อัลทิเมท ไทม์ เปิดตัวนาฬิกาแบรนด์ใหม่ 3 แบรนด์ที่ได้รับสิทธิ์ทำตลาดใน MNG, Timberland และ Esprit ทั้งนาฬิกา และเครื่องประดับ ลุยตลาดหนักหน่วงควบกับ 4 แบรนด์เดิม พร้อมขยายไลน์สู่เครื่องประดับด้วย เดินหน้าเพิ่มตัวแทนจำหน่ายในต่างจังหวัดอีก 20% หวังขยายฐานลูกค้า มั่นใจปีนี้รายได้ทะลุ 100 ล้านบาท หลังจากที่ปีที่แล้วยอดขายโต 100%
นายฟิลลิป แยบ ผู้จัดการฝ่ายบริหารภาคพื้นเอเชีย – แปซิฟิก บริษัท อัลทิเมท ไทม์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายนาฬิกาต่างประเทศหลายแบรนด์ในประเทศไทย เช่น นาฬิกา โอดีเอ็ม, ลีวาย, อีด๊อก, บอเมง และปากกานำเข้าจากประเทศ อีตาลี Omas เปิดเผยว่า จากการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดนาฬิกาในประเทศไทย ทำให้หลายบริษัทผู้นำเข้านาฬิกาจากต่างประเทศเร่งสร้างกิจกรรมการตลาด เพื่อครอบครองส่วนแบ่งและก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำในตลาดนาฬิกาอย่างแท้จริง บริษัทฯจึงได้จัดงานเปิดตัวนาฬิกา แบรนด์ Balmain “บอเมง” จากประเทศสวีสเซอร์แลนด์ พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์สาว “ลูกเกด” จิรดา โยฮารา ที่จะรับหน้าที่เป็น “Brand Ambassador” ในการทำตลาดด้วย
แบรนด์ บอเมง จะจับกลุ่มคนที่เริ่มต้นการทำงาน คอลเลคชั่นนาฬิกาส่วนใหญ่ 70% จับกลุ่ม ผู้หญิง และอีก 30% จับกลุ่มผู้ชาย มีราคาจำหน่ายเฉลี่ย 15,000 - 60,000 บาทต่อเรือน โดยกลยุทธ์การทำตลาดจะเน้นการใช้กิจกรรมการประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อนิตยสารแฟชั่น การแสดงแฟชั่นโชว์ รวมถึงการใช้บุคคลที่มีชื่อเสียงมาช่วยสร้างภาพลักษณ์ของนาฬิกาให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งบุคคลที่มีชื่อเสียงจะมีการเปลี่ยนทุกๆ 3 เดือนเพื่อการประชาสัมพันธ์นาฬิกา ส่วนช่องทางการจัดจำหน่ายของนาฬิกาบอเมงจะเน้นร้านในระดับกลางถึงบน โดยมีเคาท์เตอร์จำหน่ายประมาณ 20 แห่ง และมีการนำคอลเลคชั่นใหม่ออกทำตลาดภายในปีนี้ประมาณ 10 รุ่น
นอกจากนี้ทางบริษัทฯยังได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาเพิ่มอีก 3 แบรนด์ดัง คือ นาฬิกา Manago (MNG), Timberland Watches, Esprit Timewear & Esprit Jewel ทั้งนาฬิกา และเครื่องประดับ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ซึ่งทั้ง 3 แบรนด์นี้ เป็นแบรนด์ที่จะทำตลาดหลักในปี 2550 นี้ จากเดิมบริษัทฯได้นำเข้านาฬิกา โอดีเอ็ม, ลีวาย, อีด๊อก, บอเมง และปากกานำเข้าจากประเทศ อีตาลี Omas
ทั้งนี้ แบรนด์เอสปรี (Esprit) จับกลุ่มเป้าหมายทั้งผู้หญิง และผู้ชายในระดับแมส ราคาตั้งแต่ 4,000 -10,000 บาท นอกจากจะจำหน่ายนาฬิกาเอสปรีแล้ว บริษัทฯยังจะนำเข้ากลุ่มสินค้าจิวเวลรี ได้แก่ แหวน, กำไล, สร้อยคอ เข้ามาจำหน่ายด้วยทั้งกลุ่มผู้หญิง และกลุ่มผู้ชาย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของบริษัทฯที่มีกลุ่มสินค้าประเภทนี้
ส่วนแบรนด์แมงโก (MNG) ซึ่งเป็นแบรนด์เดียวกับเสื้อผ้าเอ็มเอ็นจีนั้น จะจับกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงเป็นหลัก โดยวางจำหน่ายในราคา 4,000-5,000 บาทต่อเรือน และแบรนด์ทิมเบอร์แลนด์ (Timberland) จะจับกลุ่มเป้าหมายผู้ชาย วางจำหน่ายในราคา 3,000-8,000 บาทต่อเรือน
สำหรับปีนี้บริษัทฯจะใช้งบประมาณการทำตลาดประมาณ 10% ของยอดจำหน่าย ในด้านการจัดกิจกรรมทางการตลาดต่างๆที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของนาฬิกาแต่ละแบรนด์ ซึ่งในปีที่ผ่านมาบริษัทฯมียอดขายกว่า 80 ล้านบาท คาดว่าในปีนี้ผลประกอบการคงจะเติบโตมากขึ้นอีกคาดว่าจะทะลุ 100 ล้านบาท เพราะเนื่องจากบริษัทฯมีแบรนด์นาฬิกาเพิ่มขึ้นอีก 3 แบรนด์ และในปีนี้บริษัทฯมีแผนที่จะเพิ่มตัวแทนจำหน่ายขึ้นอีก 10-20% ในต่างจังหวัด จากปัจจุบันมีตัวแทนอยู่ 100 ราย
นายฟิลลิป กล่าวถึงสถานการณ์การแข่งขันในธุรกิจนาฬิกาแฟชั่นว่า ในปีนี้ยังถือว่ามีความรุนแรง เนื่องจากแต่ละบริษัทนั้นมีการนำเข้าสินค้าแบรนด์ใหม่ๆเข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการทำกิจกรรมทางการตลาดอยู่ตลอดเวลาในรูปแบบใกล้เคียงกัน ทั้งในรูปแบบการจัดโปรโมชั่นร่วมกับห้างสรรพสินค้า การร่วมกับธนาคารหรือบัตรเครดิต การแถมสินค้าพรีเมียม เป็นต้น
|