Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน7 มีนาคม 2546
ดีแทคจัดมาตรการคุมเข้ม ป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพมือถือ             
 


   
www resources

โฮมเพจ DTAC

   
search resources

โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น, บมจ.




ดีแทคเร่งปรับปรุงมาตรการการป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพที่หากินกับธุรกิจมือถือ ด้วยการจัดระเบียบดีลเลอร์และจุดลงทะเบียน ให้อยู่ในกรอบ กำหนดเครดิต ลิมิตที่เริ่มต้นด้วยค่าบริการ 800 บาท ต่อเดือน และตรวจสอบหลักฐานจากสำนักทะเบียนราษฎร์ พร้อมให้ใช้บัตรประชาชนตัวจริงพร้อมสำเนาซื้อผลิตภัณฑ์ ขณะเดียวกันได้โชว์ศักยภาพเครือข่าย โดยชูจุดเด่นที่มีปริมาณสายหลุดเพียง 1.1% พร้อมจ่าย ค่าชดเชยคืน และกรณีโทร.ไม่ติดเพียง 0.5% เป็นจุดขาย เผยรอบปีนี้ เร่งขยายเครือข่ายในตัวอาคารกว่า 500 สถานีฐาน

นายชิคเว่ เบรคเก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 1800 เมกะเฮิรตซ์ ภายใต้ชื่อดีแทค เปิดเผยว่า จากปัญหาของอุตสาหกรรมมือถือ ซึ่งเกิดจากกลุ่มมิจฉาชีพนั้น ขณะนี้ดีแทคได้มีมาตรการเพื่อควบคุมเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วน เพราะเรื่องนี้จะเป็นเงาตามอัตราการโตของธุรกิจมือถือ

"ปัญหาของมิจฉาชีพมือถือจะร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ ดีแทคจึงต้องเร่งปรับปรุงมาตรการการป้องกันให้ดีที่สุด เพราะไม่ยากให้ผู้บริสุทธิ์ถูกโกง"

นายสันติ เมธาวิกุล ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจ ซึ่งดูแลลูกค้า โพสต์เพดของดีแทค กล่าวในเรื่อง เดียวกันว่า มิจฉาชีพที่เข้ามาหากินกับธุรกิจมือถือมีวิธีการที่แยบยลมากขึ้น และมีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา หลักๆ จะมีประมาณ 2-3 วิธีคือ 1.ใช้บัตรประชาชนของผู้อื่นไปซื้อ แล้วนำไปให้บริการแบบตั้งโต๊ะหรือมือถือราคาถูก 2.หลอกให้เจ้าของบัตรประชาชนไปซื้อซิมการ์ดและนำไปขายอีกทอดหนึ่ง 3.เป็นการสมรู้ร่วมคิดของบุคคลที่ใช้บัตรประชาชนจริงๆ แล้วไม่ยอมรับว่าได้ซื้อ ซึ่งเป็นกลโกงที่แยบยลมาก

ส่วนมาตรที่ดีแทคจะป้องกันเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ 1.ได้มีการคัดเลือกคู่ค้าหรือดีลเลอร์ และจำกัดจุดลงทะเบียนที่ได้รับอนุญาตโดยตรงจากดีแทค ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 1,000 จุด ซึ่งรวมถึงดีแทค ช็อปด้วย ซึ่งตัวแทนเหล่านี้จะมีหน้าที่ในการตรวจสอบลูกค้าและบัตรประชาชนของลูกค้า และจดทะเบียนลูกค้าให้ถูกต้อง มีขั้นตอนของการจดทะเบียน โดยนำขั้นตอนและระเบียบไปตรวจสอบบัตรประชาชาชนตัวจริง ไม่ใช่ใช้เพียงสำเนาบัตรมาซื้อสินค้า มีการตรวจสอบหลังการจดทะเบียนเป็นลูกค้าดีแทค ซึ่งสามารถตรวจสอบกับสำนักทะเบียนราษฎร์ได้ และหากพบว่าผิดปกติจะระงับการใช้งานไว้ก่อน

