|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ก่อนที่ฤดูกาลโลว์ซีซันจะมาถึง สำหรับโรงแรมย่านสาทรซึ่งมีหลายค่ายเตรียมปล่อยหมัดเด็ดหวังชิงส่วนแบ่งตลาดโดยเฉพาะนักธุรกิจต่างชาติ ล่าสุดการใช้เทคโนโลยีทันสมัยไว้บริการในห้องพักคือกลยุทธ์หนึ่งที่นับว่ากลุ่มโรงแรมระดับ 5 ดาว ย่านถนนสาทร หยิบนำไปใช้และถือว่าได้ผลทีเดียว
ขณะที่กลุ่มโรงแรมระดับ 5 ดาว และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ที่ผุดขึ้นราวดอกเห็ดทั้งสองฝากฝั่งบนถนนสาทร กลับกลายเป็นสมรภูมิรบทางการแข่งขันเพื่อแย่งชิงกลุ่มลูกค้าโดยเฉพาะนักธุรกิจที่ถือว่าเป็นตลาดสำคัญ ด้วยความที่มีห้องพักราคาค่อนข้างสูง กอปรกับย่านถนนสาทรเป็นย่านธุรกิจที่มีสำนักงานของต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ความได้เปรียบในเรื่องของโลเคชั่นจึงเป็นแผนการตลาดที่ถูกหยิบนำมาใช้และนับว่าได้ผลไม่น้อย ซึ่งจะเห็นได้ว่าโรงแรมระดับ 5 ดาวแทบทุกค่ายจะหันมาเน้นเรื่องของการให้บริการเป็นส่วนใหญ่และไม่ค่อยมีความแตกต่างกันมากนัก
ส่งผลให้เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญของกลุ่มโรงแรมระดับ 5 ดาวโดยเฉพาะในเรื่องของสงครามราคาที่ก่อให้กลุ่มโรงแรมระดับ 5 ดาวย่านถนนสาธรได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน ขณะเดียวกันโรงแรมระดับ 5 ดาวต่างต้องเร่งปรับกลยุทธ์เพื่อดึงกลุ่มนักธุรกิจให้เข้าไปใช้บริการและเพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้อีกด้วย
สอดคล้องกับ มร.พอล ลิน ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมเอเวอร์กรีน กรุงเทพฯ ที่บอกว่าสถานการณ์บ้านเมืองในประเทศไทยกำลังส่งผลกระทบต่ออัตราการเข้าพักของโรงแรมในย่านถนนสาทรไม่น้อย เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายจะเป็นนักธุรกิจ การเกิดเหตุการณ์ขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ทำให้ยอดตัวเลขของกลุ่มนักธุรกิจที่เดินทางเข้ามาใช้บริการลดลงอย่างเห็นได้ชัด
“โดยเฉพาะปีนี้ถ้าเปรียบเทียบกับปีที่แล้วช่วงเดียวกันอัตราการเข้าพักจะลดลงเหลือเพียง 70% เท่านั้น” มร.พอล ลิน กล่าว
ขณะเดียวกันกลุ่มเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ที่มีอยู่และกำลังก่อสร้างยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมระดับ 5 ดาวย่านถนนสาธรมีคู่แข่งขันเพิ่มขึ้นและทำตลาดได้ยากขึ้นตามไปด้วย
มร. พอล ลิน กล่าวอีกว่าด้วยจำนวนห้องพักที่มีกว่า 160 ห้อง การที่จะให้เต็ม 100% คงทำได้ยาก และสำหรับตลอดปี 2550 นี้มีการวางเป้าหมายไว้เพียงแค่ 75-80% เท่านั้น หากแต่กลยุทธ์การทำตลาดอาจจะมีการปรับเปลี่ยนไปบ้างโดยเฉพาะกลุ่มของ เอเวอร์กรีน เองที่มีบริษัทในเครืออยู่ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจด้านโรงแรมหรือกลุ่มธุรกิจสายการบิน อีวา แอร์ จะมีการสร้างพันธมิตรทางการตลาดร่วมกัน ส่งผลให้ต้องมีการปรับตัวเองอยู่ตลอดเวลาและต่อเนื่องเพราะไม่เช่นนั้นแล้วลูกค้าจะหันไปใช้บริการที่อื่น
“ปัจจุบันกำลังจะเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซัน คาดว่าอัตราการเข้าพักน่าจะถึง 70% ซึ่งเราก็ไม่ประมาทและมีการติดต่อลูกค้าผ่านเอเย่นต์อยู่เป็นประจำเพื่อให้มีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น และมีการจัดแคมเปญให้บริการฟรีอินเทอร์เนตในห้องพักสำหรับบริการลูกค้าด้วย”มร.พอล ลิน กล่าว
นอกจากนี้การเปิดให้บริการสำหรับประเทศไทยของกลุ่มโรงแรม เอเวอร์ กรีน ในปีนี้จะครบรอบปีที่ 13 จะมีการปรับปรุงด้านบริการโดยเฉพาะการเปลี่ยนโทรทัศน์เป็นจอแบบ LCD ใหม่ทั้งหมดทุกห้อง ขณะเดียวกันการเป็นเชนบริหารต่างประเทศที่มีกลุ่มโรงแรมเอเวอร์ กรีนในเครือทั่วโลกยังคงมีประโยชน์สำหรับเชนเอเวอร์กรีนในไทยไม่น้อย เพราะกลุ่มลูกค้าที่เดินทางไปยังประเทศต่างๆ ที่มีเครือข่ายโรงแรมตั้งอยู่ซึ่งจะคอยเป็นไกด์ช่วยแนะนำเมื่อกลุ่มลูกค้ามีความต้องการที่จะเดินทางมายังประเทศไทย
“การใช้บริการห้องพักของนักธุรกิจจะอยู่เพียง 1-2 สัปดาห์ แล้วก็บินกลับประเทศไป สำหรับนักธุรกิจที่มีเวลาพักยาวนานหลายอาทิตย์ก็จะหันไปเช่าเซอร์วิสอาพาตเม้นท์แทนเพราะราคาจะต่างกับโรงแรมมาก ทำให้เราต้องพึ่งเอเย่นต์และกลุ่มโรงแรมในเครือต่างประเทศด้วย”มร.พอล ลิน กล่าว
ด้านการเคลื่อนไหวของโรงแรมบายัน-ทรี ที่อยู่บนถนนสาทรเช่นกัน ล่าสุดพบว่ามีการปรับกลยุทธ์โดยเฉพาะในส่วนของห้องอาหารที่ถูกหยิบนำมาใช้ประโยชน์และก็ได้ผลไม่น้อย โดยเฉพาะห้องอาหารญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อและมีการเข้าไปใช้บริการไม่น้อยเช่นกัน
แม้ว่าการท่องเที่ยวของไทยจะประสบกับภาวะทางเศรษฐกิจที่ผันผวน ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น หรือการเมืองที่ไม่มีความชัดเจน แน่นอนอาจส่งผลต่อธุรกิจโรงแรมย่านสาธรบ้างในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่หากได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงทีก็จะสามารถทำให้นักธุรกิจไว้วางใจและเริ่มเข้ามาใช้บริการของโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์สร้างความคึกคักทางธุรกิจเหมือนเมื่อปีที่ผ่านมา เพราะเมื่อช่วงเดือนมีนาคมปี 2549 พบว่าทุกโรงแรมในระดับ 5 ดาวมีอัตราการเข้าพักพุ่งสูงถึง 100% กันแทบทั้งสิ้น จนทำให้ลูกค้าต้องหาที่พักในแถบถนนสุขุมวิทแทน
ช่วงฤดูกาลโลว์ซีซันในอนาคตอันใกล้นี้ ผู้ประกอบการโรงแรมระดับ 5 ดาวแถบย่านถนนสาทรแทบทุกค่ายต่างส่งเป็นเสียงเดียวกันว่าขอให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนปกติ เพราะกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักธุรกิจเมื่อมีเหตุการณ์ไม่ปลอดภัยเขาก็จะไม่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งไม่เหมือนกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ไม่ค่อยได้รับผลกระทบเท่าไรนัก
ขณะเดียวกันการปรับตัวอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาของกลุ่มโรงแรมระดับ 5 ดาวย่านถนนสาทรไม่ว่าจะเป็นการอัดแคมเปญใหม่ๆ ออกมาเป็นระยะ หรือเปิดให้บริการด้านห้องอาหารในเทศกาลต่างๆ ทุกอย่างล้วนเป็นกลยุทธ์ที่ถูกหยิบนำมาใช้ และถ้าหากจำนวนห้องพักมีลูกค้าน้อยลงสิ่งที่จะต้องตัดสินใจทำในขั้นตอนสุดท้ายคงจะหนีไม่พ้นเรื่องของการหั่นราคาให้ถูกลง ถึงแม้ว่าโรงแรมระดับ 5 ดาวหลายค่ายต่างจะออกมาปฏิเสธว่าไม่มีทางที่จะกระโดดลงไปเล่นเรื่องของราคาก็ตาม ซึ่งเหตุการณ์ปัจจุบันหลายอย่างที่กำลังเกิดขึ้นส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอดเพียงเพื่อรอให้นักธุรกิจลูกค้าประจำเดินทางกลับเข้ามาใช้บริการใหม่อีกครั้งนั่นเอง
|
|
|
|
|