Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กรกฎาคม 2536








 
นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2536
"สีลม พรีเชียสทาวเวอร์ หยุดไม่ได้ แต่จะไปทางไหน ?"             
 


   
search resources

รังสรรค์ ต่อสุวรรณ
Real Estate




เหมือนสายฟ้าฟาด !! กลางความรู้สึกของผู้คนในแวดวงเรียลเอสเตท เมื่อรังสรรค์ ต่อสุวรรณ นายกสมาคมการค้าอาคารชุดเจ้าของโครงการที่อยู่อาศัยหลายโครงการถูกข้อหา จ้างวานฆ่าประธานศาลฎีกา และไม่ว่าคำ "พิพากษา" จะออกมาเช่นไร ณ วันนี้ รังสรรค์ สูญสิ้นชื่อเสียงหมดแล้วทางด้านการทำธุรกิจที่ดิน

กว่า 6 โครงการที่กำลังก่อสร้าง และเร่งทำยอดขายจะได้รับการเยียวยาแก้ไขอย่างเร่งด่วนจากคณะกรรมการบ้านฉัตรเพชรได้ทันหรือไม่ หรือจะพังพาบล้มพับลงไปเฉกเช่นเดียวกับเกมโดมิโน เพราะทุกวันนี้แม้ "เครดิต" ของผู้ประกอบการจะยอดเยี่ยมเพียงไร แต่ภาวะการแข่งขันการขายที่หนักหน่วงทำให้การปิดยอดขายแต่ละโครงการหนักหนาสาหัสอยู่แล้ว

และในบรรดาธุรกิจกว่า 20,000 ล้านบาทนั้นโครงการ "สีลม พรียเชียส ทาวเวอร์" กำลังถูกจับตามองมากที่สุด เนื่องจากโครงการนี้มีมูลค่าในการก่อสร้างสูงถึง 12,000 ล้านบาท สูงสุดกว่าทุกโครงการที่รังสรรค์เคยทำมา

ย้อนหลังกลับไปในยุคทองของการพัฒนาที่ดินเมื่อปี 2530-2532 รังสรรค์ ต่อสุวรรณ เปรียบประดุจช้างตกมันในวงการก่อสร้างเพราะนอกจากจะทำคอนโดตากอากาศตระกูล "บีช" ตามเมืองชายทะเลทั้งหลายแล้ว ยังฟาดงวงฟาดงามาทำโครงการต่างๆ ในเมืองหลวงอีกด้วย สีลม พรีเชียส ทาวเวอร์ ได้เปิดตัวเป็นทางการและวางศิลาฤกษ์ในวันที่ 2 ก.พ. 2534 ด้วยความฝันของรังสรรค์ที่ต้องการสร้างสรรโครงการให้เป็นศูนย์รวมการค้าอัญมณีที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของโลกบนถนนสีลม ในที่ดินซึ่งกรมที่ดินได้จารึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ว่ามีการซื้อขายกันแพงที่สุดในช่วงปี 2533 คือตกประมาณราคาตารางวาละ 270,000 บาท

ที่ดินทั้งหมดประมาณ 5 ไร่เศษคิดเป็นเงินที่รังสรรค์ต้องจ่ายในตอนนั้นเกือบ 600 ล้านบาท งบประมาณทั้งโครงการคาดไว้ว่าจะต้องจ่ายไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาท รูปแบบที่วางไว้คือเป็นตึกสูง 69 ชั้น แบ่งออกเป็นพลาซ่าศูนย์อัญมณีและอาคารสำนักงาน

ในต้นปี 2534 หลังวิกฤติการณ์สงครามอ่าวเปอร์เซียนั้น ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมยังอึมครึม แต่โครงการนี้จำเป็นต้องเร่งเปิดตัว เพราะนอกจากต้นทุนที่ดินที่มีค่ามหาศาลแล้ว ยังมีโครงการศูนย์อัญมณีกำลังแข่งกันเกิดพร้อมๆ กันประมาณ 5-6 โครงการ หวังจับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเดียวกัน โดยเฉพาะโครงการจิวเวลรีเทรดเซ็นเตอร์ ที่มีทศ จิราธิวัฒน์ แห่งค่ายเซ็นทรัลพัฒนาเป็นหัวเรือใหญ่ และกำลังเร่งงานขายงานก่อสร้างอย่างรวดเร็ว รวมทั้งโครงการศูนย์อัญมณีบนถนนสุริวงศ์นับเป็นหอกข้างแคร่ที่สำคัญผลักดันให้ สีลม พรีเชียส ทาวเวอร์ ต้องก้าวเดินหน้าต่อไปอย่างเดียว

