Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน14 มีนาคม 2546
ทักษิณ’สั่งแปรรูปกฟผ. รัฐถือหุ้นใหญ่ปิดตายตลาดไฟฟ้าเสรี             
 


   
search resources

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ทักษิณ ชินวัตร




วานนี้ (13 มี.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)และได้ข้อสรุปที่มีนัยสำคัญ 3 เรื่องด้วยกันคือ 1.ให้ทบทวนและปรับสูตรค่าไฟฟ้าใหม่

2.ให้ชะลอการจัดตั้งตลาดไฟฟ้าเสรี

และ 3.รัฐบาลต้องการถือหุ้นใน กฟผ.มากกว่าร้อยละ 50 และจะแปรรูปในลักษณะการจัดตั้งบริษัทจดทะเบียน โดยแปรรูปกฟผ.ทั้งองค์กร

เดินหน้าแปรรูป-ชะลอตลาดไฟฟ้าเสรี

พ.ต.ท.ทักษิณ เปิดเผยว่า การแปรรูปกฟผ.นั้น ตามเป้าหมายเดิมจะแปรรูปในไตรมาส 3 ของปี 2547 อย่างไรก็ตาม หากกฟผ.มีความพร้อมก็สามารถแปรรูปได้ก่อน ซึ่งสินทรัพย์ที่มีอยู่ประมาณ 300,000 ล้านบาทจะสามารถขยายมูลค่าตลาดรวมในตลาดหลักทรัพย์และสร้างความน่าสนใจในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ได้มากยิ่งขึ้น โดยเป้าหมายการถือหุ้นของรัฐบาลในกฟผ.จะถือมากกว่าร้อยละ 50

ทั้งนี้ การแปรรูปจะเป็นไปในลักษณะของการจัดตั้งบริษัทจดทะเบียนภายใต้ชื่อ ‘บริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน)’ โดยแปรรูปกฟผ.ทั้งองค์กร ไม่มีการแยกย่อยออกมา เพราะต้องให้ชะลอการขายหุ้นของ กฟผ.ที่ถือไว้ในบริษัทลูกคือ บริษัท ราชบุรี โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) จำนวน 45% และบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) จำนวน 25.4% ไปก่อน เนื่องจากยังไม่มีความจำเป็นจะต้องกระจายหุ้นในเครือดังกล่าว

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้สั่งชะลอ ‘การปรับโครงสร้างกิจการไฟฟ้า’ที่จะจัดตั้งเป็นตลาดการค้าไฟฟ้าเสรีหรือกึ่งเสรี เพราะยังไม่มีหลักประกันหรือพิสูจน์ได้ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนหรือไม่ รวมทั้งมีประโยชน์ต่อประชาชนในแง่ที่ทำให้ค่าไฟถูกลงหรือไม่

“การทำทั้งหมดก็เพื่อเป็นยุทธศาสตร์ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน รัฐจำเป็นต้องมีกฟผ.ด้วยการถือหุ้นมากกว่า 50% เพราะเราไม่ได้อดอยากขนาดนั้นเพราะได้ใช้หนี้ไอเอ็มเอฟล่วงหน้าไปแล้วด้วย

“ขณะเดียวกันมีตัวอย่างในต่างประเทศหลายประเทศแสดงให้เห็นว่า เมื่อจัดตั้งตลาดไฟฟ้าเสรีดังกล่าวจะมีต่างชาติเข้ามาถือหุ้นในโรงไฟฟ้าและทำให้ค่าไฟฟ้าแพงขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ชัดในประเทศอังกฤษ ดังนั้นจากเดิมที่มีแผนจะจัดตั้งตลาดไฟฟ้าก่อนการแปรรูป กฟผ.ก็ต้องปรับเปลี่ยนไป โดยจะแปรรูปก่อนแล้วค่อยมาจัดตั้งตลาดภายหลังหากเห็นว่าเป็นประโยชน์”

