|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
การบินไทยเล็งปรับลดค่าธรรมเนียมน้ำมันในเส้นทางที่ต้องมีการต่อไฟล์ท สู้ศึกกระแสการแข่งขันในธุรกิจสายการบิน พร้อมเตรียมเพิ่มเที่ยวบินไป เดลลี และมุมไบ เป็นวันละ 2 ไฟล์ท ระบุตลาดอินเดียเติบโตสูง ยันภาพรวมการเดินทางยังเติบโต ระบุตั้งแต่ต้นปีจำนวนผู้โดยสารแตะเป้าหมายทุกเดือน
นายวัลลภ พุกกะณะสุต รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทยมีแนวคิดที่จะปรับลดค่าธรรมเนียมน้ำมัน(เซอร์ชาร์จ) ที่เรียกเก็บกับผู้โดยสารในเส้นทางระยะไกลที่ต้องมีการต่อไฟล์ท โดยจะเรียกเก็บเพียงครั้งเดียว จากปัจจุบันนี้การบินไทยจะเรียกเก็บ 2 ครั้ง คือไฟล์ทที่เดินทางมาและไฟล์ทที่ต้องมาต่อเพิ่ม ซึ่งการเสียค่าเซอร์ชาร์จถึง 2 ครั้ง ส่งผลให้ค่าตั๋วโดยสารของสายการบินไทย เมื่อคิดรวมทั้งหมดแล้วแพงกว่าสายการบินอื่น จึงทำให้บริษัทฯเสียโอกาสทางการแข่งขัน ส่วนเส้นทางที่มีการปรับลดค่าเซอร์ชาร์จแล้วได้แก่ สิงคโปร์
โดยได้ให้ตัวแทนจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไปดำเนินการหาข้อมูลในเส้นทางที่ต้องมีการต่อไฟล์ทคนละ 10 ประเทศ เปรียบเทียบกับสายการบินอื่นๆ ที่บินในเส้นทางเดียวกัน ส่วนเปอร์เซ็นต์ในการลดค่าเซอร์ชาร์จครั้งนี้ จะเป็นจำนวนเท่าใดขึ้นอยู่กับระยะทาง
“ยอมรับว่าปัจจุบันธุรกิจการบินมีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะการบุกตลาดอย่างหนักของสายการบินจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ซึ่งมีความได้เปรียบสายการบินไทยในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของต้นทุนน้ำมันที่ถูกกว่า ดังนั้น การบินไทยจึงต้องหาวิธีปรับตัวเพื่อสู้ศึกในครั้งนี้ ซึ่งการลดค่าเซอร์ชาร์จ บนภาวะที่ราคาน้ำมันอยู่ในช่วงขาขึ้นย่อมกระทบต่อรายได้ของบริษัทฯแน่นอน แต่หากลดแล้วเราได้ผู้โดยสารเพิ่มขึ้นรายได้โดยรวมก็จะดีขึ้น”
สำหรับไตรมาสแรกปีนี้ผลประกอบการยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย โดยเดือนมกราคมอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยในทุกเส้นทางของการบินไทยประมาณ 81% ส่วนเดือนกุมภาพันธ์ 79.94% มากกว่าที่ประมาณการณ์ไว้เกือบ 1% เดือนมีนาคมนี้คาดว่าจะมีประมาณ 79% ขณะที่เดือนเมษายนซึ่งถือเป็นเดือนท่องเที่ยว ยังประเมินไม่ได้ แต่มั่นใจว่าจะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนแน่นอน แต่ทั้งนี้จากสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นและราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูง เป็นสองปัจจัยหลักที่อาจกระทบต่อตัวเลขรายได้ของบริษัทฯ
อย่างไรก็ตามในปีนี้การบินไทยมีแผนจะเพิ่มเที่ยวบิน กรุงเทพ-เดลลี และ กรุงเทพ-มุมไบ ประเทศอินเดียเป็นวันละ 2 เที่ยวบิน หรือ 14ไฟล์ทต่อสัปดาห์ จากปัจจุบันบินอยู่เพียงวันละ 1 เที่ยวบิน เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของผู้โดยสาร ซึ่งเส้นทางบินไปประเทศอินเดีย ยอมรับว่ามีการแข่งขันสูง แต่ก็เติบโตสูงเช่นกัน ซึ่งผู้ที่เดินทางส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ เพราะตลาดอินเดียมีประชากรกว่า 1,000 ล้านคน ในที่นี้เป็นกลุ่มคนรวยฐานะดีถึง 200 ล้านคน จึงเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง
ปัจจุบันการบินไทยมีเที่ยวบินไปประเทศอินเดีย 6 เส้นทางได้แก่ โกลกาตา , เดลลี ,มุมไบ ,บังกาลอร์ ,เชนไน และไฮเดอราบัด ล่าสุด ยังเปิดเส้นทางบินใหม่ ได้แก่ พุทธคยา-พาราณสี โดยให้บริการ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือพุทธศาสนิกชน ที่ต้องการเดินทางเป็นหมู่คณะเพื่อไปจาริกแสวงบุญ และสักการะสังเวชนียสถาน โดยใน 1 ปี จะบินเพียง 6 เดือนเฉพาะช่วงฤดูหนาวเท่านั้น คือระหว่างเดือน ตุลาคม-มีนาคม เริ่มให้บริการตั้งแต่ตุลาคม 2550 เป็นต้นไป
ในการเปิดเส้นทางบินใหม่ครั้งนี้ การบินไทยได้จัดโครงการ “ไมล์สร้างบุญ” ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา โดยการบินไทย ได้เปิดโอกาสให้ลูกค้าที่มีไมล์สะสม สามารถนำมามอบให้กับการบินไทยเพื่อใช้ในโครงการนี้ได้ เริ่มต้นที่ 500 ไมล์ขึ้นไป หรือจะบริจาคเป็นเงินสดเพื่อแลกเป็นไมล์ สอบถามได้ที่ Call Center หมายเลข 02-2784022 หรือ www.thaiairways.com/rop และคลิก Donation เพื่อใส่ข้อมูล โดยเบื้องต้น การบินไทย ต้องการทั้งสิน 4 ล้านไมล์ เพื่อใช้ในโครงการดังกล่าว เพื่อนำไปใช้ในการสนับสนุนการเดินทางของพระสงฆ์ 80 รูป เพื่อไปจาริกแสวงบุญที่ดินประเทศอินเดีย-เนปาล สำหรับเงินบริจาคส่วนหนึ่งจะนำไปใช้ในการซ่อมแซมวัดที่ประเทศอินเดีย
|
|
|
|
|