ภาวะการแข่งขันรุนแรงขึ้นทุกขณะ สีลม พรีเชียส พยายามฉีกหากลยุทธ์ทางด้านการขายทุกรูปแบบเพื่อเป็นการแย่งชิงลูกค้า ด้วยการนำโครงการไปขายยังสถานทูตไทยในอเมริกา รวมทั้งได้นำโครงการออกไปแสดงในงานประชุมสมาคมผู้ค้าอัญมณีโลก เพื่อหวังจะดึงสมาคมผู้ค้าอัญมณี ให้เข้ามาเปิดสาขาในประเทศไทย แต่ก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าใดนัก

จนย่างเข้าเดือนกันยายน 2534 รังสรรค์ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า การขายโครงการสีลม พรีเชียส ฝืดอย่างหนักเพราะภาวะเศรษฐกิจไม่เป็นใจจำเป็นต้องหยุดงานขายไปก่อน

รังสรรค์หยุดการขายโครงการนี้พร้อมๆ กับโครงการขนาดยักษ์อีก 2 โครงการคือ ฉัตรเพชร ทาวเวอร์ คอนโด สูง 45 ชั้น บนถนนเจริญกรุง และโครงการ โกลเด้นบีชการ์เด้นท์ ที่หาดน้ำริน จังหวัดระยอง หลังจากนั้นก็ได้ลดเพดานบินลง โดยหันไปทำโครงการทาวเฮ้าส์และคอนโดราคาระดับกลางคือโครงการบ้านฉัตรเพชรบางพลัด และรัชดาพิเษกแทน รวมทั้งโครงการบ้านบีโอไอ

"ถ้าไม่หันมาจับตลาดล่าง ผมจะเอาเงินที่ไหนมาหมุนเวียนจ่ายลูกน้อง" รังสรรค์เคยกล่าวอย่างยอมรับสถานภาพทางด้านการเงิน

ท่ามกลางข่าวลือศูนย์ธุรกิจอัญมณีส่อเค้าล้มเมื่อต้นปี 2536 รังสรรค์ก็ออกมาชี้แจงว่าโครงการยังดำเนินการต่อไป โดยยังไม่ปรับเปลี่ยนรูปแบบแน่นอน และยังยึดกลุ่มลูกค้าหลักคือศูนย์อัญมณีตามแผนการเดิม แต่ยอมรับว่าการก่อสร้างล่าช้าจริงเพราะการก่อสร้างชั้นใต้ดินที่ลึกถึง 6 ชั้น ทำให้งานผนังกันดินเพื่อป้องกันมิให้เกิดการทรุดตัวและพังทลายของที่ดินด้านข้างโดยรอบอาคาร ทำการก่อสร้างด้วยความยากลำบากมากเพราะบริเวณนั้นมีอาคารเก่าๆ และอาคารโรงพยาบาลเลิศสินอยู่ชิดติดกับโครงการ และ ณ วันนี้สีลม พรีเชียส ดำเนินการก่อสร้างชั้นใต้ดินลึกถึง 6 ชั้นไปเสร็จเรียบร้อยแล้ว และกำลังก่อสร้างชั้นที่ 4 บนดิน ซึ่งนับว่าล่าช้าจากกำหนดเดิมที่กำหนดไว้ว่า ประมาณชั้นที่ 4 นี้จะต้องเสร็จประมาณกลางปี 2535

ในขณะเดียวกันบริษัทซัมซุง คอนสตรัคชั่น บริษัทก่อสร้างชั้นแนวหน้าระดับ 1 ใน 5 ของเกาหลีซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการนั้น ก็ได้ออกมายืนยันหนักแน่นเช่นกันว่าจะเดินหน้าทางด้านการก่อสร้างต่อไป โดยมีกำหนดเสร็จประมาณกลางปี 2539 เพราะยังไม่มีคำสั่งออกมาให้หยุดหรือชะลอไว้ก่อนเลย