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวต่อไปว่า ในการดำเนินงานของกฟผ.นั้น ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของการพลังไฟฟ้าของอาเซียนเพราะมีกลไกที่ดีในการดูแล ในขณะเดียวกันหากในอนาคตประเทศไทยจะลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่ และจำเป็นจะต้องให้เอกชนเข้ามาลงทุนในไอพีพี(ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่) หรือไม่นั้น ได้ให้กฟผ.เป็นผู้พิจารณาหลัก ซึ่งกฟผ.อาจใช้วิธีการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าเก่า หรือหากจำเป็นต้องลงทุนใหม่ ก็ให้พิจารณาถึงเรื่องมลพิษ เรื่องของสังคมและค่าไฟฟ้าเป็นสำคัญ

ส่วนโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าบ่อนอกและหินกรูด นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทั้งสองโรงไฟฟ้า ภาคเอกชนจะดำเนินการก่อสร้างตามสัญญาที่ทำไว้กับภาครัฐโดยชะลอไป 3 ปี ซึ่งในกรณีที่ประชาชนในพื้นที่คัดค้านการก่อสร้างเชื่อว่าหลังจากที่ กฟผ.ได้จัดทำภาษีพลังงานคืนแก่ท้องถิ่น โดยคิดร้อยละ 1 ของค่าไฟฟ้า หรือรวมเป็นวงเงินประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อปี เพื่อสร้างประโยชน์แก่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง รวมทั้งชี้แจงกับประชาชนแล้ว เชื่อว่าการต่อต้านก็จะลดลง

ด้านนายสิทธิพร รัตโนภาส ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่นายกรัฐมนตรีมีนโยบายเรื่องการแปรรูปในลักษณะดังกล่าวถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากและมีความเปลี่ยนแปลงไปจากโครงสร้างที่เคยกำหนดเอาไว้อย่างสิ้นเชิง

กล่าวคือเดิมจะมีการแยก กฟผ.ออกเป็นบริษัทย่อยต่างๆ ประมาณ 3-4 บริษัทและนำไปแปรรูป แต่ภายใต้โครงสร้างใหม่จะดำเนินในลักษณะองค์กรเดียว หรือไม่แยกย่อยออกมา โดยกฟผ.จะยังคงเป็นหน่วยงานรัฐและรัฐบาลจะเข้ามาถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 50% จากนั้นก็จะนำเข้าไปทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์

ขณะที่ในเรื่องการจัดตั้งตลาดการค้าไฟฟ้าเสรีนั้นถือได้ว่า การดำเนินการต่างๆ ได้ยุติลงชั่วคราวจนกว่าจะสามารถพิสูจน์ได้ว่า มีประโยชน์กับประชาชนตามที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการเอาไว้

“ตอนนี้คนกฟผ.มีความสุขกันมาก ถือเป็นข่าวดีสำหรับทุกคน สหภาพฯ เองก็ไม่คัดค้าน เป็นสิ่งที่คุ้มกับความเหน็ดเหนื่อยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา เพราะนายกรัฐมนตรีเห็นชอบในหลายๆเรื่อง ส่วนสัดส่วนการถือหุ้น ท่านนายกฯย้ำว่ารัฐบาลจะถือไม่ต่ำกว่า 50% ตลอดไป เพื่อให้เป็นยุทธศาสตร์ด้านพลังงานของประเทศหรือเป็น National Champion ซึ่งผมเห็นว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้องและก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ โดยการแปรรูปกฟผ.นั้น จะทำการจ้างที่ปรึกษาได้ภายในเดือนนี้เพื่อศึกษาในรายละเอียดต่างๆ ทั้งนี้ กฟผ.จะเป็นหน่วยที่รัฐบาลต้องการให้เข้าไปทำธุรกิจด้านพลังงานในแถบประเทศอาเซียน”

