Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์12 มีนาคม 2550
ปัจจัยลบสะเทือนบัลลังก์เบอร์หนึ่งแลนด์ฯงัดกลยุทธ์สู้ศึกขาลง             
 


   
www resources

โฮมเพจ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ - แลนด์แอนด์เฮ้าส์

   
search resources

แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, บมจ.
Real Estate




ยักษ์ใหญ่แลนด์ฯ สะดุดปัจจัยลบปี 49 กำไรหด ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 20,000 ล้านบาท โต 15% ดึงทุนสิงคโปร์ลงทุนบริษัทลูก 3 โครงการ ต่อยอดรายได้ค่าเช่า ทุ่ม 600 ล้านบาท ทำตลาดขยายฐานลูกค้าอายุต่ำกว่า 30 ปีต่อเนื่อง เตรียมออกแบรนด์ใหม่เจาะลูกค้ากำลังซื้อหด พร้อมงัดแคมเปญการเงินดึงลูกค้ากู้แบงก์แลนด์ฯ

เป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่งสำหรับตัวเลขรายได้และผลกำไรในปี 2549 ของแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เจ้าของบัลลังก์เบอร์หนึ่งแห่งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่มีเสี่ยตึ๋ง อนันต์ อัศวโภคิน กุมบังเหียนอยู่ ซึ่ง ณ วันนี้ตัวเลขผลของประกอบการก็พิสูจน์ออกมาแล้วว่าแม้กระทั่งเบอร์หนึ่งของตลาดอย่างแลนด์ฯ ก็หนีไม่พ้นภาวะขาลง หลังจากเกิดปัจจัยลบต่างๆ เข้ามากระทบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เห็นได้จากกำไรและรายได้ที่หดหายไป ไม่ต่างจากดีเวลลอปเปอร์อื่นๆ เพราะที่ผ่านมาต่างก็ประสบกับปัจจัยลบที่ไม่แตกต่างกันนัก

โดยแลนด์ฯ น่าจะได้รับผลกระทบไม่น้อยไปกว่าใคร เพราะเซกเมนต์หลักของแลนด์ฯ คือ บ้านเดี่ยวระดับราคา 3-5 ล้านบาท ที่ขณะนี้กำลังอยู่ในภาวะหดตัวอย่างรุนแรง ท่ามกลางกำลังซื้อที่หดตัว ทำให้คอนโดมิเนียมระดับกลางเติบโตกลายเป็นดาวรุ่งขึ้นมาแทน รวมทั้งการปรับตัวที่ล่าช้าไปเล็กน้อยของแลนด์ฯ เป็นจังหวะเพลี่ยงพล้ำทำให้คู่แข่งหลายรายประกาศกร้าวที่ขอชิงตำแหน่งเบอร์ 1 แทน

อดิศร ธนานันท์นราพูล กรรมการแลรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH กล่าวถึงผลประกอบการในปี 2549 ว่า บริษัทฯ มียอดขายจากการโอนบ้านรวม 17,620 ล้านบาท ลดลง 22.5% จากปี 2548 ที่มียอดขาย 22,745 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 24,000 ล้านบาท เนื่องจากยังไม่มียอดรับรู้รายได้ของคอนโดมิเนียมเข้ามาในปีนี้ รวมทั้งภาวะอุปสงค์ที่อ่อนตัวลงจากราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย และความไม่เชื่อมั่นของผู้บริโภคจากสถานการณ์ทางการเมือง ส่วนกำไรสุทธิปีนี้ลดลง 36.6% อยู่ที่ 3,247 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนค่าก่อสร้างสูงขึ้นโดยไม่สามารถปรับราคาขายขึ้นได้ รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายในการทำตลาดมากขึ้น ด้านอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 0.45 ณ สิ้นปี 2548 มาอยู่ที่ 0.56 ณ สิ้นปี 2549

