Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์5 มีนาคม 2550
โรงแรมบาร์เตอร์ห้องว่างกับโฆษณา             
 


   
search resources

Hotels & Lodgings
Barter Card




การตลาดแบบบาร์เตอร์ (barter) อาจถูกมองว่าเป็นการตลาดสไตล์เก่า แต่วิธีการนี้ยังคงใช้ได้ดีในหลายเงื่อนไขทางการจำหน่ายของกิจการชั้นนำในตลาดโลก อย่างเช่น กิจการโรงแรมชั้นนำได้เริ่มหันมาใช้การแลกเปลี่ยนด้วยการเสนอการให้บริการของตนแลกกับการประหยัดงบประมาณด้านการโฆษณาของโรงแรม

การแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการแบบบาร์เตอร์นับวันจะเติบโตขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง และเกินการคาดหมายด้วย วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ได้ระบุว่าราว 80% ของกิจการที่ติด อันดับฟอร์จูน 500 ประสบความสำเร็จทางธุรกิจจากการใช้การแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ หรือบาร์เตอร์เป็นเครื่องมือทางการเงิน จนทำให้มูลค่าการค้าแบบแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการกันสูงกว่าแสนพันล้านดอลลาร์

บริษัทที่ใช้แนวทางการตลาดแบบนี้ เช่น วอร์เนอร์ ลัมเบิร์ต และอาดิดาส ซึ่งมีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาสต็อกสินค้าคงค้างขายไม่ออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังช่วยประหยัดเงิน และลดโอกาสที่จะเกิดผลขาดทุนจากการดำเนินงาน

กรณีของกิจการโรงแรมก็เช่นกัน ห้องว่างที่มีภาระรายจ่ายในการดูแลรายวัน สามารถนำมาสร้างประโยชน์ ทำให้เกิดใช้สอย และมีบรรยากาศคึกคักได้ พร้อมทั้งทำให้ยอดจำหน่ายดีขึ้นหลังจากการออกแคมเปญโฆษณาออกไป โดยไม่ต้องเสียเงินค่าโฆษณา

กิจการโรงแรมมีความพิเศษในการดำเนินธุรกิจอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ คือ รายได้ที่ควรได้จากค่าเช่าห้องพักแต่ละห้องจะผ่านพ้นไปแบบไม่มีวันกลับมาอีก หากโรงแรมนั้นๆ ไม่สามารถหาคนมาพักได้ ไม่ได้มีสต็อกสินค้าที่สามารถนำออกไปขายในวันรุ่งขึ้น หรือวันต่อๆ ไป เหมือนกรณีของสินค้าหรือบริการอื่น และผู้พักก็มีเวลาว่างที่จำกัดตามเวลาที่กำหนด หากเลยเวลานั้นไปก็คงไม่หวนกลับมาอีกแล้ว

นอกจากนั้น สิ่งที่น่าเป็นห่วงในการดำเนินธุรกิจบริการอย่างโรงแรมในระยะหลังๆ คือ การค้นพบว่า ลำพังเพียงการให้ส่วนลดค่าห้องพัก ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะทำให้ธุรกิจมีรายได้อย่างสม่ำเสมอและไม่ผันผวน ดังนั้น แทนที่จะนั่งรอวันตายซากจากการที่โรงแรมหารายได้ไม่พอกับรายจ่ายหรือการขาดทุนที่ต่อเนื่อง โรงแรมจำนวนไม่น้อยในตลาดโลกที่มีเครือข่ายหลายประเทศได้ตัดสินใจทำการบริหารห้องพักที่ว่างและสูญเปล่าเหล่านี้ โดยขายออกไปเป็นแคมเปญโปรโมชั่นเพื่อเจาะลูกค้าเป้าหมายของโรงแรม หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ การนำห้องว่างมาตีมูลค่าเป็นเงินแลกกับค่าโฆษณา กับแอด เอเยนซี่ เพื่อส่งเสริมการตลาดกับลูกค้าที่ต้องการ

ในการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดดังกล่าวของโรงแรมชั้นนำ ไม่ได้ทำให้เกิดผลกระทบต่อการดำเนินงานปกติของกิจการ เพราะห้องพักว่างที่นำไปใช้กิจกรรมแคมเปญโฆษณานี้ คิดเป็นส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนห้องพักทั้งหมด ตัวอย่างเช่น โรงแรมที่มีห้องพักขาด 300 ห้องที่จะให้บริการ สามารถดำเนินกิจการด้วยอัตราการจองห้องพัก 75% อาจจะแบ่งปันห้องพักมาราว 1% เท่านั้น เพื่อใช้ห้องพักในแคมเปญที่ว่านี้ และยังไม่ได้เกิดทันที หากแต่เป็นรูปของการให้เครดิต หรือภาระผูกพันที่ผู้เกี่ยวข้องจะได้รับในอนาคต ซึ่งอาจสามารถ กำหนดช่วงเวลาที่เหมาะสมได้ด้วย

สำหรับบริษัทเอเยนซี่โฆษณาที่รับค่าบริการโฆษณาด้วยวิธีการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ หรือบาร์เตอร์แทนการรับรายได้เป็นเงินสดนี้ เป็นเอเยนซี่ที่รับงานโฆษณาหลากหลายช่องทาง ไม่ได้จำกัดเฉพาะบางช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นนิตยสารลูกค้า หรือนิตยสารทางการค้า วิทยุ และโทรทัศน์ บิลบอร์ด และช่องทางการโฆษณาแบบอื่นๆ

เมื่อเอเยนซี่โฆษณารับเอาเครดิตห้องพักจากโรงแรมมาใช้จะสามารถสร้างรายได้ด้วยการนำไปขายเป็นแคมเปญโปรโมชั่นของกิจการอื่นๆ ที่มาใช้บริการด้านการโฆษณากับเอเยนซี่โฆษณารายนั้น โดยจ่ายค่าโฆษณาเป็นเงินสด ทำให้เอเยนซี่มีเงินสดใช้ในกิจการ และยังหมุนเวียนไปกับการทำบาร์เตอร์สินค้าและบริการใหม่ๆ ไม่ซ้ำกัน

สิ่งที่น่าสนใจคือ เอเยนซี่โฆษณารายนี้ ต้องมีหัวทางการค้า หรือทำหน้าที่เป็นพ่อค้าคนกลางเพิ่มเติมขึ้นมาอีกงานหนึ่ง แถมยังสามารถทำกำไรจากการเป็นพ่อค้าคนกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการได้อีกทางหนึ่งด้วย

ดังนั้น หากมองระบบการตลาดแบบบาร์เตอร์ในภาพรวมจะเห็นได้ชัดว่า ระบบการตลาดแบบนี้ได้ช่วยให้ประโยชน์แก่ทุกฝ่าย โดยเริ่มจากกิจการโรงแรม ประกอบด้วย ช่วยสร้างธุรกิจใหม่ๆ ให้กับผู้ที่เสนอขายสินค้าหรือบริการ ช่วยเพิ่มพูนรายได้จากการที่สามารถเพิ่มกิจกรรมด้านการโฆษณาและการส่งเสริมการจำหน่ายได้ ช่วยเพิ่มโอกาสที่จะทำรายได้เป็นตัวเงินในอนาคต จากการที่ลูกค้าคนสุดท้าย หรืออาจเป็นกลุ่มลูกค้าจำนวนมากกว่า 1 ราย ที่ได้รับเครดิตห้องพักจากโรงแรมเข้าไปใช้บริการจริงในอนาคต ช่วยลดช่องว่างในช่วงของปริมาณธุรกิจที่ต่ำสุด ให้เพิ่มขึ้น และมีอัตราเฉลี่ยของปริมาณธุรกิจไม่แตกต่างจากช่วง peak อย่างน่าตกใจ

สำหรับนักการตลาดกลุ่มเอเยนซี่หัวก้าวหน้า ไม่ยึดติด จะมองเห็นระบบบาร์เตอร์เป็นเครื่องมืออัจฉริยะและมีประสิทธิผลในการเสริมสร้างธุรกิจมีจำนวนมากขึ้นตามลำดับ เช่น ไอทีเอ็มในสหรัฐฯ เพราะช่วยขยายฐานธุรกิจโดยรวม สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าที่มีห้องพักว่าง เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ที่ชอบใช้บริการห้องพักจาก โรงแรม ที่สำคัญผู้บริหารกิจการเอเยนซี่โฆษณาในอนาคต ต้องเคยเป็นนักบริหารการตลาดหรือนักขายสินค้าและบริการอื่นๆ มาก่อนด้วย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us