Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน12 มีนาคม 2546
"ไวไว"มั่นใจ3ปีเป็นแชมป์ ด้านฟอร์มีทิศทางอึมครึม             
 


   
www resources

ICC Homepage

   
search resources

ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล, บมจ.
โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย, บจก.
Instant Food and Noodle




ไวไวปรับภาพลักษณ์"ควิก"พร้อมขยายตลาด ใหม่ภาย ใต้แนวคิด "ควิก ขลุกขลิก น้ำนิดๆ จี๊ดจ๊าด...สะใจ" หวังเพิ่มส่วนแบ่งตลาด จาก 32% เป็น 38-39% และในปี 2549 เตรียมกวาดส่วนแบ่งตลาด 45% ครองแชมป์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ด้านสหพัฒน์เผยหลังซื้อฟอร์มีมาบริหารเองแล้ว บัดนี้ยังอึมครึม ไม่มีทิศทางชัดเจนรอสรุปผลปลายเดือนนี้ แต่ที่แน่นอนแล้วคือให้ ไอ.ซี.ซี เป็นผู้จัดจำหน่าย

นายสุชัย ตันติยาสวัสดิกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง และสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จ รูปได้ถึง 32% ในปี 2545 โดยปี 2541 ไวไวมีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 17% เท่านั้น ทำให้ในปีนี้ จะเป็นปีทองของบริษัท ที่ยังคงรุกตลาดต่อไปด้วยสินค้านวัตกรรมใหม่ ที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้แก่แบรนด์มากยิ่งขึ้น

สำหรับช่วงนี้บริษัทได้ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ "ควิก" ใหม่ ด้วยการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัยในภาพผู้หญิงแบบ 3 มิติ ที่ทันสมัยขึ้นเพื่อจับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และวัยเริ่มต้นทำงาน โดยได้ปรับไปแล้วเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา

ส่วนเดือนมีนาคม บริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์ ควิก! ขลุกขลิก ถึง 4 รสชาติ คือ รสแกงเขียวหวานไก่ รสผัดเผ็ดทะเล รสกะเพราไก่ และรสลาบหมู ที่เปิดตัวใหม่ภายใต้แนวคิด ควิก ขลุก ขลิก น้ำนิดๆ จี๊ดจ๊าด...สะใจ ซึ่งเป็นการเปิดตลาด ใหม่ให้แก่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่อยู่ตรงกลางระหว่างน้ำ กับแห้ง

ทั้งนี้เป็นผลมาจากการที่บริษัทได้ใช้เวลากว่าหนึ่งปีศึกษาตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รวมทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน จนทราบว่ามีกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ที่ชอบการรับประทาน บะหมี่แบบที่เรียกว่า "ขลุกขลิก" คือ การลดปริมาณน้ำในชามเพื่อให้มีรสชาติที่จัดจ้าน อร่อยเข้มข้นมากขึ้น ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเทรนการรับประ ทานบะหมี่แบบใหม่ของคนรุ่นใหม่

ซึ่งการเปิดตัว ควิก ขลุกขลิกในครั้งนี้ จะช่วยให้ไวไวสามารถขยายฐานตลาดใหม่ จากเดิม ที่มีเพียงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบน้ำ และแบบแห้ง ก็จะมีแบบขลุกขลิกเป็นตลาดใหม่เพิ่มเข้ามา และช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่แบรนด์ไวไวเพิ่มขึ้น โดยปี 2545 ไวไว มีส่วนแบ่งการตลาด 32% จากมูลค่าตลาดรวม 2,850 ล้านบาท แบ่งเป็นแบรนด์ไวไว 25% และควิก 7%

สำหรับในปีนี้คาดว่าตลาดรวมบะหมี่น่าจะเติบ โตเพิ่มขึ้น 5-7% หรือมีมูลค่าตลาดประมาณ 9,500 ล้านบาท โดยไวไวคาดว่าจะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้เป็น 38-39% คิดเป็นมูลค่ายอดขาย 3,100-3,200 ล้านบาท ในจำนวนนี้คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดของควิก ที่คาดว่าจะเพิ่มจาก 7% เป็น 10-12% ของตลาดรวม หลังจากที่ทำตลาด ควิก ขลุกขลิกแล้ว 1 ปี และบริษัทยังวางเป้าหมายว่าในปี 2549 จะมีส่วนแบ่งการตลาด 45% ซึ่งเชื่อว่าจะใกล้เคียงกับมาม่า และไวไวน่าจะขึ้นเป็นผู้นำตลาดได้

"เราคิดว่าทิศทางที่ไวไวดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2541 ถูกทางแล้ว เพราะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้เพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งเป็นผลมาจากวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร ความแข็งแกร่งของทีมงาน การคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆสู่ตลาดอยู่เสมอ จึงเชื่อว่าอีกไม่นานไวไวก็จะขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดได้" นายสุชัย กล่าว

ทั้งนี้ไวไว ยังเตรียมเปิดตลาดใหม่ด้วย พาสต้ากึ่งสำเร็จรูปภายใต้แบรนด์ไวไว ในช่วงไตรมาส ที่สองของปีนี้ เพื่อเพิ่มรายได้รวมให้แก่บริษัท ทั้งนี้เป็นเพราะปัจจุบันตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถูกทดแทนด้วย โจ๊ก หรือข้าวต้มกึ่งสำเร็จรูป ที่มีคู่แข่งหลายรายในตลาด ทำให้การเติบโตของตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีไม่มากนัก

