แอร์เทรนชูแผนบุกตลาดแอร์ขนาดเล็กมากขึ้นในปีนี้ หลังคว้าตลาดโครงการใหญ่ๆมาครองปีที่แล้วจำนวนมาก ส่งผลให้รายได้รวมปีที่แล้วเติบโต10% ลั่นรายได้ปีนี้โต 10% แน่

นาย สุริชัย ภัทรกิจนิรันดร์ กรรมการผู้จัดการ เทรน (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงสภาพตลาดรวมของเครื่องปรับอากาศในปีนี้ว่าจะยังมีการเติบโตแม้สภาวะเศรษฐกิจจะไม่ดีเหมือนปีก่อน ก็ตาม คาดว่าจะมีปริมาณรวมของตลาดในปี 2550 สูงถึง 800,000 เครื่อง ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 5 - 10% จากปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่าตลาดประมาณ 20,000 ล้านบาท

แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจและการเมืองจะอยู่ในสภาวะไม่ปกติ แต่เนื่องด้วยเครื่องปรับอากาศมี ความจำเป็นต่อการใช้งานทั้งภาครัฐบาลและเอกชนเนื่องจากสภาวะอากาศที่ร้อนขึ้น จึงทำให้ในปีที่ผ่านมาความต้องการใช้เครื่องปรับอากาศยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เนื่องมาจากเศรษฐกิจของประเทศและภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีการขยายตัว แม้จะมีการชะลอตัวอยู่บ้างในบางช่วงจากภาวะราคาน้ำมัน และราคาต้นทุนสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงผลกระทบจากสภาวะการณ์ทางการเมืองที่มีความแปรปรวน

สำหรับเป้าหมายของบริษัทฯ ที่วางไว้นั้นไม่กระทบมากนัก เห็นได้จากยอดขายในปีที่ผ่านมาสามารถทำได้เกินกว่าเป้าหมาย ซึ่งสูงถึง 4,000 ล้านบาท โดยมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 10% แบ่งเป็นสัดส่วนการขายภายในประเทศ 80% และส่งออกต่างประเทศ 20% หรือแยกสัดส่วนรายได้เป็นแอร์ขนาดเล็ก 50% หรือ 2,000 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดรวมแอร์เล็ก 13,000 ล้านบาท และ แอร์ขนาดกลางกับใหญ่ 50% หรือ 2,000 ล้านบาท จากรายได้รวม ขณะที่มูลค่าตลาดรวมแอร์ขนาดใหญ่อยู่ที่ 5,000 ล้านบาท

นายสุริชัย กล่าวว่า เทรนประสบความสำเร็จเพราะการตอกย้ำภาพลักษณ์ของความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบปรับอากาศที่ช่วยในการประหยัดพลังงาน จนได้รับความไว้วางใจจากโครงการต่างๆ เช่น โครงการจามจุรีสแควร์ , โครงการรัชดาทาวเวอร์ , โครงการคอนโดมิเนียมระดับหรู The Empario และ Trendy ย่านถนนสุขุมวิท , Bank of Thailand , Central World Plaza, The Mall Group (Siam Paragon, The Mall และ The Emporium), King Power, Carrefour, Big C, Home Pro, Millennium Hilton Hotel, Mercure Patong Hotel โรงพยาบาลวิชัยยุทธ 3 และโรงงาน Minebea

สำหรับปี 2550 ทางบริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายไว้ถึง 4,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 10% ขณะที่สภาพตลาดรวมก็ยังคงมีการเติบโตบ้างแต่ไม่มากนัก

นายอังกูร โชตินิสากรณ์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายตัวแทนจำหน่าย เทรน (ประเทศไทย) เปิดกล่าวเพิ่มเติมถึงการสร้างความสัมพันธ์กับตัวแทนจำหน่ายว่า ทางบริษัทฯ ได้ใช้กลยุทธ์แบบคัดสรรประเภทลูกค้า (Key Account Management) เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างสูงสุด โดยแบ่งลูกค้าออกเป็นระดับ Platinum, Gold และ Silver เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับกลุ่มตัวแทนจำหน่ายอยู่เสมอ ทั้งนี้ยังคงเน้นย้ำถึงการจัดฝึกอบรมความรู้ให้กับลูกค้าในทุก ๆ ระดับ

นอกจากนี้เรายังคงทำกิจกรรมกับลูกค้าตัวแทนจำหน่ายและลูกค้าตัวแทนจำหน่ายช่วงเพื่อสื่อสารและกระชับความสัมพันธ์ และความเข้าใจอันดีต่อกัน ตามแนวคิด CRM ทำรายการส่งเสริมการขายจากส่วนกลาง ทำ Co-Promotion ตามที่ต่างๆเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภคในจังหวัดนั้น ๆ

นายมหิธร วิภัติภูมิประเทศ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด เทรน (ประเทศไทย) กล่าวถึงแผนการตลาดสำหรับเครื่องปรับอากาศ เทรน ในปีนี้ว่า ทางบริษัทฯมีแผนที่จะรุกตลาดแอร์ขนาดเล็กมากขึ้น เพราะมีการเติบโตที่ดี ส่วนแอร์ขนาดใหญ่ที่เข้าโครงการนั้นปีนี้คาดว่าจะมีโครงการขนาดใหญ่น้อยลง จะมีมากก็เป็นส่วนของการทดแทนหรือรีเพลซเม้นท์เท่านั้น

ล่าสุดได้ส่งเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ Trane New Stylus เข้าสู่ตลาด โดยมีขนาดทำความเย็นตั้งแต่ 12,000 – 60,000 Btu/h มีจุดเด่นในด้านการประหยัดพลังงาน ทั้งนี้การทำประชาสัมพันธ์สินค้า ได้เลือกพรีเซ็นเตอร์ไฮโซ หนูแหวน ปวริศา เพ็ญชาติ ซึ่งมีภาพลักษณ์เข้ากับตัวสินค้าตอกย้ำแนวคิดของ เทรน ซึ่งเป็นสินค้าที่มีคุณภาพสูงและบริการที่ดีและไม่เคยทอดทิ้งลูกค้า

นอกจากนี้ จะมีการใช้สื่อสิ่งพิมพ์ Magalog (Magazine + Catalog) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือเพื่อใช้ในการสื่อสารสู่กลุ่มเป้าหมาย โดยนำวิธีการของ Direct Marketing มาใช้เพื่อช่วยขยายผลการขายสู่ลูกค้าเป้าหมาย เพื่อช่วยเพิ่มยอดขายให้ตัวแทนจำหน่าย โดยจะใช้งบการตลาดทั้งปีประมาณ 60 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว