|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แม้จะได้รับการจับตามองถึงความสำเร็จในการสร้างคลื่นวิทยุเพลงอิสระที่ไม่มีค่ายเพลงยักษ์ใหญ่หนุนหลัง ให้ประสบความสำเร็จทั้งจำนวนผู้ฟัง และรายได้จากการขายโฆษณา ทัดเทียมคลื่นเงินถุงเงินถัง แต่คลิค วีอาร์วัน เรดิโอ ไม่ได้มีเป้าหมายอยู่เพียงธุรกิจคลื่นความบันเทิงอย่าง FM One หรือ Fat Radio เท่านั้น ในช่วงเวลาที่ข่าวสารกลายเป็นคอนเทนท์สำคัญที่ประชาชนแสวงหา การแข่งขันของรายการข่าวบนสื่อโทรทัศน์มีการแย่งชิงความเป็นผู้นำกันอย่างเข้มข้น แต่สถานีข่าวบนคลื่นวิทยุ วาสนพงศ์ วิชัยยะ กรรมการผู้จัดการ คลิค วีอาร์วัน เรดิโอ กล่าวว่า ผู้นำคงหนีไม่พ้น 101 INN News Channel ที่คลิคฯ ผลิตรายการร่วมกับสำนักข่าวไอเอ็นเอ็น
คลื่นข่าว 101 ที่ก่อกำเนิดมาเมื่อทศวรรษที่ผ่านมา อาจไม่มีความหวือหวาเหมือนเมื่อครั้งค่ายเพลงแกรมมี่ เปิดคลื่นข่าวโอเพ่นเรดิโอ 94 MHz หรือไม่มีเรตติ้งพุ่งสูงเหมือนเมื่อครั้งค่ายเวอร์จิ้น เชื่อมสัญญาณรายการเล่าข่าวจากช่อง 3 เรื่องเล่าเช้านี้ มาออกอากาศผ่านสถานี 105.5 Hz แต่จากการออกสำรวจขององค์กรที่ทำหน้าที่วิจัยข้อมูลทางการตลาดหลายแห่ง มีสถิติของ คลื่นข่าว 101 ที่น่าสนใจหลาย ๆ หัวข้อ
นีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ช ระบุว่า 101 เป็นคลื่นที่มีผู้ฟังต่อเนื่อง Time Spend Listening ยาวนานมากที่สุด การใช้นวัตกรรมการติดตามความถี่จากการกระจายเสียงของคลื่นวิทยุ ที่สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการันตีว่า เป็นเครื่องมือตรวจสอบการออกอากาศที่แม่นยำที่สุด ระบุว่า คลื่น 101 เป็นคลื่นที่มีการเปิดโฆษณาสูงเป็นอันดับ 2 ของคลื่นความถี่ที่ออกอากาศในประเทศไทยทั้งหมดในรอบปี 2549 เป็นรองเพียงกรีนเวฟ 106.5 ของค่ายจีเอ็มเอ็ม มีเดีย เพียงคลื่นเดียว สอดคล้องกับข้อมูลจากบริษัทการตลาดแห่งหนึ่งที่วาสนพงศ์ เคยยกขึ้นมาอ้างอิงว่า 101 เป็นคลื่นที่เปิดสปอตโฆษณาที่มีกลุ่มสินค้าหลากหลายที่สุด
วาสนพงศ์กล่าวว่า ความสำเร็จของ 101 INN News Channel คือ การสร้างความน่าเชื่อถือ มีจรรยาบรรณของการทำข่าวที่มีความเป็นกลาง การมีพันธมิตรในการสนับสนุนที่ดีทั้งสำนักข่าวไอเอ็นเอ็น และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และการมีผู้ร่วมงานที่ดี ก่อให้เกิดความเชื่อถือของผู้ฟังและลูกค้า ที่ทำให้สถานีได้รับการสนับสนุนที่ดีมายาวนาน
"คลื่น 101 ไม่ได้ยกความสำคัญไว้กับผู้จัดรายการเหมือนคลื่นอื่น สถานีนี้ไม่มีพระเอก หากเปรียบเทียบกับคลื่นข่าววิทยุอื่น ๆ เช่น เนชั่น หรือรายการข่าวของสถานีโทรทัศน์ เราไม่ได้ฝากสถานีไว้กับคน ๆ เดียว แต่กระจายความสำคัญให้กับทุกคนเท่าเทียมกัน ถ้ามีใครคนใดเลิกไป คนใหม่ที่จะเข้ามาแทนก็ไม่ทำให้รายการด้อยลง"
สำหรับแผนงานในการรีเฟรชคลื่นข่าว 101 ในปีนี้ วาสนพงส์ กล่าวว่า จะมีการปรับรูปแบบรายการเพื่อสร้างความใกล้ชิดกับผู้ฟัง สร้างคอมมูนิตี้ในหมู่ผู้ฟังรายการข่าว ให้เหมือนความสำเร็จของการสร้างคอมมูนิตี้ผู้ฟังรายการเพลงคลื่น Fat Radio และ FM One โดยจะเน้นการสร้างประสบการณ์ ให้ผู้ฟังมีการติดต่อกับรายการ จากเดิมที่เป็นเพียงผู้ฟัง ทั้งการร่วมสนุกแจกรางวัลตั้งแต่หลักพันจนถึงแสนบาท ทั้งการแจกบัตรเติมน้ำมัน บัตรทานอาหาร ไปจนถึงทริปเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ
นอกจากนี้ในส่วนของผู้ดำเนินรายการได้มีการปรับทัพตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยการนำคนข่าวชั้นนำที่เป็นที่ยอมรับไม่เลือกฝ่าย ทั้ง สมเกียรติ อ่อนวิมล ดำรง พุฒตาล นิติภูมิ นวรัตน์ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สุรนันท์ เวชชาชีวะ สรรชัย เตียวประเสริฐกุล รวมถึงผู้จัดรายการรุ่นเก่าของคลื่น 101 ที่กลับมา อาทิ สุดาทิพย์ อินทร บุญยอด สุขถิ่นไทย และผู้จัดรายการใหม่ แต่เป็นที่คุ้นเคยของผู้ฟัง อาทิ ยุทธนา กระบวนแสง หัทยา วงษ์กระจ่าง และ วิโรจน์ ตั้งวนิช ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้จัดรายการ และเป็นนักวิจารณ์ให้กับ 101 INN News Channel ทำให้มั่นใจว่าคลื่นข่าวแห่งนี้จะเป็นคลื่นข่าวการเมือง เศรษฐกิจ สังคม บันเทิง ที่ครบรส
วาสนพงศ์ กล่าวว่า ความแข็งแกร่งของคลื่นข่าว 101 INN News Channel จะเป็นตัวเสริมความแข็งแกร่งให้กับคลิค วีอาร์วัน เรดิโอ ในการเป็นผู้ผลิตรายการวิทยุที่ได้รับการยอมรับทั้ง 4 คลื่น Get 102.5 คลื่นเพลงสากล FM One 103.5 Happy Station คลื่นเพลงฟังสบาย Fat Radio 104.5 คลื่นเพลงวัยรุ่น และคลื่นข่าว 101 INN News Channel ให้มีการเติบโตอย่างมีจังหวะมั่นคงท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง และสภาพตลาดรวมไม่สดใสนัก
|
|
|
|
|