Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน9 มีนาคม 2550
ศรีไทยแตกธุรกิจบุกคอลลิ่งการ์ดผุดรง.ซอสในลาวฐานส่งออกเอเชีย             
 


   
search resources

Food and Beverage
Marketing
ศรีไทย ฟู้ด เซอร์วิส, บจก.
วันชัย รุ่งภูวภัทร




ศรีไทย ฟู้ด เซอร์วิส ทุ่ม 90 ล้านบาท จับมือพันธมิตรอเมริกา-อิตาลี แตกธุรกิจใหม่คอลลิ่ง การ์ด บัตรโทรทัศน์ต่างแดนชูค่าบริการ 2-3 บาท ส่วนธุรกิจซอสซองเท 50 ล้านบาท ผุดโรงงานในลาว หวังใช้อาฟต้าช่วยลดต้นทุนผลิต 50% เล็งเป็นฐานส่งออกเชนฟาสต์ฟู้ดทั่วเอเชีย ลั่นปีหน้าปั้นแบรนด์ตนเองขึ้นลุยตลาดซอส แนะผู้ประกอบการขนาดย่อมต้องเร่งปรับตัวรับมือระบบการค้าเสรี

นายวันชัย รุ่งภูวภัทร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีไทย ฟู้ด เซอร์วิส ผู้ดำเนินธุรกิจบริการสินค้าในบรรจุภัณฑ์ซองซอสพริก มะเขือเทศ เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯวางแผนขยายไลน์ธุรกิจใหม่และธุรกิจเดิมที่มีอยู่แล้วภายใต้การทุ่มงบ 90 ล้านบาท นำร่องปีนี้ขยายธุรกิจใหม่จากผู้ดำเนินธุรกิจรับจ้างผลิตบรรจุซอสแบบซอง และบริการบรรจุสินค้าในบรรจุภัณฑ์ ฯลฯ มาสู่ธุรกิจคอลลิ่ง การ์ด หรือบัตรโทรศัพท์โทรไปยังต่างประเทศ โดยในเบื้องต้นวางอัตราการบริการ 2-3 บาท ซึ่งคาดว่าใช้งบลงทุนในธุรกิจดังกล่าว 20 ล้านบาท โดยจับมือร่วมกับพันธมิตรในประเทศอเมริกาและอิตาลี

ส่วนธุรกิจผลิตซอสบรรจุซอง และผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ ปีนี้บริษัทฯจะเน้นการบริหารต้นทุนให้ลดลง หลังจากที่ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น 10% ซึ่งยังไม่รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบและค่าแรงงานที่ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อช่วงต้นปี ดังนั้นปีนี้บริษัทฯจึงได้ทุ่มงบ 50 ล้านบาท สร้างโรงงานแห่งใหม่ขึ้น ที่ ประเทศลาว บนพื้นที่ 60 ไร่ ทั้งนี้เพื่อลดต้นทุนการผลิตที่ถูกลงกว่าประเทศไทยถึง 50% เนื่องจากการเข้าไปตั้งโรงงานในลาว ทำให้บริษัทฯอาศัยเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ภาษีนำเข้าสินค้าจากลาวมายังประเทศไทยเหลือเพียง 5% อีกทั้งยังลดเรื่องค่าแรงงาน ซึ่งเสียเพียง 40 บาทต่อคนต่อวัน เมื่อเทียบกับแรงงานไทยกว่า 200 บาทต่อคนต่อวัน

สำหรับการตั้งโรงงานในประเทศลาว บริษัทฯวางไว้เป็นฐานการส่งออกในประเทศเอเชียและประเทศไทย ซึ่งคาดว่ากำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จากปัจจุบันในไทยมีโรงงานผลิตซอสและอื่นๆ 2 แห่ง ได้แก่ โรงงานผลิตและบรรจุภัณฑ์ ตั้งอยู่ที่ นิคมอุตสาหกรรมบางปู และโรงพิมพ์-บรรจุภัณฑ์ ตั้งอยู่ที่ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งใช้เงินลงทันไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท ในเบื้องต้นจะส่งออกในเชนแมคโดนัลด์ 7-8 ประเทศ และเคเอฟซี 4-5 ประเทศ และค่ายอาหารฟาสต์ฟู้ดอีกหลายแห่ง และบริษัทฯยังมีความสนใจที่จะลงทุนด้านบรรจุภัณฑ์ในประเทศเวียดนาม โดยกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา

“การหันไปลงทุนสร้างโรงงานในประเทศลาว ก็เพื่อรองรับกับการแข่งขันที่มีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะระบบการค้าเสรีต่างๆ และประการสำคัญรองรับกับสินค้าจีนที่ใช้กลยุทธ์ราคาถูกกว่าเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ซึ่งมองว่าผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลางมีรายได้ 200-300 ล้านบาท จะต้องเตรียมตัวรับมือในเรื่องดังกล่าวให้ดี โดยเฉพาะต้องศึกษาเกี่ยวกับระบบการค้าเสรีต่างๆ ซึ่งจะมีผลในเรื่องภาษีนำเข้าสินค้าที่ลดลง และมีผลต่อธุรกิจของตนเองอย่างไรบ้าง”

นายวันชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับปีนี้บริษัทฯได้เตรียมลงทุนเพิ่มอีก 20 ล้านบาท สั่งซื้อเครื่องจักรผลิตบรรจุภัณฑ์และขยายพื้นที่เพิ่มเติม อีกทั้งยังเตรียมผลิตซอสภายใต้แบรนด์ของตนเองขึ้นมาทำตลาดในปีหน้านี้ ล่าสุดปีนี้บริษัทได้รับเป็นผู้ผลิตน้ำจิ้มไก่ย่าง 5 ดาว ในบรรจุภัณฑ์ขวดเพิ่มจากบรรจุภัณฑ์ซอง

สำหรับผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 10% จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 300 ล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มแรกการรับจ้างผลิตและบรรจุซอส และสินค้าอื่นๆ ในลักษณะซองให้กับฟาสต์ฟู้ด อาทิ แมคโดนัลด์ เคเอฟซี ไก่ย่างห้าดาว เป็นต้น สัดส่วน 50% กลุ่มที่สอง บริการบรรจุภัณฑ์เฉพาะให้กับผลิตภัณฑ์แบรนด์เนมต่างๆ ในลักษณะโค แพกเกอร์ ประกอบด้วย โอวัลติน มอคโคน่า เขาช่อง 25% และกลุ่มที่สาม-สี่ บริการบรรจุภัณฑ์ในกลุ่มโรงแรมและร้านอาหารรวมกว่า 2,000 แห่ง และการผลิตสินค้าเฮาส์แบรนด์ให้กับโมเดิร์นเทรด คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 25%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us