โครงการนี้มีความหมายมากสำหรับซัมซุง เพราะเป็นอาคารขนาดใหญ่โครงการแรกที่ทางบริษัทเองต้องการฝากฝีไม้ลายมือให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน เพื่อโอกาสในการก้าวขึ้นไปรับงานใหญ่ชิ้นต่อๆ ไป

สำหรับเงินค่างวดในการก่อสร้างที่มีข่าวว่าชะลอการจ่ายไปบ้างนั้น ทางซัมซุงย้ำว่าเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น

ในขณะที่การก่อสร้างยังคงเดินหน้าสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าต่อไป ปรมาจารย์หลายรายในวงการที่ดินก็ให้ความเห็นว่า ทางออกของโครงการนี้ยังไม่มืดมนเสียทีเดียว เหตุผลหนึ่งที่สำคัญก็คือโครงการนี้ตั้งอยู่ในกลางทำเลทองด้านธุรกิจซึ่งหาที่ดินได้ยากแล้วในปัจจุบัน ราคาประเมินของกรมที่ดิน ณ วันนี้ตกประมาณ 500,000 บาทต่อตารางวา

แต่สิ่งสำคัญที่สุด รังสรรค์ต้องถอนตัวออกไปก่อนอย่างเด็ดขาดเพื่อภาพพจน์ที่ดีและปล่อยให้เป็นบทบาทของคณะกรรมการบ้านฉัตรเพชร ที่จะต้องเข้ามาศึกษารายละเอียดความเป็นไปได้ของโครงการอีกครั้งหนึ่ง ว่าการสร้างเป็นศูนย์อัญมณีตามเจตนารมย์เดิมมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าไม่ได้จะปรับรูปแบบเป็นอย่างไร รวมทั้งดึงมืออาชีพเข้ามาเป็นที่ปรึกษาและผู้ถือหุ้นใหม่ กิจการอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม เซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ หรือ อาคารสำนักงาน ยังพอเป็นทางออกที่เป็นไปได้ถึงแม้ว่าวันนี้การแข่งขันกันตัดราคาค่าเช่าพื้นที่ออฟฟิศบนสีลมค่อนข้างรุนแรงเหลือเพียง 500-600 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือนก็ตาม แต่โครงการนี้กว่าจะก่อสร้างเสร็จอีกประมาณ 3 ปี ซึ่งตอนนั้นภาวะล้นตลาดคงจะต้องลดน้อยลง

ในขณะเดียวกันนักลงทุนบางรายก็แย้งว่า ขณะนี้ทำเลทองของโครงการต่างๆ ไม่จำเป็นต้องอยู่บนสีลมอีกต่อไปแล้วเพราะมีถนนสายใหม่อีกหลายสายมีศักยภาพในการลทุนเช่นกัน โดยเฉพาะออฟฟิศนั้นคาดว่าจะตกอยู่ในภาวะล้นตลาดอีกนาน

สำหรับคณะกรรมการบ้านฉัตรเพชรที่เพิ่งเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในสาธารณชนรับรู้ไปเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2536 นั้น มีวานิช ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการบริษัทไทยประกันชีวิต บริษัทไพบูลย์ประกันภัย บริษัทไทยประกันสุขภาพ ซึ่งว่ากันว่า เป็นกลุ่มบริษัทที่มีสินทรัพย์มากมายเท่ากับธนาคารขนาดใหญ่ เข้ามาเป็นประธานคณะกรรมการบริหาร

สีลม พรีเชียส ทาวเวอร์ จะเดินหน้าต่อไป หรือสลายไปกับหมอกควันชื่อเสียงและเครดิตของรังสรรค์ ต่อสุวรรณ หรือไม่ ?? คงต้องฝากความหวังไว้กับ วานิช ไชยวรรณ และกลุ่มผู้บริหารบ้านฉัตรเพชร !!!

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us