|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ถ้าเทียบการตัดพอร์ตลงทุนในปี 2550 กับปีที่ผ่านมาคงไม่แตกต่างกันนัก ด้วยสถานการณ์แวดล้อมที่ยังอยู่ในภาวะเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และการเมือง ยังผลให้ "กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ" (กบข.) จัดสรรเงินลงทุนต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยงมากขึ้น พร้อมเสาะแสวงแหล่งลงทุนใหม่ ๆ ที่จะทำให้สมาชิกรับผลตอบแทนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ในปีนี้ "กบข." มีนโยบายแสวงหาแหล่งลงทุนใหม่ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยงเนื่องจากเมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองแล้ว การลงทุนในประเทศยังไม่มีปัจจัยบวกมาสนับสนุนมากนัก ด้วยเหตุนี้แหล่งลงทุนใหม่ ๆ โดยเฉพาะในต่างประเทศ ซึ่งเป็นจุดที่ กบข. โฟกัส
วิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ บอกว่า สัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2549 อยู่ที่ 9.2% แต่แผนการลงทุนปีนี้จะขยายสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 15% เนื่องจากให้ผลตอบแทนดี และกระจายความเสี่ยงในถาวะที่การลงทุนในประเทศยังไม่เอื้ออำนวย ขณะเดียวกันยังขยายสัดส่วนการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ จาก 4.3% เป็น 8% ด้วยเล็งเห็นว่าการลงทุนในต่างประเทศและกองทุนอสังหาริมทรัพย์ให้ผลตอบแทนที่ดี
อาจเป็นเพราะในปี 2549ที่ผ่านมา กบข. มีผลตอบแทนจากการลงทุนไม่เป็นที่น่าพอใจนัก โดยอยู่ที่ 3.44% คิดเป็นเม็ดเงิน 8 พันกว่าล้านบาท ซึ่งพลาดจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ในระดับ 5% อาจด้วยเหตุผลเรื่องการ พอร์ตลงทุนของ กบข. กระนั้นเมื่อดูผลตอบแทนเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนจนถึงปัจจุบัน กบข.ทำได้ 8.14% ต่อปี
ไม่ใช่ว่า กบข. จัดพอร์ตลงทุนไม่ดีพอ แต่เพราะสถานการณ์ในประเทศที่แปรปรวนตลอดเวลา ทำให้การจัดพอร์ตลงทุนไม่ใช่เรื่องง่ายด้วยต้องคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงหลายประการ และอาจด้วยเหตุผลประการนี้เองที่ทำให้ กบข. เพิ่มสัดส่วนการลงทุน ในต่างประเทศ และในกองทุนอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น โดยหวังไว้ในใจว่าสัดส่วนการลงทุนที่ปรับใหม่ในปี 2550 จะสร้างผลตอบแทนได้ 5% ตามที่ตั้งเป้าไว้
ทั้งนี้พอร์ตลงทุน วันที่ 31 ธันวาคม 2549 เป็นการลงทุนในประเทศ 82.1% ต่างประเทศ 9.2 กองทุนอสังหาริมทรัพย์ 4.3% ลงทุนทางเลือก 4.4%
วิสิฐ บอกอีกว่า หุ้นเป็นหลักทรัพย์ที่น่าลงทุน ตามเพดานแล้ว กบข.ลงได้เต็มที่ถึง 30% แต่ที่ผ่านมาลงไปประมาณ 20% ซึ่งปีนี้จะขยายการลงทุนไม่น้อยกว่า 25% ซึ่งที่ขยายเพิ่มนั้นแม้จะเห็นว่าการลงทุนในตลาดหุ้นมีความเสี่ยงสูง แต่สิ่งนั้นก็ตามมาด้วยผลตอบแทนสูงเช่นกัน แต่ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการให้ดี ส่วนถามว่าจะลงทุนเต็มเพดานหรือไม่นั้นเห็นจะเป็นไปได้ยาก เพราะ กบข.เองก็คำนึงถึงความเสี่ยงเช่นกัน โดยเฉพาะเม็ดเงินที่ลงทุนนั้นไม่ใช่ขององค์กร หากแต่เป็นของสมาชิก
"ปีนี้ กบข.อาจลงทุนในหุ้นประมาณ 26-28% แต่ไม่เต็มเพดาน 30% แน่ โดยสัดส่วนการลงทุนหุ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศจะใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะในต่างประเทศมีผลบวกกับเรามาก แค่ 4 เดือนของการลงทุนให้ผลตอบแทนเกือบ 5% ซึ่งดีกว่าการลงทุนในประเทศ"
โดยภาพรวมกลยุทธ์การลงทุนของ กบข. ยังไม่ทิ้งภาพความเป็นนักอนุรักษ์นิยม เห็นได้จากสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ถือครองไว้ถึงกว่า 70% ส่วนหนึ่งเพราะเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำสุด ขณะที่ผลตอบแทนแม้ในยามที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ช่วงขาขึ้นก็ยังนับว่าดี ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5-6%
ส่วนการลงทุนทางเลือก ที่ถามว่าสนในลงทุนดาวเทียมหรือไม่นั้น วิสิฐ กล่าวอย่างอ่อมแอ้มแบบไม่ตอบรับแต่ก็ไม่ปฏิเสธ เพราะการลงทุนของ กบข. อยู่ภายใต้พื้นฐานการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้สมาชิก หากการลงทุนในธุรกิจดาวเทียมสร้างผลตอบแทนที่ดีก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจ
กบข. ถูกสังคมจับตาว่ากลายเป็นองค์กรที่จะเข้าไปซื้อธุรกิจดาวเทียม "ชินแซทเทลไลท์" จากเทมาเส็กนั้น เพราะบทบาทการเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่ถือสินทรัพย์ กว่า 3 แสนล้านบาท ทั้งยังเป็นรัฐวิสาหกิจ ทำให้บางครั้งการสนองนโยบายรัฐเป็นเรื่องที่เลี่ยงยาก
"ถึงกระนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำได้ ปัจจัยอยู่ที่เมื่อลงทุนซื้อดาวเทียมคืนมาแล้ว เราสามารถบริหารจัดการได้ดีแค่ไหน เรามีความชำนาญในธุรกิจนี้หรือไม่ ทุกอย่างต้องศึกษา จะให้ตอบรับทันทีคงไม่ได้"
แม้ กบข. จะมีการปรับพอร์ตลงทุนให้เข้ากับสถานการณ์ แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องลงทุนในธุรกิจดาวเทียม ที่สำคัญเคยประกาศไว้ว่ายึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงในการบริหารงาน คือการรอบรู้ที่จะนำความรู้ต่าง ๆ มาใช้วิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจและการเงิน อย่างรอบคอบและระมัดระวัง ด้วยเหตุนี้ การลงทุนธุรกิจดาวเทียมใน พอร์ตลงทุนทางเลือกจึงเป็นเรื่องที่เก็บไว้ในใจ
สมบัติจำนวนมหาศาลที่ กบข. ครอบครองไว้ในกำมือ ไม่อาจนำมาใช้ได้ตามอำเภอใจ ด้วยสมบัติดังกล่าวมิใช่ของ กบข. แต่ผู้เดียว หากเป็นของเหล่าสมาชิกข้าราชการทั่วประเทศ ดังนั้นหน้าที่ กบข. คือการบริหารจัดการเม็ดเงินมหาศาลจำนวนนี้ ให้ได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด ด้วยการลงทุนในหลักทรัพย์ที่คิดว่าดีที่สุดเช่นกัน
|
|
|
|
|