ผู้ประกอบธุรกิจสุกี้ชี้ เอ็มเค ทำสัญญาผูกขาดทางการค้ากับห้าง สรรพสินค้าและโมเดิร์นเทรด
ไม่เปิดเสรีให้ผู้ดำเนินธุรกิจสุกี้หน้าใหม่เข้าไปทำตลาด ฮอต พอต ชูกลยุทธ์คุ้มค่าคุ้มราคา
ถูกกว่า 20% ฮึดสู้ วอนขอให้เป็นไปตามกลไกตลาด พร้อมปีนี้เตรียมขยายสาขาเพิ่ม 15
สาขา เลี่ยงหาช่องว่างทำตลาดต่างจังหวัด เล็ง 3-5 ปี หากโตก้าวกระโดด ผุดอีก 100
สาขา ส่วนนีโอสุกี้ใช้วิธีส่ง ถึงบ้าน และหันไปขยายธุรกิจในต่างประเทศแทน
แหล่งข่าวจากวงการสุกี้ เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน" ว่าการดำเนินธุรกิจสุกี้ใน
ปัจจุบันผู้ประกอบ ไม่ว่าจะเป็น นีโอ สุกี้, ฮอต พอต,เทกซัส ไม่สามารถเข้าไปเปิดตาม
ห้างสรรพสินค้า เช่น เซ็นทรัล โรบินสัน บิ๊กซี หรือแม้กระทั่งโมเดิร์นเทรดได้ หาก
เจ้าตลาดอย่างเอ็มเคสุกี้ได้เข้าไปเปิดดำเนิน ธุรกิจแล้ว เนื่องจากลักษณะการทำสัญญาของเอ็มเคเป็นการทำสัญญาผูกขาด
เพียงรายเดียว ทำให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่เกิดขึ้นในตลาดลำบาก เนื่องจากห้างสรรพสินค้าถือว่าเป็นสถานที่ที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจดังกล่าว
"ผมมองว่ามันเป็นสิ่งที่ผูกขาดมากเกินไป ขณะที่เคเอฟซี แมคโดนัลด์ มีลักษณะเป็นฟาสต์ฟูดเหมือนกัน
แต่ยังสามารถเปิดใกล้กันได้ แทนที่ห้างสรรพสินค้าจะเปิดการค้าอย่างเสรี เพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น
เข้าใจว่าเวลานี้หากใครให้เอ็มเคเข้าไปดำเนินธุรกิจรับรองก็ไม่ผิดหวัง เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในตลาดอยู่แล้ว"
แหล่งข่าวกล่าว
ทางด้านนางสกุณา บ่ายเจริญ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท อีสเทิร์นฟู้ดซัพพลาย จำกัด
ผู้ดำเนินธุรกิจสุกี้แบรนด์ฮอต พอต เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน" ว่า บริษัทได้ดำเนินธุรกิจสุกี้มากกว่า
6 ปี โดยเริ่มจากการเปิดร้านเล็กๆในจังหวัดฉะเชิงเทรา จนกระทั่งการดำเนินธุรกิจมีอัตราเติบโตแบบก้าวกระโดด
200 % โดยปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 37 สาขา แบ่งเป็นต่างจังหวัด 22 สาขา กรุงเทพ
15 สาขา สำหรับกลยุทธ์การเจาะตลาดคือ การขยายสาขาตามแหล่งช้อปปิ้งพลาซ่าเล็กๆมากกว่าไปตามห้างสรรพสินค้า
เนื่องจากเอ็มเคสุกี้มีสัญญาผูกขาดกับห้างเพียงรายเดียว
อย่างไรก็ตาม ในวงการสุกี้ถือว่าเอ็มเคเป็น เจ้าตลาดและเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค
ทำให้บริษัทต้องงัดกลยุทธ์สู้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การทำโปรโมทชั่น ลด แลก แจก