สำหรับแผนงานในปี 2550 บริษัทฯ มีแผนจะออกหุ้นกู้ 5,000 ล้านบาท เพื่อนำไปชำระหนี้และซื้อที่ดินเพิ่มเติม โดยวางงบประมาณเพื่อซื้อที่ดิน 3,800 ล้านบาท การเพิ่มทุนของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อรายย่อยอีก 300 ล้านบาท และการลงทุนพัฒนาโครงการให้เช่าร่วมกับ GIC (Government Of Singapore Investment Corporation) ทุนสิงคโปร์ที่ร่วมถือหุ้น 40% ในบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ พร็อพเพอร์ตี้ โดย 2 โครงการแรกที่จะแล้วเสร็จในปีนี้ คือ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ สาทร บ้านเดี่ยว 40 ยูนิตให้เช่า บน ถ.นราธิวาสราชนครินทร์ เจาะกลุ่มชาวต่างชาติ มูลค่า 800 ล้านบาท, เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ 500 ยูนิต ย่านราชดำริ มูลค่า 2,500 ล้านบาท

ด้านที่ดินปากซอยสุขุมวิท 19 จะพัฒนาในรูปแบบมิกซ์ยูส มูลค่าประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการศึกษารูปแบบโครงการ คาดว่าจะใช้เวลาพัฒนา 3 ปี เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ ปีนี้ แลนด์ฯ ตั้งเป้ารายได้ 20,000 ล้านบาท เติบโตในแง่ยอดขาย 15% โดยมีสัดส่วนรายได้จากบ้านเดี่ยว 90% ทาวน์เฮาส์ 5% และคอนโดมิเนียม 5% จะมีการรับรู้รายได้จากคอนโดมิเนียมเข้ามาในปีนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท

นพร สุนทรจิตต์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่าจากปัจจัยลบหลายด้านส่งผลให้ตลาดบ้านเดี่ยวหดตัว ซึ่งแลนด์ฯ มียอดโอนบ้านเดี่ยวในปี 2549 หดตัวลง 18.8% จากตลาดรวมที่หดตัวลง 26.7% แต่อย่างไรก็ตาม นพร มองแนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยในปีนี้ว่าจะขยายตัวขึ้นเล็กน้อยไม่เกิน 10% จากอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มลดลง รายได้ของผู้บริโภคที่จะปรับสูงขึ้นจากการเพิ่มเงินเดือน จะทำให้กำลังซื้อเริ่มกลับคืนมา

แผนการตลาดในปีนี้ นพร กล่าวว่า จะเดินหน้าเทงบ 600 ล้านบาท เพื่อทำตลาดในกลุ่มเป้าหมายอายุต่ำกว่า 30 ปีอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ปูพรมไปในปลายปีที่แล้ว เนื่องจากลูกค้ากลุ่มอายุ 30 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของแลนด์ฯ เริ่มขยายฐานได้ยากขึ้น โดยขณะนี้มีสัดส่วนลูกค้ากลุ่มดังกล่าวอยู่ 14% นอกจากนี้ยังเตรียมจะออกแบรนด์ใหม่สำหรับทาวน์เฮาส์ราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มี The Terrace ทาวน์เฮาส์ราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป และแบรนด์ใหม่สำหรับคอนโดมิเนียมราคา 1.5 ล้านบาทขึ้นไป เพิ่มเติมจาก The Room ที่มีราคา 2.5 ล้านบาทขึ้นไป ทั้งนี้จะมีการปรับผังองค์กรในลักษณะของแบรนด์ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยปีนี้มีแผนจะเปิดโครงการใหม่รวม 9 โครงการ แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 6 โครงการ ทาวน์เฮาส์ 2 โครงการ และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ ปัจจุบันมีสต็อคบ้านพร้อมโอนจำนวน 595 ยูนิต มูลค่ารวม 3,400 ล้านบาท

นอกจากนี้แลนด์ฯ ยังงัดกลยุทธ์ทางการเงินมาใช้ เพื่อหวังสร้างรายได้ให้กับแบงก์แลนด์ฯ ด้วยการใช้แคมเปญ Home Saving Package มูลค่ารวม 4,170 ล้านบาท สำหรับลูกค้าที่จองซื้อโครงการ โดยให้สินเชื่อในเงื่อนไขพิเศษ หากลูกค้าผ่านการพิจารณาของธนาคาร ซึ่งลูกค้าจะต้องเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เป็นระยะเวลาอย่างต่ำ 6-12 เดือนก่อน โดยไม่ต้องวางเงินดาวน์และเงินทำสัญญา และหากลูกค้ายกเลิกโครงการก็ยังได้ผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยด้วย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us