นายสุชัย ยังได้กล่าวถึงกรณีที่สหพัฒน์ ซื้อบะหมี่ฟอร์มี ไปทำตลาดเองว่า ไม่รู้สึกหนักใจเพราะว่าการรับรู้ในแบรนด์ของฟอร์มีที่ผ่านมาได้ถูกบั่นทอนลงด้วยปัญหาภายใน แต่เชื่อว่าภายใต้การบริการงานของสหพัฒน์คงจะสร้างกิจกรรมอะไรที่แปลกใหม่มากขึ้น เพื่อจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ และไม่ให้มากระทบกับแบรนด์ของมาม่า

"สำหรับช่วงนี้มาม่าคงไม่มีอะไรใหม่ นอก จากการนำสินค้าเก่ามารีลอนช์ใหม่เท่านั้น ซึ่งการที่ควิกออกรสชาติใหม่ เพื่อเปิดตลาดใหม่เชื่อว่าจะสร้างโอกาสในการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้" นายสุชัย กล่าว

บุญเกียรติชี้ฟอร์มียังอึมครึม

ทางด้านนายบุญเกียรติ โชควัฒนา กรรม การผู้อำนวยการ บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่น แนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มสหพัฒน์เป็นเจ้าของบะหมี่ฟอร์มีแล้ว 100% โดยมี 4 บริษัทที่จะเข้ามาถือหุ้นในบริษัท 4 พีเพิล ฟูดส์ จำกัด เจ้าของบะหมี่ฟอร์มี ประกอบด้วย บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) , บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) , บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูด จำกัด (มหาชน) และบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) คาดว่า แต่ละบริษัทจะถือหุ้นในสัดส่วนที่เท่ากัน

"ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องทิศทางของฟอร์มี เพราะยังไม่มีข้อสรุประหว่างผู้บริหาร แต่ละบริษัท ซึ่งภายในเดือนนี้จะประชุมเพื่อหาแนวทางและกำหนดนโยบาย คาดว่าในสิ้นเดือน นี้น่าจะสรุปผลได้"

อย่างไรก็ตาม นายบุญเกียรติ กล่าวว่า การซื้อธุรกิจมาจากนายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม และศิลปินดาราจากค่ายแกรมมี่นั้น ทางผู้บริหารของสหพัฒน์หลายคนมีความเห็นว่าจะซื้อมาเพื่อ หยุดทำตลาด แต่ตนเห็นว่า ฟอร์มีเป็นธุรกิจ ที่ยังไปได้ อย่างน้อยก็เป็นธุรกิจที่สหพัฒน์ทำมานานและมีความชำนาญ จึงน่าจะทำตลาด ต่อไป

"เราตัดสินใจเดินหน้าต่อ เพราะเป็นธุรกิจที่เราถนัด ซึ่งไม่ได้หวังว่าทำแล้วจะต้องมีกำไรมากมาย" นายบุญเกียรติ กล่าว

แม้ว่าขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนด้านการบริหาร แต่ในเบื้องต้นไอ.ซี.ซี.ฯ จะเป็นผู้กระจาย สินค้าเช่นเดิม โดยขายผ่านโมเดิร์นเทรด ร้านค้า ร้านย่อยและซาปั๊ว ในขณะที่กลุ่มยี่ปั๊ว ยังไม่สามารถจำหน่ายได้เนื่องจากกลุ่มนี้จะขายเฉพาะ สินค้าที่ติดตลาดแล้ว หรือมียอดสั่งซื้อเข้ามาแล้วเท่านั้น

สำหรับสัญญาแต่งตั้งบริษัทจัดจำหน่าย ที่บริษัท 4 พีเพิล ฟูด จำกัด ในช่วงที่นาย ไพบูลย์ยังถือหุ้นอยู่ ได้แต่งตั้งให้ดีทแฮล์ม เป็นผู้จัดจำหน่ายฟอร์มี ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม เป็นต้นไปนั้น เมื่อฟอร์มีมาอยู่ในมือของ สหพัฒน์แล้วก็คงต้องยกเลิกสัญญากับดีทแฮล์ม ไปโดยปริยาย ส่วนกับบริษัทตัวแทนโฆษณาอย่าง เอส ซี แมชบอกซ์ นั้น ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะทำ อย่างไรต่อไป

"วันนี้ผมต้องยืนยันว่าไอ.ซี.ซี.มีจุดแข็งเรื่องการจัดจำหน่าย และที่ผ่านมาเราวางตลาดฟอร์มีในช่วงแรกก็ทำได้ดี มีผลงานที่น่าพอใจ ซึ่งเราเข้าใจธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคดีว่า มันต้องค่อยเป็นค่อยไป จะไปหวังว่าเปิดตลาดมาแล้ววางตูมเดียวทั่วประเทศนั้นเป็นไปไม่ได้ ผมเข้าใจความรู้สึกของผู้ถือหุ้นเดิมที่เขายังไม่เข้าใจธุรกิจนี้ดีพอ" นายบุญเกียรติ กล่าว

อย่างไรก็ตาม นายบุญเกียรติให้ความมั่นใจว่า แม้ว่าในปัจจุบันคู่แข่งขันจะรุกตลาดมากขึ้น แต่มาม่าและฟอร์มี ก็ยังทานกระแสการแข่งขันนี้ไว้ได้ โดยเฉพาะการมีฟอร์มี เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งเชื่อว่าจะทำให้มาม่ารักษาความเป็นผู้นำในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต่อไปได้

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us