แฟรนไชส์โฟกัส แถลง "โอกาสธุรกิจ&แฟรนไชส์ ปี 2007" ขยายฐานลูกค้าเจาะนักลงทุนต่างจังหวัดและประเทศเพื่อนบ้าน หลังเก็บข้อมูลตลาดเหล่านี้ให้การตอบรับดี พร้อมผนึกความร่วมมือศูนย์สิริกิติ์จัดร่วมงาน "Health, Beauty & Diet Festival 2007" ชี้ทำเลสะดวกสร้างความครบวงจรให้ผู้ร่วมชมงาน

สมจิตร ลิขิตสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฟรนไชส์โฟกัส จำกัด กล่าวถึงการจัดงานโอกาสธุรกิจ&แฟรนไชส์ ปี 2007 ครั้งที่ 11 ในวันที่ 23-26 สิงหาคม 2550 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จากการสำรวจผู้เข้าชมงานในปีที่ผ่านมาพบว่ามีผู้เข้าชมงานมีภูมิลำนำในกรุงเทพมหานคร 64% ขณะที่ต่างจังหวัด 36% ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุผลของการเปลี่ยนสถานที่จัดงานมาที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เนื่องจากการเดินทางที่สะดวก

และประชาชนส่วนใหญ่รู้จักโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัด ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดการขยายฐานลูกค้าต่างจังหวัดมากขึ้นเนื่องจากธุรกิจแฟรนไชส์ยังเป็นตลาดที่มีความต้องการสูงในพื้นที่ต่างจังหวัดเมื่อเทียบกับตลาดในกรุงเทพฯ ที่มีมากเกินความต้องการ รวมถึงนักลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านมีความสนใจลงทุนแฟรนไชส์ประเภทเพื่อสุขภาพของไทยมากขึ้น เช่น ประเทศกัมพูชาซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีการเติบโตสูงแต่ยังขาดหลักการบริหารจัดการธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาบริษัทพยายามที่จะออกไปจัดงานตามต่างจังหวัดแต่ก็ประสบปัญหาเงินทุนเนื่องจากผู้ประกอบการที่ไปออกบูธต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ตลอดจนประสบความเสียหายระหว่างเดินทางเนื่องจากต้องใช้เวลาในการเดินทางนาน ด้านนักลงทุนต่างก็ประสบปัญหาในการเดินทางเช่นกัน

ขณะนี้มีผู้ที่จะออกบูธเกือบ 60% เป็นฐานลูกค้าเดิมซึ่งเป็นพันธมิตรกับบริษัท ขณะนี้ได้เริ่มให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่เปิดจองแล้วบางส่วน ซึ่งบริษัทในฐานะผู้จัดงานจะให้ความรู้กับผู้เข้าร่วมงานว่าแฟรนไชส์ประเภทใดเหมาะสมกับนักลงทุนตลอดจนราคาของแฟรนไชส์ที่เหมาะสมกับนักลงทุนหน้าใหม่ ซึ่งหลังการจัดงานบริษัทจะมีการติดตามผลการปฏิบัติงานของผู้ขายแฟรนไชส์และผู้ซื้อเพื่อปรับปรุงการจัดงานเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนที่จะมางานว่าจะได้พบกับแฟรนไชส์ซอร์ที่มีคุณภาพ

อนึ่งการจัดงานโอกาสธุรกิจ&แฟรนไชส์ ปี 2007 ได้ร่วมมือกับศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ซึ่งเป็นผู้จัดงานจัดงาน Health, Beauty & Diet Festival 2007 เพื่อสนองกลุ่มผู้เข้าร่วมงานมีความต้องการสินค้าและบริการคล้ายคลึงกัน ตลอดจนการร่วมงานครั้งนี้ให้การจัดงานมีความยิ่งใหญ่ซึ่งจะสามารถเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมงานมากกว่าปีที่ผ่านมาเป็นสองเท่าตัว และให้เจ้าของแฟรนไชส์และผู้ประกอบการต่างๆ ได้พบกับผู้สนใจโดยตรง คาดว่าจะเกิดผู้ประกอบการรายใหม่ไม่น้อยกว่า 500 รายและเกิดการจ้างงานไม่น้อยกว่า 10,000 ราย

"คาดว่าการจัดงาน 2 รูปแบบในครั้งนี้จะก่อให้เกิดการกระตุ้นตลาดการซื้อขายในงานไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่าแสนคน อันจะส่งผลให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมั่นคงในภูมิภาคเอเชียโดยสร้างจากธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีความเข้มแข็ง"

เทรนด์นักลงทุนปีนี้สนใจลงทุนแบบร้านเทิร์นคีย์คือการที่มีร้านเดิมตั้งอยู่แล้วเพียงแต่ผู้ลงทุนรายใหม่เข้าไปซื้อกิจการต่อ ซึ่งนักลงทุนรายใหม่สามารถเชื่อมั่นในยอดขายเดิมที่เป็นรูปธรรมสะท้อนให้เห็นถึงผลกำไรที่ผู้ลงทุนรายใหม่จะได้รับโดยทำเลการขายย่อมเป็นอีกปัจจัยที่จะส่งผลให้แฟรนไชส์ประสบความสำเร็จ

"สถานการณ์ผู้ซื้อขณะนี้ต้องการตอบสนองความประหยัดโดยขายความคิดสร้างสรรค์ เช่น ธุรกิจรับเติมหมึกพิมพ์เป็นที่นิยมมากสามารถตอบสนองความต้องการประหยัดของลูกค้าและเป็นสินค้าที่ตลาดต้องใช้ อีกด้านหนึ่งกลุ่มผู้ลงทุนใหม่ที่ต้องจับตามองคือกลุ่มผู้หญิงไทยที่เป็นภรรยาชาวต่างชาติที่จะหันมาประกอบธุรกิจแฟรนไชส์เพิ่มขึ้นกว่า 20% "

สมจิตร วิเคราะห์สถานการณ์ธุรกิจแฟรนไชส์ในปีที่ผ่านมามีการเติบโต 30% ด้วยปัจจัยการขยายตัวของชุมชนเช่น พื้นที่ในแถบสุวรรณภูมิตลอดจนชุมชนโดยรอบนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศ รวมถึงความต้องการเป็นเจ้าของกิจการของลูกจ้างประจำที่ต้องการมีอาชีพอิสละโดยหลายรายผันตัวจากพนักงานประจำเป็นผู้ประกอบการอย่างเต็มตัวเป็นผลพวงมาจากรัฐบาลชุดก่อนต้องมีการโปรโมทให้ประชาชนอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ ขณะที่บริษัทแฟรนไชส์ซอร์ต้องการที่จะขยายตลาดมากขึ้นเป็นผลให้เกิดการจัดงานให้ความรู้เพื่อประกอบธุรกิจต่างๆ

ทั้งนี้ จากการสำรวจการขยายตัวของปีที่ผ่านมาพบว่าร้านสาขาแฟรนไชส์ซี่เติบโตสูงมากคือ 78% สวนทางกับความคิดของคนส่วนใหญ่ที่มองว่าเศรษฐกิจไม่ดีเนื่องจากปัจจัยการเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพทำให้คนไม่กล้าลงทุน แต่ในความเป็นจริงการเป็นเจ้าของธุรกิจในรูปแบบการซื้อแฟรนไชส์มีการเติบโตสูงมาก แต่เป็นที่สังเกตว่าร้านของบริษัทแม่เติบโตเพียง17%

ลัดดา มงคลชัยวิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็น.ซี.ซี เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด (NEO) ผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กล่าวว่า จากกระแสรักสุขภาพทำให้ผู้ประกอบการในประเทศมีการตื่นตัวเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ขณะที่ผู้บริโภคมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นเป็นผลให้เกิดการจัดงานHealth, Beauty & Diet Festival 2007 ที่ปีนี้ทุ่มงบประมาณเพื่อประชาสัมพันธ์มากกว่า 10 ล้านบาท โดยจัดพื้นที่ในการแสดงสินค้ากว่า 10,000 ตารางเมตร คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้าและบริการมากถึง 300 คูหา และมีเงินใช้จ่ายในงานไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท

ด้านจุดเด่นในการจัดงานครั้งนี้ได้ร่วมมือกับ บริษัท แฟรนไชส์โฟกัส จำกัด ที่มีศักยภาพในการจัดงานแสดงบูธธุรกิจแฟรนไชส์ซึ่งถือว่าเป็นพันธมิตรรายใหม่ที่มีประสบการณ์โดยจะเสริมสร้างให้เกิดความเข็มแข็งในการจัดงานครั้งนี้จะรวบรวมสินค้าและบริการด้านสุขภาพความงามไม่ว่าจะเป็นคลินิกเฉพาะ โรงพยาบาล รวมถึงสปารีสอร์ทเพื่อสุขภาพ พร้อมให้ความรู้การออกกำลังกายรูปแบบใหม่ที่น่าสนใจ

สิ่งที่นักลงทุนหน้าใหม่จะได้รับจากงานซึ่งอัดแน่นความรู้เพื่อเป็นแนวทางการลงทุนแฟรนไชส์เพื่อให้เม็ดเงินลงทุนไม่เป็นเพียงคลื่นกระทบฝั่ง