Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน7 มีนาคม 2550
ไดสตาร์ปิดสวิทซ์เครื่องไฟฟ้าหยุดไลน์ผลิตหันสู่ตลาดรถ             
 


   
www resources

โฮมเพจ ไดสตาร์ อิเล็กทริค คอร์ปอเรชั่น

   
search resources

ไดสตาร์ อิเล็กทริค คอร์ปอเรชั่น, บมจ.
วิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล
Electric




เครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ไทยอ่วม สู้การแข่งขันของตลาดไม่ไหว ไดสตาร์ใส่เกียร์ถอย หันหลังกลับตั้งตัวใหม่ โผซบธุรกิจรถโดยสาร รับสิทธิ์จาก King Lon ประเทศจีน ผลิตรถโดยสารที่ใช้ก๊าซNGVแทนน้ำมัน ล่าสุดมีออเดอร์ที่ต้องส่งมอบกว่า 50 คันในเดือนมีนาคมนี้ หลังเริ่มดำเนินการมาเพียง 2-3 เดือน มั่นใจปีแรกสามารถรองรับผลิตได้กว่า 1,000 คัน ยันธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าปิดไลน์ผลิตลง ประเดิมตู้เย็น แต่ยังนำเข้าสินค้ามาจำหน่ายต่อ

นายวิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไดสตาร์ อิเล็กทริก คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) เปิดเผย “ผู้จัดการรายวัน” ว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยเป็นตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรงตลอด ทั้งในแง่ของผู้ประกอบการเองที่มีเพิ่มขึ้น รวมไปถึงด้านเทคโนโลยี ที่มองว่ากำลังจะถึงทางตัน ดังนั้นทางบริษัทฯเองจึงได้มีแผนที่จะหันมาทำธุรกิจอย่างอื่นทดแทน

ทั้งนี้ตั้งแต่เดือน กันยายน 2549 ที่ผ่านมา บริษัทฯได้มีการเจรจากับทาง King Lon United Automotive Industry (Suzhou) Co.Ltd. (Suzhou King Long) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถโดยสารเอ็นจีวีรายใหญ่ จากประเทศจีน ในการขอเป็นตัวแทนผลิตและจำหน่ายรถโดยสารเอ็นจีวี ภายใต้เครื่องหมายการค้าของ King Long ภายใต้แบรนด์ Higer โดยทาง King Long ได้ช่วยในเรื่องของความรู้ เทคนิคต่างๆด้วย

“การที่บริษัทฯหันมาทำธุรกิจรถโดยสารเอ็นจีวีนั้น เนื่องจากมองว่าเป็นธุรกิจใหม่ที่ยังไม่มีรายใดทำอย่างจริงจังในประเทศไทย อีกทั้งส่วนใหญ่รถที่ใช้พลังงานเอ็นจีวีในไทยขณะนี้ จะเป็นรถดัดแปลงมากกว่า ขณะเดียวกันทางภาครัฐเองก็ให้การสนับสนุนให้หันมาใช้รถโดยสารเอ็นจีวีมากขึ้น ทางปตท.เองก็เริ่มขยายปั้มน้ำมันที่เป็นก๊าซเอ็นจีวีมากขึ้น จึงมอว่าธุรกิจรถโดยสารเอ็นจีวี จะเป็นธุรกิจที่น่าจะมีการเติบโตที่ดีในอนาคต”

ทั้งนี้ทางบริษัทฯได้ทำการปรับโรงงานตู้เย็น จังหวัดระยอง ให้เป็นฐานการผลิตรถโดยสารที่ใช้พลังงานจากก๊าซ เอ็นจีวี ซึ่งใช้งบประมาณไปกว่า 20 ล้านบาท ถือว่าน้อยมาก เนื่องจากมีการปรับการใช้เครื่องมือที่มีอยู่ให้สามารถใช้ประกอบรถโดยสารดังกล่าวนั้นเอง โดยในส่วนของการผลิตภัณฑ์ตู้เย็นนั้นได้หยุดผลิตโดยปริยาย

นอกจากนี้ทางบริษัทฯยังได้พันธมิตรร่วมประกอบรถโดยสารครั้งนี้ด้วย คือ บริษัท มีแสงยูร จำกัด ที่อำเภอ บ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นลูกค้ารายสำคัญ ที่มีการสั่งออเดอร์สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าตลอดมา โดยทางมีแสงยูรเอง มีความพร้อมทางด้านการผลิตรถโดยสารอยู่บ้างแล้ว ดังนั้นการได้ทางมีแสงยูรเข้ามาร่วมด้วย จึงช่วยในเรื่องของการลงทุนเพิ่มได้ค่อนข้างมาก

โดยขณะนี้ทางบริษัทฯได้ยื่นแบบรถต่อกรมการขนส่งทางบกไปแล้วประมาณ 2 รุ่น คือ ขนาด 6 เมตร และ 18 เมตร ซึ่งทั้งสองแบบนั้น ได้ผ่านการพิจารณาแล้ว ดังนั้นทางบริษัทฯได้เตรียมยื่นแบบรถเพิ่มอีกประมาณ 3 รุ่น คือ 8.4 เมตร 31 ที่นั่ง, 9.2 เมตร 27 ที่นั่ง และ 12 เมตร ซึ่งเป็นรถทัวร์ขนาดใหญ่ ขณะเดียวกันทางบริษัทฯได้มีการทดลองนำรถเอ็นจีวี บางรุ่น มาวิ่งบนท้องถนนบ้างแล้ว

ล่าสุดทางบริษัทฯได้ออเดอร์ผลิตรถโดยสารเอ็นจีวีแล้วกว่า 50 คัน ขนาด 12 เมตร มูลค่าไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท จะเริ่มส่งมอบได้ตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้ เป็นต้นไป ขณะที่ทั้งปีมองว่า จากการที่มีฐานการผลิตอยู่ 2 แห่งนั้นคาดว่าจะสามารถผลิตได้กว่า 100 คัน ต่อเดือน หรือ 1 ปีสามารถผลิตได้กว่า 8000-1,000 คัน

อย่างไรก็ตามสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้านั้น นายวิวัฒน์ กล่าวว่า ในส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น ทางบริษัทฯยังคงทำตลาดอยู่ แต่จะเริ่มหยุดในส่วนของการผลิตลง โดยเฉพาะในไลน์สินค้าที่ไม่สร้างรายได้ เช่นตู้เย็น ก็จะเลิกผลิตเลย ส่วนสินค้าใดที่ยังพอสร้างรายได้อยู่ ก็จะเปลี่ยนเป็นการนำเข้าจากประเทศจีนแทน

ดังนั้นสัดส่วนรายได้ในปีนี้ คาดว่า จะมาจาก การผลิตรถโดยสารเอ็นจีวีกว่า 95% และเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าเพียง 5% ทั้งนี้ทางไดสตาร์หลังจากที่ประสบปัญหาการขาดทุนมาประมาณ 1-2 ปี คาดว่าปีนี้จะเริ่มมองเห็นกำไรมากยิ่งขึ้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us