Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน13 มีนาคม 2550
TSTHผลิตเหล็กเพิ่ม20%ใช้ช่องบริษัทแม่รุกส่งออก             
 


   
search resources

สันติ ชาญกลราวี
Metal and Steel
ทาทา สตีล ประเทศไทย, บมจ.




ทาทาสตีลฯ ตั้งเป้าผลิตเหล็กเส้นแตะ 1.3 ล้านตัน ขยายตัว 20% สวนทางยอดใช้เหล็กในประเทศทรงตัวหรือลดลงจากปีก่อน ฟุ้งอาศัยเน็ตเวิร์คบริษัทแม่ส่งออกปีนี้ 1.5 แสนตัน และหันมาชิงลูกค้าคู่แข่ง หลังแบงก์คุมเข้มปล่อยเงินกู้ซื้อวัตถุดิบแก่โรงเหล็กมากขึ้น มั่นใจปีนี้ยอดขายเติบโตจากปีก่อนไม่น้อยกว่า 20%

นายสันติ ชาญกลราวี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย )จำกัด (มหาชน) หรือ TSTH เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าผลิตเหล็กเส้นที่ 1.3 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีการผลิตอยู่ 1.06 ล้านตัน/ปี แม้ว่าสถานการณ์ความต้องการใช้เหล็กเส้นในประเทศปีนี้น่าจะทรงตัวหรือลดลงจากปีที่แล้ว เนื่องจากมีปัจจัยลบหลายประการทั้งราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดอกเบี้ยลดลง และความไม่แน่นอนทางการเมืองของไทยที่ไม่รู้ว่าจะไปในทิศทางใด

โดยบริษัทฯจะส่งออกเหล็กเส้นประมาณ 1.5 แสนตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่า 10% ซึ่งจะอาศัยเน็ตเวิร์คจากบริษัทแม่ คือ ทาทาสตีล เชื่อว่าการส่งออกไม่น่าจะมีปัญหา เพราะปัจจุบันสหรัฐและประเทศในแถบตะวันออกกลางมีความต้องการใช้เหล็กจำนวนมาก

ส่วนตลาดในประเทศก็จะแย่งตลาดจากคู่แข่ง โดยอาศัยความได้เปรียบจากความแข็งแกร่งทางการเงิน ความพร้อมของสินค้า และอานิสงส์จากสถาบันการเงินค่อนข้างเข้มงวดการให้เงินสดหมุนเวียน(เวิร์คกิ้ง แคป)แก่โรงงานผลิตเหล็กเส้น ที่ต้องอาศัยวงเงินในการนำเข้าบิลเล็ตที่มีราคาสูง ทำให้บางโรงงานผลิตได้เหล็กเส้นได้ลดลง เชื่อว่าบริษัทจะมีส่วนแบ่งการตลาดเหล็กเส้นก่อสร้างเพิ่มขึ้นจากเดิม23 % เป็น 24-25%

"ปีที่แล้ว ยอดการใช้เหล็กทรงยาวในประเทศลดลง 10% และเหล็กทรงแบนลดลง 12% เนื่องจากมีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้น ทำให้ภาคการใช้ลดลง และปีนี้เชื่อยอดการใช้เหล็กในประเทศจะทรงตัวหรือลดลงจากปีที่แล้ว โดย 2 เดือนแรกปีนี้จะเห็นยอดใช้ปูนซีเมนต์ลดลงอย่างมาก ดังนั้นความต้องการใช้เหล็กไม่ดีกว่าปีที่แล้ว แต่เศรษฐกิจทั่วโลกพบว่าความต้องการใช้เหล็กยังเติบโตต่อเนื่อง และราคาเหล็กเส้นปรับตัวเพิ่มขึ้นแน่นอน เป็นผลจากราคาแร่เหล็กที่ปรับขึ้นมาแล้ว ส่งผลให้เหล็กแท่ง (บิลเล็ต)ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 500 เหรียญสหรัฐต่อตัน โดยราคาบิลเล็ตอยู่ระดับสูงเช่นนี้มานานถึง 3 เดือนแล้ว "

ในปี2550 บริษัทฯคาดว่าจะมีรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 20%จากปี 2549ที่มีรายได้รวม 1.88 หมื่นล้านบาท นอกเหนือจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นแล้ว บริษัทฯจะผลิตเหล็กคุณภาพสูงที่มีมาร์จินดีกว่าเหล็กเส้นก่อสร้าง อาทิ เหล็กไฮคาร์บอนไวร์รอด เป็นต้น และราคาเหล็กเส้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.95 หมื่นบาท/ตันจากปีที่แล้วราคาเหล็กเส้นอยู่ที่ 1.78 หมื่นบาท เป็นผลจากราคาบิลเล็ตที่ปรับตัวขึ้น

นายสันติ กล่าวถึงผลกระทบจากค่าบาทที่แข็งขึ้นว่า จากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้น ทำให้บริษัทฯต้องระวังเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน โดยจะป้องกันความเสี่ยงโดยBooking Forward ทันทีที่ตัดสินใจส่งออก เพื่อลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

ส่วนความคืบหน้าโครงการโรงถลุงเหล็กขนาด 5 แสนตัน มูลค่า 3.4 -3.6 พันล้านบาทว่า บริษัทได้ยื่นรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมไปแล้วเมื่อปลายปี 2549 คาดว่าจะได้รับอนุมัติภายในเดือนนี้ โดยขั้นตอนการผลิตจะไม่มีการลงทุนCoke Oven เพื่อลดมลภาระด้านสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้บริษัทได้ตัดสินใจเลือกซัปพลายเออร์เครื่องจักรจากจีน และมั่นใจว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ภายในปลายปี 2551

โครงการดังกล่าวจะทำให้ต้นทุนการผลิตบิลเล็ตลดลง 1 พันบาทต่อตัน ช่วยควบคุมราคาการผลิตไม่ให้หวือหวา จากปัจจุบันที่เศษเหล็กผันผวนมากกว่าแร่เหล็กรวมทั้งยังเพิ่มกำลังการผลิตบิลเล็ตของบริษัทจากเดิม 1.2 ล้านตันเป็น 1.7 ล้านตันสอดคล้องกับกำลังการรีดเหล็กของบริษัทที่มีปีละ 1.7 ล้านตัน

สำหรับแหล่งเงินทุนนั้นจะมาจากการกู้ยืมสถาบันการเงินทั้งจำนวน โดยไม่มีแผนจะเพิ่มทุนจดทะเบียน โดยบริษัทแม่จะแนะนำว่าจะหาแหล่งเงินทุนจากไหน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us