพลัสฯ จะอยู่ที่ 3 ล้านบาทขึ้นไป แต่ทาวน์พลัสจะเปิดตัวราคาเริ่มต้นที่ 2.45 ล้านบาทขึ้นไป โดยปัจจุบันพลัสฯ มีทาวน์เฮาส์ทำตลาดอยู่ 3 แบรนด์ ซึ่งจะครอบคลุกลุ่มเป้าหมายทุกระดับ และหลังจากนี้จะเปิดตัวแบรนด์ใหม่อีก 2 แบรนด์ เพื่อทำตลาดทุกระดับราคา ตั้งแต่ 1.5 ,2.5 และ 3.5 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งการมีสินค้าครบทุกระดับราคา จะทำให้พลัสฯ มีโอกาสในการขายมากยิ่งขึ้น

สำหรับแผนการลงทุนปีนี้ บริษัทฯ จะเปิดตัวโครงการใหม่ 10 โครงการ ซึ่งจะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีแรก 6 โครงการ มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 3 โครงการ ตั้งอยู่สาทร-ตากสิน, สุขุมวิท 103 และปิ่นเกล้า จำนวนรวม 994 ยูนิต มูลค่า 1,600 ล้านบาท และทาวน์เฮาส์อีก 3 โครงการ ตั้งอยู่ที่พระราม 9, สุวรรณภูมิและลาดพร้าว 101 จำนวนรวม 466 ยูนิต มูลค่า 1,400 ล้านบาท และมีแผนจะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังอีก 4 -5 โครงการ ซึ่งได้จัดซื้อที่ดินแล้ว 2-3 แปลง และอยู่ระหว่างหาซื้อเพิ่มอีก

ด้านผลประกอบการปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,861 ล้านบาท มาจากการพัฒนาโครงการ 2,429 ล้านบาท การบริหารจัดการโครงการ 165 ล้านบาท เป็นตัวแทนซื้อ ขาย เช่า 197 ล้านบาท และอื่นๆ อีก 69 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปี 2548 ประมาณ 19% ส่วนปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตขึ้น 60% คิดเป็น 4,500 ล้านบาท มาจากการพัฒนาโครงการ 3,985 ล้านบาท การบริหารจัดการโครงการ 209 ล้านบาท เป็นตัวแทนซื้อ ขาย เช่า 280 ล้านบาท และอื่นๆ อีก 26 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us