“สำหรับค่าไฟฟ้านั้น รับประกันได้เลยว่าจากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 5 เซนต์ต่อหน่วยจะลดลงเหลือ 4.5 เซนต์ต่อหน่วย ซึ่งจะเห็นว่าขนาดอเมริกายังแค่ 4 เซนต์ต่อหน่วย และถ้าหากสามารถสร้างเขื่อนสาละวินเพื่อผลิตไฟฟ้าได้ จะทำให้ค่าไฟของไทยลดลงเหลือ 4 เซนต์ต่อหน่วยได้แน่นอน ซึ่งในส่วนของโครงการเขื่อนสาละวินนั้นกฟผ.จะลงทุนทั้งหมดโดยตั้งบริษัทร่วมกับรัฐบาลพม่าโดยมี 2 เขื่อนที่จะทำ ใช้เงินประมาณ 3.7 แสนล้านบาท”นายสิทธิพรกล่าว

ย้ำให้ไฟฟ้าราคาถูกลง

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อไปว่า จากการที่ได้มาตรวจเยี่ยม กฟผ.พบการทำงานค่อนข้างจะมีประสิทธิภาพ แต่ก็ให้ไปปรับปรุงการทำงานเพิ่มเติมเพื่อลดต้นทุนการผลิตและขายไฟฟ้าให้ประชาชนถูกลง โดยเฉพาะการจัดสรรงบประมาณ การทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดลดลง เพราะหากทำให้ระดับความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดลดลงแล้วการลงทุนจะได้ไม่เพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาความต้องการใช้ไฟฟ้าจะสูงกว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ประมาณ 1.4 เท่า ดังนั้น สิ่งที่กฟผ.จำเป็นต้องพิจารณาและได้มอบนโยบายเอาไว้ก็คือทำอย่างไรจะให้ลดลงเหลือ 1.2 เท่า เพราะหากลดลงได้ก็เท่ากับลดต้นทุนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าไปด้วย

“ในช่วงที่ผ่านมามีการคำนวณการใช้พลังงานผิดพลาด ทำให้ลงทุนสูงเกินไป โดยปัจจุบันนี้มีการลงทุนเกินตัวไปถึง 400,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งอยู่ในภาระค่าไฟฟ้าของประชาชน”พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

สหภาพฯเสนอแปรรูปไม่เกิน30%

ด้านนายศิริชัย ไม้งาม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กฟผ. กล่าวว่า ในเรื่องการแปรรูปกฟผ. ทางสหภาพเสนอให้แปรรูปไม่เกินร้อยละ 30 หรือให้รัฐบาลถือหุ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ซึ่งแตกต่างจากแนวคิดของนายกรัฐมนตรีที่ให้รัฐบาลถือหุ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 51 อย่างไรก็ตาม สหภาพฯ จะนำแนวคิดของนายกรัฐมนตรีไปหารือในการประชุมใหญ่ของสหภาพฯ ในวันที่ 16 มีนาคมอีกครั้ง

ทั้งนี้ ทางกระทรวงการคลังได้แจ้งต่อ กฟผ.ว่า จะแปรรูป กฟผ.ภายในไตรมาส 3 ภายในปี 2547 จะมีวงเงินระดมทุน 158,000 ล้านบาท หรือร้อยละ 30 ของสินทรัพย์ กฟผ. 300,000-400,000 ล้านบาท แต่จากพูดคุย นายกรัฐมนตรีระบุว่า อาจแปรรูปร้อยละ 10-20 หรือวงเงินประมาณ 60,000 ล้านบาทเท่านั้น

“โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่า คงไม่สามารถแปรรูปได้เร็วเหมือนที่นายกรัฐมนตรีระบุไว้ เนื่องจากการดำเนินการจัดตั้งบริษัทจะต้องใช้เวลา ซึ่งความจริงแล้วทางสหภาพฯ ไม่ต้องการให้แปรรูป แต่เมื่อรัฐบาลโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันจะไม่ค้ำประกันเงินกู้ในการลงทุนให้กฟผ. ดังนั้นการระดมทุนใน ตลท.จึงเป็นเรื่องจำเป็น และสหภาพก็เห็นด้วยกับการแปรรูปดังกล่าว”นายศิริชัยกล่าว

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us