โอเลย์ รุกขยายสกินแคร์เซกเมนต์พรีเมียม-แมส ปั้นไวท์ เรเดียนซ์ ขยายฐานผู้หญิงเมืองกรุงอยากผิวขาว อัดฉีดงบเพิ่มขึ้น 2 ตัวเท่า หลังหยุดทำตลาดร่วม 5 ปี หวังบูมติดลมบน ล่าสุดส่ง โอเลย์ ไวท์ เรเดียนซ์ อินเทนซีฟ ครีม ระเบิดศึกตลาดไวท์เทนนิ่ง สิ้นปีตอกย้ำบัลลังก์ผู้นำตลาดครองแชร์มากกว่า 31%

นายธนายุส ลีรพันธ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์โอเลย์ บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงผิวโอเลย์ เปิดเผยว่า บริษัทฯได้วางแนวทางการตลาดโอเลย์ขยายไปสู่ตลาดพรีเมียม-แมส ภายใต้กลุ่มผลิตภัณฑ์ "โอเลย์ ไวท์ เรเดียนซ์" หลังจากที่หยุดทำตลาดไปกว่า 5 ปี และกลับมาเคลื่อนไหวเมื่อปีที่ผ่านมาด้วยการเปิดตัว"โอเลย์ ไวท์ เรเดียนซ์ มาส์ก” ซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 25% จากมูลค่า 300 ล้านบาท เป็นอันดับหนึ่งของตลาด

ล่าสุดเพื่อขยายไปสู่เซกเมนต์พรีเมียม-แมสอย่างต่อเนื่อง ปีนี้เปิดตัวโอเลย์ ไวท์ เรเดียนซ์ อินเทนซีฟ ครีม โดยบริษัทฯได้ทุ่มงบการตลาดสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์โอเลย์ ไวท์ เรเดียนซ์ เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าตัว

ส่วนการทำตลาดโอเลย์โดยรวมปีนี้ บริษัทฯเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ 4 ตัว ใน 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กลุ่มเอจจิ้ง โอเลย์ โททัล เอฟเฟกซ์,รีเจนเนอริส และกลุ่มไวท์เทนนิ่ง ประกอบด้วย โอเลย์ ไวท์ เรเดียนซ์ และโอเลย์ โททัล ไวท์

สำหรับแนวทางการตลาดโอเลย์ ไวท์ เรเดียนซ์ เจาะกลุ่มเป้าหมายคนเมืองในสัดส่วน 95% ที่เหลืออีก 5% เป็นตลาดต่างจังหวัด โดยวางกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้หญิงทำงานอายุระหว่าง 24-30ปี ส่วนตลาดต่างจังหวัดบริษัทฯจะมีกลุ่มผลิตภัณฑ์โอเลย์ โททัล ไวท์ เป็นเรือธงในการทำตลาด โดยบริษัทฯจะนำกลยุทธ์การตลาดเชิงประสบการณ์ (Experiential Marketing) มาเป็นแนวคิดจัดกิจกรรม "โอเลย์ กล้า ท้าให้ลอง" โดยได้ทุ่มงบผ่านการสื่อสารการตลาด และกิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์ ทั้งสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์และสิ่งพิมพ์ อีกทั้งเน้นจัดกิจกรรมการตลาด ณ จุดขายมากที่สุด

พร้อมกันนี้ยังได้จัดกิจกรรมพิเศษ 3 สาว Divas 3 บุคลิก เปิดตัวฑูตความงาม นาตาลี-ณัฎฐินี เจียรวนนท์ ,ไหม-วิสา สารสาส และแอม- สุทธิกานต์ หวังเจริญทวีกุล ทั้งนี้คาดว่าการดำเนินกลยุทธ์เชิงประสบการณ์ จะทำให้กลุ่มเป้าหมายสัมผัสกับประสบการณ์จริง ระหว่างแบรนด์โอเลย์กับผู้บริโภค ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวช่วยตอกย้ำให้แบรนด์อยู่ในใจของผู้บริโภค

และเกิดความภักดีต่อตราอสินค้า สร้างโอกาสในการซื้อซ้ำ โดยการเปิดตัวโอเลย์ ไวท์ เรเดียนซ์ อินเทนซีฟ ครีม ผลักดันให้กลุ่มไวท์เทนนิ่งมีความแข็งแกร่งในช่องทางโมเดิร์นเทรด ซึ่งปัจจุบันโอเลย์เป็นผู้นำทางช่องทางนี้ ส่วนตลาดต่างจังหวัดพอนด์สไวท์เทนนิ่งเป็นผู้นำตลาด

แนวโน้มตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงผิวมีมูลค่า 7,500 ล้านบาท โดยปีนี้สภาพตลาดจะมีอัตราการเติบโตเท่าปีที่ผ่านมา คือ 10% โดยแบ่งเป็นตลาดไวท์เทนนิ่งสัดส่วน 60% และเอจจิ้ง 40% มีอัตราการเติบโตเท่าปีที่ผ่านมาคือ 10%

อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบระหว่างพอนด์สค่ายคู่แข่ง แนวทางการทำตลาดจะขยายเซกเมนต์พรีเมียม-แมสด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์เอจจิ้ง ในขณะที่โอเลย์เน้นขยายตลาดพรีเมียม-แมสในกลุ่มไวท์เทนนิ่งมากกว่า เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่กว่าอีกทั้งพบว่ากลุ่มเป้าหมายต้องการผลิตภัณฑ์ตอบสนองในเรื่องของความขาวมากกว่า โดยเฉพาะกลุ่มคนเมืองที่ต้องการผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งที่ดีมากขึ้น

ปัจจุบันโอเลย์เป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงผิวครองส่วนแบ่ง 31% แบ่งเป็น กลุ่มไวท์เทนนิ่ง 14% ได้แก่ โอเลย์ ไวท์ เรเดียนซ์ มีส่วนแบ่ง 7% ส่วนโอเลย์ โททัล ไวท์ มีส่วนแบ่ง 7% ส่วนกลุ่มเอจจิ้งมีส่วนแบ่ง 19% แบ่งเป็น โอเลย์ โททัล เอฟเฟกซ์ 16% และรีเจนเนอริส 2%

ส่วนอันดับสองเป็นพอนด์สมีส่วนแบ่ง 25% ทั้งนี้การรุกขยายตลาดพรีเมียม-แมสคาดว่าจะผลักดันให้โอเลย์มีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นในสิ้นปีนี้