ตลาดเพอร์ซันนัล แคร์ แข่งเดือด สวนเศรษฐกิจขาลง “ทเวลฟ์ พลัส” อัดเม็ดเงิน 400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีที่ผ่านมา ลุยตลาดตลอดปี พร้อมชูพรีเซนเตอร์ มาร์เก็ตติ้ง ดึง “ชอย ซี วอน” ศิลปินนักร้องจากแดนกิมจิ หวังเสริมภาพลักษณ์แบรนด์สู่ผู้นำสินค้ากลุ่ม เพอร์ซันนัล แคร์ สำหรับวัยรุ่น มั่นใจช่วยดูดเงินเข้ากระเป๋าเพิ่มขึ้นประมาณ 10 % เท่าปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท

นายวิเชียร สันติมหกุลเลิศ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โอสถสภา จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย สินค้าเพอร์ซัลนัล แคร์ สำหรับวัยรุ่น ภายใต้ แบรนด์ ทเวลฟ์ พลัส เปิดเผยว่า ปัจจุบันสินค้าในตลาดเพอร์ซันนัล แคร์ มีการแข่งขันกันรุนแรงในทุกๆหมวด ไม่ว่าจะเป็น แป้ง โรลออน หรือโคโลญจ์ ซึ่งสวนทางกับเศรษฐกิจที่ค่อนข้างทรงตัว โดยในปีนี้จะเป็นอีกปีที่ผู้เล่นในตลาดจะกลับมาแข่งขันกันอีกครั้ง

โดยทางบริษัทเองปีนี้ได้วางงบการตลาดเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัวจากปีที่ผ่านมา มูลค่า 400 ล้านบาท สำหรับสินค้าประมาณ 10 ไลน์ ภายใต้แบรนด์ ทเวลฟ์ พลัส ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้แบรนด์ดูทันสมัย มีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา รวมถึงเป็นผู้นำแบรนด์ด้านเพอร์ซันนัล แคร์ สำหรับวัยรุ่นอีกด้วย

ล่าสุดบริษัทฯได้นำ“ชอย ซี วอน” ศิลปินนักร้องจากประเทศเกาหลี มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับ ทเวลฟ์ พลัส แป้งเย็น สูตรใหม่ เอ็กซ์ตร้า คูล ซึ่งงบการทำตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ใหม่ครั้งนี้ใช้ไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท คาดว่าจะช่วยเสริมยอมขายให้แก่กลุ่มแป้งเย็นทเวลฟ์ พลัส ไม่น้อยกว่า 20 %

นายวิเชียร กล่าวต่อว่า กลยุทธ์พรีเซนเตอร์ ถือเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่ทำให้แบรนด์ทเวลฟ์ พลัส สามารถเป็นผู้นำของตลาดเพอร์ซันนัล แคร์ สำหรับวัยรุ่นได้ ขณะที่ ชอย ซี วอน นี้ ถือเป็นพรีเซนเตอร์ระดับอินเตอร์ ที่ทางบริษัทฯนำมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้แบรนด์ทเวลฟ์ พลัส เป็นครั้งแรก หากได้รับการตอบรับดี คาดว่าจะใช้ชอย ซี วอน เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับไลน์ผลิตภัณฑ์อื่นของแบรนด์ ทเวลฟ์ พลัส ต่อไป ขณะที่ในปีที่ผ่านมาใช้พรีเซนเตอร์ที่เป็นคนไทย คือ กอล์ฟ-ไมค์

ปัจจุบันสินค้าหมวดแป้งเย็นมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 1,230 ล้านบาทนั้น แบ่งเป็นสำหรับกลุ่มวัยรุ่น 600 ล้านบาท ซึ่งทเวลฟ์ พลัส ครองส่วนแบ่งในกลุ่มดังกล่าวมากกว่า 70 % รองลงมาคือ ชาวเวอร์ มีส่วนแบ่งเพียง 10-11 % เท่านั้น

ส่วนตลาดแป้งเย็นในปีนี้คาดว่าจะแข่งขันในเรื่องของ เอ็กซ์ตร้าคูลเป็นหลัก คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 70 % และความหอมอีก 30 % นอกจากนี้จะมีนำเรื่องของมูลค่าเพิ่มของสินค้าเป็นจุดขายเช่น เสริมด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อถนอมผิว หรือสามารถป้องกันแสงแดดได้อีกทางหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม นอกจากกลยุทธ์พรีเซนเตอร์แล้ว ปีนี้บริษัทฯยังจะนำเรื่องของนวัตรกรรม, แพกเก็จจิ้ง และเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า รวมไปถึงการออกไลน์สินค้าใหม่ให้กับแบรนด์ทเวลฟ์ พลัสอีกทางหนึ่งด้วย ดังนั้นจึงคาดว่ายอดขายรวมภายใต้แบรนด์ทเวลฟ์ พลัส ในปีนี้ จะเพิ่มขึ้นใกล้เคียงปีที่ผ่านมาประมาณ 10 % มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20 % ของรายได้รวมบริษัทฯ ในกลุ่มตลาดคอนซูเมอร์ทั้งหมด ที่มีมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาทในปีนี้