วานนี้ (3 มี.ค.)เวลา 11.00 น.นายพีระ พริ้งกลาง แกนนำประชาคมผู้รับฟังรายการร่วมด้วยช่วยกัน
และคณะประมาณ 20 คนถือป้ายผ้า มีข้อความว่า “ขอคลื่นเอฟ.เอ็ม 96 คืนมา ร่วมด้วยช่วยกัน”
ที่บริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพบก พร้อมทำสำเนาหนังสือขอความเป็นธรรมที่ยื่นต่อ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มายื่นให้กับ พล.อ.สมทัต อัตตะนันทน์ ผู้บัญชาการทหารบก
โดยมี พ.อ.ชวลิต ไกรสมสาต หัวหน้าส่วนกิจการพลเรือน เป็นผู้รับหนังสือและจะนำเสนอให้ผู้บังคับบัญชาในช่วง
ทั้งนี้ หนังสือดังกล่าวระบุว่า ทางกลุ่มพยายามติดต่อเพื่อขอต่อสัญญา และทางหน่วยบัญชาการกำลังสำรอง
ได้เซ็นอนุมัติต่อสัญญาเมื่อวันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา แต่เมื่อถึงวันที่ 28 ก.พ.
กลับได้รับคำตอบว่า ได้เซ็นสัญญาเช่าคลื่นเอฟ.เอ็ม 96 ให้กับผู้เช่ารายอื่นไปแล้ว
ซึ่งทางกลุ่มรู้สึกว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการไม่รักษาคำพูด เป็นการทำร้ายจิตใจประชาชนและผู้รับฟังร่วมด้วยช่วยกัน
ซึ่งเป็นระดับรากหญ้า
“ตอนนี้ยิ่งเสื่อมถอยลงไปอีก เพราะรายการนี้ประชาชนทุกคนทุกชั้นวรรณะเป็นเจ้าของร่วมกัน
หากต้องถูกระงับไปแล้วเมืองใหญ่แห่งนี้จะมีอะไรเป็นที่พึ่งต่อไป คนที่ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือ
เมื่อยามเดือดร้อนก็รู้สึกเฉยๆ แต่ผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือจะมีความรู้สึกว่า
ในสังคมแห่งนี้ยังมีสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกันที่รับรู้ความเดือดร้อนของประชาชน
พร้อมที่จะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยความรวดเร็วและฉับไว ทำให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนได้ผ่อนคลาย
แต่วันนี้กลับถูกมองว่าไร้สาระ เป็นเหตุทำให้ถูกปิดสถานี จึงใคร่ขอความกรุณามายังนายกรัฐมนตรีช่วยตรวจสอบการไม่ต่อสัญญาว่ามีความโปร่งใสหรือไม่
และขอให้สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน ให้กลับมาอยู่เคียงคู่ประชาชน และขอให้นายกรัฐมนตรีอยู่คู่กับประชาชนและประเทศชาติตลอดไป”
ต่อมาเวลา 19.00 น. ที่หน่วยบัญชาการกำลังสำรอง (นสร.) พล.ท.ชาญวิช ได้หารือร่วมกับ
นายสมชาย แสวงการ ที่ นสร. หลังจากนั้นได้แถลงว่า จากที่หารือได้ข้อยุติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
1. การแบ่งเวลาจะปฏิบัติตามระเบียบที่ กบว. ทบ. กำหนด 2. การออกอากาศจะมีการกลั่นกรองมากขึ้น
เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด จะไม่มีการใช้สถานีวิทยุของทางราชการ ไปเพื่อสร้างความเสียหายให้แก่ผู้ใด
ในเรื่องการเซ็นสัญญา ซึ่งต้องมีผู้บริหารระดับสูงของสถานีวิทยุ รด.ก่อนคือรอง
ผบ.นสร. 2 คน และ เสธ.นสร. แต่ขณะนี้ทั้งสามคนไปปฏิบัติราชการที่ชลบุรีเพราะในวันนี้
นสร. ได้เปิดการสัมมนาระบบกำลังสำรองของกองทัพอยู่ที่นั่น ในวันนี้ นายสมชายก็จะได้มีการไปเซ็นสัญญาที่พัทยา
จ.ชลบุรีก่อน 12.00 น. ทางไอเอ็นเอ็น ก็สามารถดำเนินรายการร่วมด้วยช่วยกันตามปกติ
“เราเข้าใจกันดีเพราะผมกับคุณสมชาย สนิทสนมกัน ไม่ได้ทะเลากัน เพียงแค่ 2-3 วันเรามีความเห็นไม่ตรงกัน
ขณะนี้ได้มานั่งพูดคุยกันมีความเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม”
พล.ท.ชาญวิช ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ในหลักการได้มีการพูดถึงรายละเอียดของรายการที่จะต้องมีการจัดรายละเอียดให้ตรงตามที่
กบว. กำหนด แต่ก็ได้มีการเจรจาถึงการเพิ่มค่าเช่าสถานี จากเดิมที่สถานีต้องจ่ายเดือนละ
8 แสนบาท ให้เพิ่มอีก 5% ซึ่งจะเป็นส่วนที่จะต้องมาใช้ในการซ่อมแซม บำรุงรักษาเครื่องส่ง
ค่าน้ำ ค่าไฟ ที่ผ่านมาเอกชนหลายรายก็เสนอราคาเข้ามาเหมือนกัน แต่ก็ไม่ต่างกันมากนักห่างกันไม่กี่พันบาท
เพราะส่วนใหญ่เขาจะเรทว่า ราคาเท่าไร
นายสมชาย กล่าวว่า หลังจากที่ลงนามเสร็จก่อน 12.00 น. วันนี้ หลังจากนั้น ‘ร่วมด้วยช่วยกัน’
จะออกอากาศทันที เพื่อบริการต่อพี่น้องประชาชนเหมือนเดิม ในส่วนที่มีการผลิตรายการในการเน้นเรื่องโครงการพระราชดำริ
การต่อต้านยาเสพติด การฝึกนักศึกษาวิชาการทหารมากขึ้น ตามที่ ผบ.นสร. ได้มอบให้
ซึ่งจะมีการร่วมกันระหว่างฝ่ายผลิตรายการของนสร. ด้วย โดยจะมีการหารือในรายละเอียดต่อไป
การดำเนินรายการก็จะเป็นไปตามระเบียบของ กบว. ต่อไปมากขึ้น ถือเป็นการร่วมมือเพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติและสังคมมากขึ้น
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าปัญหาที่เกิดขึ้นต้องไปถามกรมการรักษาดินแดน
จะเกี่ยวอะไรกับรัฐบาล ทุกอย่างเป็นไปตามกติกาก็ว่ากันไป เขาไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย
เวลาสื่อมวลชนเขียนอะไรไม่ดีก็ว่ากันตรงๆ นี้แหละ เพราะเขาก็ต้องการอยู่บนโลกความเป็นจริง
ก็พูดกันตรงๆ ไม่มีอะไรเลย หากสื่อมวลชนพูดไม่ดี ก็บอกว่าไม่ดี ไม่ถูก ตรงๆ ไม่เห็นมีอะไรเลย
“มันจะมีอะไรหนักหนากับสถานีวิทยุช่องเดียว” นายกฯกล่าวและยืนยันว่าเรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับการออกมาวิจารณ์ของร.ต.อ.ปุระชัย
เปี่ยมสมบูรณ์ รองนายกฯ ทำไม่ถูกก็ต้องตำหนิ ไม่ถูกจะไปยกย่องได้อย่างไร “คนทำไม่ดีบอกว่าเป็นเทวดา
ผมพูดไม่ได้ฝืนความรู้สึกตัวเองไม่ได้ ดีก็ดี ไม่ดีก็บอกว่าไม่ดี”