นายยงยุทธ บุญเปกข์ตระกูล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน)
เปิดเผยว่า ซิงเกอร์ทั่วโลกได้ประกาศนโยบายการทำตลาดด้วยแนวคิดใหม่ At Home Worldwide
เพื่อทำให้ภาพลักษณ์ของซิงเกอร์ทันสมัยเป็นสากล ด้วยสินค้าและบริการที่จะนำเสนอสำหรับทุกคนในบ้าน
เพื่อสร้างให้ผู้บริโภครับรู้ว่าเมื่อนึกถึงความสุขสบายภายในบ้านต้องนึกถึงซิงเกอร์
สำหรับการทำให้ภาพลักษณ์ของซิงเกอร์ดูทันสมัยขึ้นนั้น ซิงเกอร์ได้นำผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เด่นด้วยเทคโนโลยี
และถือเป็นการเปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลก คือ อินเทอร์เน็ตทีวี พร้อมคีย์บอร์ดที่มีศักยภาพในการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้เหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
โดยบริษัทวางราคาจำหน่ายไว้เครื่องละ 16,000 บาท ในขนาดจอ 21 นิ้วซึ่งมีเพียงขนาดเดียวในช่วงนี้
ซึ่งเป็นสินค้าที่เหมาะกับกิจกรรมบันเทิงของคนในครอบครัว สถาบันการศึกษา โรงแรม
โรงพยาบาล ซึ่งในช่วงเปิดตัวบริษัทได้จัดโปรโมชั่นแถมฟรีชั่วโมงอินเทอร์เน็ต 15
ชั่วโมง
“การออกทีวีอินเทอร์เน็ต เพื่อแสดงให้ผู้บริโภคเห็นว่า ซิงเกอร์มีสินค้าที่ทันสมัย
และให้สอดคล้องกับตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในปีนี้ที่แข่งขันกันเรื่องเทคโนโลยีมากกว่าการดัมป์ราคา
ขณะเดียวกันก็เป็นการขยายฐานลูกค้าเข้าไปยังกลุ่มวัยรุ่น หรือคนรุ่นใหม่ที่ชอบความทันสมัยมากขึ้น
จากลูกค้าส่วนใหญ่ที่มักเป็นกลุ่มแม่บ้าน” นายยงยุทธ์ กล่าว
นอกจากนี้ ซิงเกอร์ยังนำเสนอเครื่องซักผ้าประเภทหยอดเหรียญในตัวเอง ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อเชิงพาณิชย์
ซึ่งถือเป็นเครื่องแรกของไทย เพื่อให้ลูกค้าได้ซื้อไปทำกิจการหรือหารายได้เพิ่มขึ้น
เพื่อเป็นการสร้างอาชีพอีกทางหนึ่ง
นายยงยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาซิงเกอร์ได้พยายามหาสินค้าใหม่
ที่เป้นความต้องการของคนในครอบครัวเข้ามาเสริม ไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์ ซึ่งปัจจุบันเป็นตัวแทนจำหน่าย
3 ยี่ห้อ คือ ซูซูกิ , ยามาฮ่า และไทเกอร์ เป็นตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือทุกยี่ห้อ
ตัวแทนขายประกันชีวิตให้แก่เมืองไทยประกันชีวิต ซึ่งมียอดขายเดือนละ 100-200 กรมธรรม์
และล่าสุดคือ การจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ให้แก่ยี่ห้อดังหลายยี่ห้อ เช่น วินเนอร์ ,คอนเซ็ปต์
, คิงค์ คอยล์ เป็นต้น
“ขณะนี้ซิงเกอร์ยังได้เจรจากับผู้ประกอบการหลายรายที่จะนำสินค้าใหม่เข้ามาเสนอขายผ่านระบบเงินผ่อนของซิงเกอร์
โดยสินค้าที่เป็นไปได้มากที่สุดที่ใกล้จะสรุปได้แล้วก็คือ ที่อยู่อาศัย และที่ดิน
เพราะเห็นว่าปัจจุบันลูกค้าเก่าของซิงเกอร์มีความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าที่อยู่อาศัยเดิม”
การที่ซิงเกอร์พยายามหาสินค้าใหม่เข้ามาจำหน่ายเพิ่มขึ้นนั้น นายยงยุทธ์ กล่าวว่า
นอกจากอำนวยความสำดวกให้แก่ลูกค้าแล้ว ยังเป็นการหารายได้เสริมให้แก่พนักงานของซิงเกอร์
เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และจะได้อยู่กับบริษัทนานๆ
สำหรับช่องทางจำหน่ายสินค้าของซิงเกอร์ นั้น ปัจจุบันมีอยู่ 2 ช่องทาง คือ ซิงเกอร์
ไดเรก ปัจจุบันมีสำนักงานกระจายอยู่ 240 แห่งทั่วประเทศ มีพนักงานขาย 7,000 คน
ในปีนี้จะเพิ่มพนักงานขายเป็น 9,000 คน โดยตัวแทนจำหน่ายของซิงเกอร์ ไดเรก จะขายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ซิงเกอร์
รถจักรยานยนต์ โทรศัพท์มือถือ และขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการนำเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์อื่นเข้ามาจำหน่ายในช่องทางนี้ด้วย
ส่วนซิงเกอร์ พลัส ในปีนี้ได้ปรับรูปแบบให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม จากร้านที่มีขนาด
2 คูหา ซึ่งมีอยู่ 12 สาขา ในปีนี้จะเพิ่มเป็น 18 สาขา และปรับร้านให้มีขนาดพื้นที่
700 ตารางเมตร เพื่อให้โชว์สินค้าได้มากขึ้น ทั้งเป็นโชว์รูมเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกยี่ห้อ
(ยกเว้นโซนี่) รถจักรยานยนต์ และเฟอร์นิเจอร์
ช่องทางจำหน่ายทั้ง 2 รูปแบบ ปัจจุบันบริษัทแม่ที่อเมริกา ได้นำไปใช้เป็นแนวทางการทำธุรกิจของซิงเกอร์ในประเทศอื่นๆด้วย
ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการทำงานของซิงเกอร์ในประเทศไทย ที่สามารถพัฒนารูปแบบธุรกิจ
จนเป็นต้นแบบที่นำไปใช้ทั่วโลก
ด้านการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายซิงเกอร์ยังเน้นการจัดขบวนคาราวานออกไปพบปะลูกค้าทั่วประเทศ
ซึ่งได้ดำเนินมาตั้งแต่ปีนี้ผ่านมา เพื่อแนะนำสินค้าใหม่ สาธิตการใช้สินค้า บริการซ่อมบำรุง
โดยปีนี้จะเน้นในพื้นที่ห่างไกลในชนบทที่ซิงเกอร์ยังเข้าไปไม่ถึง
นายยงยุทธ์ กล่าวว่าด้วยกลยุทธ์ของซิงเกอร์ในปีนี้ คาดว่าบริษัทจะมียอดขายเพิ่มขึ้น
15-20% จากปี 2545 ที่มียอดขาย 3,900 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นรายได้จากการจำหน่ายสินค้าในระบบเงินผ่อน
85% ในขณะที่ตลาดเครื่องเครื่องใช้ไฟฟ้าในปี 2546 มีมูลค่า 60,000 ล้านบาท