แถม แต่ทั้งนี้สุกี้ ฮอต พอต ก็พยายามชูจุดเด่น ในเรื่องของคุ้มค่า คุ้มราคา ในการกิน
ซึ่งมีราคาถูกกว่าเอ็มเค 10-20% และรับประกันความ รวดเร็วในการบริการส่งอาหารภายใน
5 นาที หาก ไม่สามารถส่งได้ทันจะลดราคา 20% นอกจากนี้ยังสร้างความแตกต่างด้วยการนำ
ชาบู เข้า มาเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งให้แก่ผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทวางงบการตลาด
5-10 ล้านบาท เพื่อให้ผู้บริโภครับรู้แบรนด์ฮอต พอต มากขึ้น
"สุกี้ฮอต พอต เคยเข้าไปเสนอกับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเช่นกัน แต่ได้รับการปฏิเสธ
เนื่องจากได้ทำสัญญาไว้แล้วกับทางเอ็มเค เราอยากให้ห้างสรรพสินค้าเปิดเสรีมากขึ้น
และปล่อยให้เป็นกลไกของตลาดมากกว่า ซึ่งหากแบรนด์ไหนไม่สามารถสู้กับเอ็มเคได้ในสุดที่ก็จะเป็นผู้ถอยไปเอง
การดำเนินการในลักษณะดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่เข้ามาทำตลาดลำบาก" นางสกุณา
กล่าว
สำหรับภาพรวมของตลาดสุกี้เติบโตเฉลี่ยประมาณ 10% ทุกปี ในขณะที่แนวโน้มการ แข่งขันเอ็มเคเป็นแบรนด์ที่ผูกขาดในตลาดเพียง
แบรนด์เดียว ส่วนแบรนด์อื่นๆ เช่น นีโอ สุกี้ มีการลดจำนวนสาขาลง โคคา สุกี้ ไม่มีแนวโน้มว่าจะเปิดสาขาเพิ่มขึ้นในประเทศไทย
ซึ่งถือว่า ฮอต พอต เป็นแบรนด์เดียวที่มีแผนจะขยายสาขา เพิ่มในปีนี้อีก 12-15 สาขา
แบ่งเป็นต่างจังหวัด 7 สาขา กรุงเทพ 5 สาขา
เหตุผลที่บริษัทเลือกขยายสาขาไปต่างจังหวัดมากกว่า เนื่องจากบริษัทพยายามหา ช่องว่างในการทำตลาด
ซึ่งในตลาดกรุงเทพฯนั้นผู้บริโภคมักยึดติดกับแบรนด์เมื่อกินสุกี้จะต้องไปเอ็มเคเท่านั้น
ทั้งนี้ตั้งเป้า 3-5 ปี หากการดำเนินธุรกิจโตแบบก้าวกระโดด ขยายครบ 100 สาขา
สำหรับภายหลังจากบริษัทเปลี่ยนชื่อจากโคคา เฟรช มาเป็น ฮอต พอต ทำให้สุกี้เป็น
ที่นิยมของตลาดมากขึ้น โดยสามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นจากเดิม 20% ในขณะที่บริษัทมีส่วนแบ่งตลาด
3-4% เอ็มเคสุกี้ มีส่วนแบ่ง 95% จากมูลค่าตลาดรวม 6,000 ล้านบาท
สำหรับนีโอ สุกี้ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการ ร้านสุกี้ รายเล็ก ก็เจอปัญหาเช่นเดียวกัน
คือ ไม่สามารถขยายสาขาเข้าไปยังห้างสรรพสินค้าได้ ก็พยายามหาทางออกด้วยการเปิดในย่านชุมชนนอกศูนย์การค้า
ด้วยรูปแบบบริการจัดส่งถึงบ้าน เป็นหลัก และการขยายธุรกิจในต่างประเทศแทน ซึ่งนอกจากประเทศญี่ปุ่นที่ได้เปิดให้บริการไปแล้ว
ยังมีที่อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ และมีแผน ที่จะขยายสาขาในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย