ทุกวันนี้ ปัญหาการถือครองอสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติยังเป็นประเด็นที่น่าจับตามอง เพราะส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลาดคอนโดมิเนียมที่เน้นกลุ่มเป้าหมายชาวต่างชาติ ทำให้ทั้งโบรกเกอร์ และเจ้าของโครงการต้องดิ้นหาทางออกกันอย่างหนัก

บริษัท ฮาริสัน บริษัทที่ปรึกษาการลงทุนและตัวแทนนายหน้าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ พยายามเร่งหาแนวทางออกให้กับเจ้าของโครงการ และผู้ซื้อ โดยอาศัยช่องว่างทางกฎหมาย เพื่อให้ชาวต่างชาติสามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้โดยไม่ติดข้อกฎหมาย หรือกฎระเบียบที่รัฐบาลประกาศใช้ไปในช่วงที่ผ่านมา

แนวทางที่ฮาริสันเลือกใช้นั้น จะใช้วิธีให้ชาวต่างชาติเช่าซื้อคอนโดมิเนียมกับบริษัทลีสซิ่งแทนการกู้จากสถาบันการเงินหรือซื้อเงินสด ในลักษณะเดียวกับการเช่าซื้อรถยนต์ที่รถยนต์จะถูกโอนกรรมสิทธิ์ไปยังบริษัทลีสซิ่งก่อน และเมื่อผ่อนชำระครบ จึงจะโอนไปยังผู้เช่าซื้ออีกต่อหนึ่ง

วันดี ชีวกิจเจริญ กรรมการบริหาร บริษัท ฮาริสัน กล่าวว่า ในช่วงที่รอความชัดเจนจากภาครัฐว่าจะจัดการอย่างไรกับปัญหานอมินี และมาตรการต่างๆ ที่สกัดการเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติ บริษัทฯในฐานะตัวแทนนายหน้า พยายามที่จะแก้ปัญหาให้กับเจ้าของโครงการและลูกค้าเป้าหมายที่เป็นชาวต่างชาติ ด้วยการเจรจากับกลุ่มบริษัทเช่าซื้อรถยนต์รายใหญ่ที่ต้องการขยายธุรกิจการเช่าซื้อรถยนต์สู่การปล่อยกู้ที่อยู่อาศัย เพื่อให้ปล่อยกู้ลูกค้าชาวต่างชาติ

วิธีดังกล่าวน่าจะส่งผลดีต่อทุกฝ่าย ทั้งเจ้าของโครงการ ผู้ซื้อ และภาวะเศรษฐกิจโดยรวม แต่ในทางกลับกัน อาจจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งให้ชาวต่างชาติเข้ามาเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ง่ายเกินไป ซึ่งในระยะยาวอาจจะไม่ส่งผลดีต่อประเทศมากนัก

“ฮาริสัน”ซึ่งเป็นเจ้าของไอเดียดังกล่าว น่าจะคำนึงถึงผลดีและผลเสียที่จะตามมาด้วย ถ้าหากเป็นผลดีต่อประเทศชาติก็ขอให้เดินหน้าต่อไป แต่ถ้าเกิดผลเสียมากกว่าผลดี ขอให้ฮาริสันทำการบ้านให้มากขึ้น เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาว เพราะทุกวันนี้ก็มีกฎหมายรองรับ และเปิดช่องให้ชาวต่างชาติเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องใช้วิธการอื่นๆ

อาทิ การถือครองห้องชุดได้ไม่เกิน 49% ของจำนวนทั้งหมด และในความเป็นจริง ทุกวันนี้โครงการต่าง ๆ ชาวต่างชาติก็ถือครองไม่ครบตามที่กฎหมายกำหนดอยู่แล้ว รวมถึงการเปิดให้ต่างชาติสามารถซื้อที่ดินได้ไม่เกิน 1 ไร่ แต่ต้องนำเงินมาลงทุนในประเทศอย่างน้อย 40 ล้านบาทขึ้นไป