Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์12 มีนาคม 2550
ระวังฤทธิ์ Dividend Effect !ซื้อหุ้นปันผลปีนี้ เสี่ยงได้ไม่คุ้มเสีย             
 


   
search resources

Stock Exchange




เล่นหุ้นตลาดไทยเจอเรื่องเหนื่อยอีกรอบ Dividend Effect ส่อตั้งเค้า เตือนซื้อหุ้นหวังปันผลช่วงนี้ระวังดาบ 2 คม หลัง XD มีสิทธิ์ราคาลดลงมากกว่าเงินปันผลรับ แถมยังต้องเสียภาษีเงินได้อีก 10% รอบนี้ 139 บจ.เรียงคิวประกาศจ่าย หวั่นฉุดดัชนีร่วงตาม 3 โบรกเกอร์ฟันธง เลี่ยงได้หากถือยาว

ต้องถือว่าในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาเป็นระยะเวลาที่โชคไม่เข้าข้างตลาดหุ้นไทยเอาเสียเลย เจอทั้งอุปสรรคปัญหามีขวากหนามให้ต้องฝ่าฟันกันเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมาตรการ30% กฎหมายนอมินี, ข่าวปฎิวัตซ้อน, หม่อมอุ๋ยลาออก ฯลฯ สามวันดีสี่วันไข้ เล่นเอาขวัญนักลงทุนผวากันไปตามๆกัน ในขณะที่ตลาดฯต่างประเทศดัชนีมีการทำนิวไฮ(New High)รอบแล้วรอบเล่า

จนกระทั่งมีผลสำรวจจาก หนังสือพิมพ์ อินเตอร์เนชั่นแนลเฮอลันทรีบูล ชี้ว่า หุ้นในตลาดไทยมีราคาถูกเป็นลำดับที่ 5 ของโลก นอกจากนี้ยังมีอัตราการจ่ายปันผลสูงอยู่ในลำดับที่ 2 ของโลกอีกด้วย จึงทำให้มีแรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศกลับมาอีกระรอกใหญ่ ด้วยหวังว่าจะได้กำไรจากส่วนต่างหากหุ้นปรับตัวขึ้นและเงินปันผลที่เป็นฤดูการจ่ายประจำปีอยู่ในช่วงนี้หลังปิดงบในไตรมาส4 นอกจากนี้ยังอาจได้กำไรจากค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นเป็นกำไรต่อที่ 3 อีกด้วย

ล่าสุดมีหุ้นถึง 193 ตัวหรือคิดเป็น 51% ของมูลค่าตลาด ที่ประกาศจ่ายปันผล(XD) แล้วในช่วงเดือน มีนาคม-พฤษภาคม 2550 โดยให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลเฉลี่ยที่ 4.3%

แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่อยู่ในวัฎจักรขาลงเช่นนี้ ทำให้ความมั่นใจของนักลงทุนว่าบริษัทจดทะเบียน(บจ.)จะมีผลประกอบการ อัตราการเจริญเติบโตของกำไร(Earning Growth) ลดลงตามไปด้วย ซึ่งจะส่งผลให้ราคาหุ้นลดลงตามเป็นลูกโซ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลังจ่ายปันผลที่อาจทำให้เกิดความเสี่ยง Dividend Effect ราคาหุ้นมีความเป็นไปได้ที่จะลดลงมากกว่าเงินปันผลที่ได้จ่ายออกมา

เอกพิทยา เอี่ยมคงเอก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)บีฟิท กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า Dividend Effect คืออะไร เพราะปรกติตามหลักการแล้ว ราคาหุ้นจะลดลงเท่ากับเงินปันผลที่มีการจ่ายออกไป แต่ราคาจะสามารถดีดกลับขึ้นมาเท่าเดิม (Recover)ได้มากและเร็วแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทนั้นๆจะมีศักยภาพในการทำกำไรให้สูงขึ้นกว่าเดิมได้มากน้อยเพียงใด

"ถ้าซื้อระยะสั้นเพื่อที่จะหวังรอรับปันผลและขายหลังจากจากนั้นทันที โอกาสที่จะโดนก็มีสูง แต่ถ้าซื้อรับปันผลแล้วเก็บหุ้นยาวไปอีก 3 ปี แบบนี้ค่อนข้างจะปลอดภัยไม่ต้องห่วงว่าจะเจอกับเรื่อง Dividend Effect เลย"

ด้าน มยุรี โชวิกรานต์ ผู้ช่วยรองประธานสายวิจัย บล.นครหลวงไทย ให้คำแนะนำว่า หากต้องการเล่นสั้นก็ควรที่จะขายก่อน XD เล็กน้อย ไม่เช่นนั้นก็ควรที่จะถือเป็นการลงทุนระยะยาวไปเลยซึ่งมองว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 1 ปี โดยระหว่างนั้นไม่ต้องสนใจเรื่องขาดทุน (Capital lost)

แต่ที่นอกเหนือจาก Dividend Effect ในช่วงนี้แล้วก็ยังมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดภาวะดังกล่าวอีกในช่วงประมาณเดือน กันยายน หลังฤดูการประกาศผลดำเนินงานไตรมาส2 ของปี 2550 เพราะมีหลายบริษัทที่จะจ่ายเงินปันผลระหว่างการในช่วงดังกล่าว แต่อาจมีจำนวนบริษัทไม่เยอะเท่าช่วงนี้

ด้วยเหตุที่มีการประเมินกันว่าปีนี้การใช้จ่ายภายในประเทศ(Consumtion) และการลงทุนใหม่จะชะลอตัวลง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนในช่วงนี้ก็ควรเลือกลงทุนในกลุ่มที่ ไม่ต้องมีการลงทุนใหม่เพิ่มมากนักแต่ก็ยังสามารถเติบโตได้เช่น กลุ่มส่งออก, กลุ่มมีเดีย หรือ กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์

ขณะที่ ถนอมศักดิ์ สหรัตนชัย ผู้บังคับบัญชาสายงานวิจัย มองตลาดฯโดยภาพรวมว่าน่าจะมีการจ่ายปันผลในรอบนี้เฉลี่ยที่ 4-6% ซึ่งก็จะส่งผลให้ดัชนีมีการปรับลดลงได้ 4-6% เช่นเดียวกัน และจากผลพวกของ Dividend Effect ทำให้ในช่วงจากนี้ไปจนถึงเดือน เมษายน ดัชนีก็อาจจะมีโอกาสลงไปแตะที่ระดับ 650 จุดได้เช่นกัน

ในภาวะเช่นนี้แนะนำให้เลือกหุ้นกลุ่มที่มีรายได้แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นจากค่าเช่า หรือ กลุ่มที่เป็นโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น และควรจะหลีกเลี่ยงหุ้นที่มีปัจจัยแปรผันกับภาวะการขึ้นลงของเศรษฐกิจมากๆ เช่น กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มปิโตรเคมี หรือ กลุ่มเหล็ก ซึ่งในช่วงนี้นักลงทุนควรจะเพลามือลงบ้าง ซื้อสะสมเมื่ออ่อนตัว และถือครองหุ้นให้ยาวขึ้น

จากการถูกหักภาษีเงินปันผล 10% และโดนผีซ้ำดั้มพลอยด้วย Dividend Effect พร้อมกับข่าวร้ายที่จะได้เห็นดัชนีตลาดฯลดลงตามมาอีก ภายใต้ภาวะอันอึมครึมทำให้เทศการรับปันผลปีนี้อาจไม่ใช่สิ่งที่ผู้ถือหุ้นปารถนาจนอาจถึงขั้นกลายเป็นทุขลาภในท้ายที่สุดก็เป็นได้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us