Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน17 มีนาคม 2546
รัฐหวั่นโฮปเวลล์ฟ้องกลับ เบรคโครงการบนตอม่อ             
 


   
search resources

โฮปเวลล์ โฮลดิ้ง




แฉรัฐหวั่นโฮปเวลล์ฟ้อง ติดเบรคลงทุนทางรถไฟยกระดับบนซากโครงการเดิม แขวนงบศึกษาออกแบบรายละเอียดเกือบ 2 ปี เผยล่าสุดตอม่อโฮปเวลล์เริ่มเสื่อมสภาพแล้ว 20 % ด้าน"สุริยะ"ยันโครงการจำเป็นแต่การดำเนินงานต้องรอบคอบยอมรับหากเรื่องฟ้องร้องยังไม่ชัดเจนดังนั้นต้องไม่ประมาท “ผู้ว่าฯรถไฟ”เชื่อหากรัฐลงทุนเองไม่มีปัญหาฟ้องร้องเผยโฮปเวลล์เกรงเอกชนรายอื่นเข้าสวมสิทธิ์ผลประโยชน์จากที่ดิน ด้านสนข.คาดได้งบออกแบบรายละเอียดเร็วๆ นี้ ยันโครงการเกิดตามนโยบายเพิ่มระบบรางให้คนกทม.

แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางรถไฟยกระดับ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) หรือ โครงการโฮปเวลล์เดิมว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเสนอของบประมาณในการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อศึกษาและออกแบบรายละเอียดการก่อสร้าง (Detail Design) ซึ่งได้เสนอเรื่องไปตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้วจนถึงขณะนี้เกือบ 2 ปียังได้รับอนุมัติงบว่าจ้างที่ปรึกษาไม่ครบ ทำให้ยังไม่สามารถประมูลหาที่ปรึกษาได้ นอกจากนี้นโยบายที่ไม่ชัดเจนก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การดำเนินโครงการล่าช้าด้วย

ทั้งนี้ผลกระทบที่เกิดตามมา คือการเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ ที่ไม่มีโครงการเกิดขึ้นตามแผน เนื่องจากเป้าหมายของโครงการคือ การก่อสร้างทางรถไฟยกระดับเพื่อลดจุดตัดกับถนน ลดปัญหาการจราจรและลดการสูญเสียด้านน้ำมันเชื้อเพลิง ลดการสูญเสียเงินตราออกนอกประเทศ

แหล่งข่าวกล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้โครงการไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากรัฐไม่มีนโยบายที่ชัดเจนและจริงจังกับโครงการนี้ ซึ่งแม้แต่การมาตรวจเยี่ยมรถไฟของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งใหม่ๆ ก็พุ่งเป้าไปที่ปัญหาการขาดทุนและการเพิ่มรายได้ ส่วนนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมก็เน้นเรื่องการปราบทุจริต การลดค่าใช้จ่ายเป็นหลัก ไม่ได้ให้ความสำคัญกับโครงการนี้ ทั้งๆ ที่เป็นโครงการที่สำคัญในการเชื่อมการเดินทางกทม.กับปริมณฑล

ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าคนรถไฟคัดค้านแนวทางแก้ขาดทุน การปราบทุจริต แต่เห็นว่าเป็นงานปกติที่รัฐต้องดูแลอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ควรละเลยเรื่องการก่อสร้างโครงการต่างๆ ซึ่งไม่เฉพาะแต่โครงการทางยกระดับที่ล่าช้า แต่รวมไปถึงโครงการรถไฟทางคู่ด้วย เพราะทุกโครงการเป็นส่วนเพิ่มประสิทธิภาพของรถไฟ ที่ต้องเน้นบริการด้านการเดินรถโดยสารและรถสินค้าเป็นหลัก มากกว่าการหารายได้จากด้านอื่น

อ้างต้องรอบคอบ หวั่นถูกโฮปเวลล์ฟ้อง

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า นโยบายต้องการให้เร่งทำโครงการนี้โดยเร็ว เพราะต้องการจัดการตอม่อโครงสร้างเสาที่โฮปเวลล์ก่อสร้างไว้ให้เกิดประโยชน์ แต่ประเด็นที่เป็นข้อกังวล คือ ยังมีความกังวลว่าบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งถูกรถไฟบอกยกเลิกสัญญาสัมปทานอาจจะกลับมาฟ้องร้องได้ ดังนั้นจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนที่ดำเนินโครงการ

ทางออกรัฐต้องลงทุน100%

นายจิตสันติ ธนะโสภณ ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า รัฐต้องการให้ปรับโครงการโฮปเวลล์เป็นทางรถไฟยกระดับซึ่งได้ปรับลดวงเงินค่าก่อสร้างจาก 40,000 ล้านบาทลงตามนโยบายแล้ว ส่วนจะเดินหน้าโครงการต่อไปอย่างไรจะต้องรอให้มีการศึกษาออกแบบรายละเอียดก่อน อย่างไรก็ตาม กรณีที่เกรงว่า โฮปเวลล์ จะกลับมาฟ้องร้องหากรถไฟเริ่มดำเนินโครงการใหม่นั้น ตนเห็นว่า โฮปเวลล์ไม่น่าจะฟ้องร้องอะไร หากรัฐเป็นผู้ลงทุนโครงการนี้ทั้ง 100% เนื่องจากโฮปเวลล์ไม่ต้องการให้เอกชนรายอื่นเข้ามารับสัมปทานในลักษณะเดียวกับที่เคยทำมา

สนข.ยันได้งบออกแบบเร็วๆนี้

ด้านนายคำรบลักขิ์ สุรัสวดี ผู้อำนวยการ สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวยืนยันว่า นโยบายรัฐบาลต้องดำเนินการก่อสร้างโครงการนี้แน่นอน เพราะรัฐต้องการเพิ่มการขนส่งระบบรางจากปัจจุบันที่มีเพียง 3 % เป็น 30 % ซึ่งโครงการนี้มีโครงข่ายสายเหนือ สายใต้และสายตะวันออก ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลักในการเดินทางภายในกทม.และเชื่อมต่อไปยังปริมณฑล โดยขณะนี้ ทางกระทรวงการคลังได้พิจารณาอนุมัติงบจาก SAL จำนวน 180 ล้านบาท สำหรับว่าจ้างที่ปรึกษาออกแบบรายละเอียดเส้นทางสายเหนือ (บางซื่อ-รังสิต)ระยะทาง 22 กม. ส่วนงบกลางสำหรับศึกษาเส้นทางสายตะวันออก (บางซื่อ-หัวหมาก-สุวรรณภูมิ) ระยะทาง 34 กม. อีกประมาณ 300 ล้านบาท ก็คาดว่าจะได้รับอนุมัติเร็วๆ นี้

โดยในการออกแบบรายละเอียดจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนของตัวสถานี และเส้นทาง ซึ่งตัวสถานีจะออกแบบเสร็จก่อนภายใน 7-8 เดือนและจะเปิดประมูลหาผู้ก่อสร้างทันที ส่วนเส้นทางจะออกแบบเสร็จภายหลัง ทั้งนี้เพื่อให้ดำเนินโครงการได้รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ ได้กำหนดหลักการคัดเลือกผู้ก่อสร้างโครงการว่า ต้องเป็นบริษัทคนไทย ใช้วัสดุภายในประเทศ อย่างน้อย 80% ที่เหลืออาจใช้วิธีเคาน์เตอร์เทรด และใช้โครงสร้างเดิมที่โฮปเวลล์ก่อสร้างไว้ จะนำมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด

เผยตอม่อโฮปเวลล์เสื่อม

นายคำรบลักขิ์กล่าวว่า ตัวเลขลงทุนโครงการเดิมคาดว่าประมาณ 40,000 ล้านบาท แต่ท่านนายกฯ ให้ปรับลดลงซึ่งอยู่ระหว่างทำประมาณการตัวเลขการลงทุนใหม่ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะต้องเร่งรัดก่อสร้างโครงการให้เร็วที่สุด เนื่องจากโครงสร้างเสาที่โฮปเวลล์ก่อสร้างไว้แล้ว หากปล่อยไว้นานจะเสื่อมสภาพลง และนำมาใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ ซึ่งจากการสำรวจของวิศวกรล่าสุดพบว่า มีโครงสร้างที่สามารถนำมาใช้งานได้ขณะนี้ประมาณ 80% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท

"โครงการทางรถไฟยกระดับมีความจำเป็น นอกจากจะลดจุดตัดระหว่างรถไฟกับถนนแล้ว ยังทำให้การพัฒนาสถานีย่านบางซื่อ เป็นศูนย์กลางการคมนาคมมีความเป็นไปได้ และเป็นการเพิ่มระบบรางในเมืองตามสายทางรถไฟยกระดับซึ่งจะสามารถเชื่อมต่อโครงข่ายกับรถไฟฟ้าบีทีเอสและรถไฟใต้ดิน รฟม.ได้ นอกจากนี้ จะเกิดการจ้างงานภายในประเทศขึ้นด้วย"

สำหรับโครงการโฮปเวลล์นั้น กระทรวงคมนาคมและ ร.ฟ.ท.ในฐานะคู่สัญญาฝ่ายรัฐได้บอกเลิกสัญญาสัมปทานทั้งระบบการขนส่งทางรถไฟยกระดับและการใช้ประโยชน์จากที่ดินรถไฟ เมื่อปี 2541 เนื่องจากบริษัทไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างโครงการได้ตามกำหนดทำให้ประเทศไทยได้รับความเสียหายไม่สามารถแก้ปัญหาจราจรได้

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us