นอกจากนี้ ยังมีเวลคัม คอลล์ เพื่อโทร. เข้าไปขอบคุณและแนะนำสำหรับลูกค้าใหม่ และเป็นการตรวจสอบลูกค้าว่าใช่ตัวจริงที่อ้างหรือไม่ ส่วนผู้ที่ซื้อหลายเลขหมายจะมีระบบตรวจสอบเป็นพิเศษ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่จะต้องมีการควบคุมให้รัดกุมขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง

2.มีการควบคุมในเรื่องของเครดิต ลิมิต เพื่อป้องกันผู้ที่จะเข้ามาใช้โทรเป็นจำนวนมาก โดยการตั้งวงเงินขั้นแรก 800 บาทต่อเดือน ส่วนลูกค้าที่มีความต้องการโทรในปริมาณมาก สามารถขยายวงเงินโดยใช้เอกสารเพิ่มเติมได้ ซึ่งการทำลักษณะนี้จะทำให้กลุ่มมิจฉาชีพไม่สามารถเข้ามาหาประโยชน์ได้ จากนั้นจะมีการตรวจสอบตลอดเวลาว่าแต่ละเลขหมายมีการโทรผิดปกติหรือไม่ เช่น โทรหลายที่ในเวลาเดียวกัน เป็นต้น

"ถ้าถามว่าเราประสบปัญหานี้มากน้อยขนาดไหน เบื้องต้นประมาณ 2% ต่อเดือนสำหรับลูกค้าใหม่ที่มีเข้ามาประมาณ 2-3 หมื่นต่อเดือน และที่ผ่านมามีการร้องเรียนเข้ามาประมาณ 40-50 รายต่อเดือน"

อย่างไรก็ตาม ปัญหาเกี่ยวกับมิจฉาชีพ มือถือ ผู้บริหารดีแทคยืนยันว่า ไม่ได้เกิดกับบริการขดีแทคเพียงรายเดียว แต่เป็นปัญหากับผู้ให้บริการรายอื่นด้วย ซึ่งขณะนี้ได้มีการหารือกันว่าจะมีมาตรการการป้องกันอย่างไร เพราะเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องของการแข่งขัน แต่เป็นปัญหาของอุตสาหกรรมมือถือ

"ลาดโพสต์เพดต้องมีการตรวจสอบให้รัดกุม ถ้าทุกรายทำเหมือนกันสิ่งที่ลูกค้ากลัวก็จะหมดไป และจะทำให้ตลาดรวมดีขึ้น" นายสันติกล่าวและว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้น ดีแทคไม่ต้องการให้มีการขยายผล และให้มีอัตราการโตเพิ่ม ตัวเลข 2% เชื่อว่าเป็นปริมาณที่สามารถควบคุมได้

โชว์ประสิทธิภาพเครือข่าย

นอกจากปัญหาเรื่องมิจฉาชีพแล้ว นาย ซิคเว่ยังได้กล่าวถึงนโยบายด้านการขยายและประสิทธิภาพเครือข่ายว่า ปัจจุบันดีแทคมีผู้ใช้บริการประมาณ 5.5 ล้านเลขหมาย มีการลงทุนถึง 40,000 ล้านบาท สำหรับการขยายเครือข่ายและคุณภาพของสัญญาณในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ประสิทธิภาพของสัญญาณสามารถครอบคลุมประชากรถึง 92% อัตราการโทร.สายหลุด (Dropped Call) เฉลี่ย 1.1% ขณะที่อัตรา เฉลี่ยของผู้ให้บริการมือถือทั่วโลกอยู่ที่ 2% ส่วน อัตราการโทรไม่ติด (Block Call) เกิดขึ้น 0.5%

แต่เรื่องของสายหลุดดีแทคยืนยันว่ามีการชดเชยให้กับลูกค้า ซึ่งคิดจากอัตราการหลุดและแพกเกจที่เลือกใช้ โดยหักลบไปกับบิล เก็บเงิน และรอบปีที่ผ่านมามีการชดเชยใน เรื่องนี้คิดเป็นมูลค่า 90 ล้านบาท

สำหรับนโยบายในการขยายเครือข่าย รอบปีนี้ ดีแทคจะมุ่งเน้นการขยายสถานีฐานรวมถึงเซลล์ไซต์ในตัวอาคารมากขึ้น โดยคาดว่า จะขยายเพิ่มอีกประมาณ 400-500 สถานีฐาน

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us