|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เจ้าของบัลลังก์เบอร์หนึ่งตลอดกาลในตลาดประกันภัยรถยนต์ "วิริยะประกันภัย"มองเห็นโอกาสจากพอร์ตรถยนต์ จะเป็นการขยายตลาดใหม่ จากฐานลูกค้าในมือ ที่มีอยู่กว่า 8 แสนราย คือ การสร้างธุรกิจ "นอนมอเตอร์" ธุรกิจใหม่ที่เคยเป็นม้านอกสายตามานานเท่าๆกับอายุกว่า 60 ปีของวิริยะประกันภัย...
ปีที่แล้ว วิริยะประกันภัย จ่าฝูงในธุรกิจประกันภัยรถยนต์ มีเบี้ยประกันภัยรับรวมไหลเข้าบริษัทสูงถึง 13,664 ล้านบาท ขยายตัว 16% แบ่งเป็นงานประเภทมอเตอร์หรือประกันภัยรถยนต์ 12,974 ล้านบาท แยกเป็นเบี้ยประกันภัยภาคสมัครใจ 10,737 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยภาคบังคับ 2,236 ล้านบาท
ขณะที่งานประเภทนอนมอเตอร์ มีเบี้ยประกันภัยรับรวมเพียง 690 ล้านบาท เป็นอัคคีภัย 168 ล้านบาท ประกันขนส่งทางทะเล 53 ล้านบาท และประกันเบ็ดเตล็ด 468 ล้านบาท เมื่อเทียบกันงานภาคนอนมอเตอร์จึงมีสัดส่วนเพียง 6% ของพอร์ตรวม
สำหรับวิริยะฯตลาดนอนมอเตอร์จึงถือเสมือนเสาธงบนยอดเขาสูง ที่จะต้องใช้พละกำลังอย่างมากเพื่อจะปีนป่ายเอามาให้ได้ ในขณะที่วอลุ่มตลาดประกันภัยรถยนต์ที่มีมากขึ้น และมีคู่แข่งในตลาดมากหน้าหลายตา กำลังต่อสู้ตัดกำลังกันที่ราคาเบี้ยต่ำๆ ก็ยังทำกำไรได้ไม่มาก อาศัยวอลุ่มปริมาณเบี้ยที่มีมากกว่าเพื่อนพ้องในวงการเดียวการเดียวกัน วิริยะฯจึงยันยืนหยัดในตำแหน่ง "จ่าฝูง"ได้ไม่ยากนัก
ตลาดนอนมอเตอร์ นอกจากจะเป็นธุรกิจใหม่ที่ยังไม่ทันได้เอาจริงเอาจังมากนัก ก็ยังเพิ่งจะตัดแต่งโครงสร้างทีมงานใหม่ โดยดึงเอาตัวผู้บริหารจากไทยรับประกันภัยต่อ (ไทยรี) เข้ามารับบทบาทผู้นำทีมได้ไม่ถึงปี
กฤตวิทย์ ศรีพสุธา กรรมการรองกรรมการผู้จัดการ วิริยะประกันภัย ยอมรับว่า ช่วงเริ่มต้นของวิริยะฯคือการบุกเบิกตลาดประกันภัยรถยนต์ ทำให้ในอดีตยังขาดแคลนบุคลากรที่จะเข้ามาดำเนินการด้านประกันภัย นอนมอเตอร์ ในขณะที่ตลาดใหม่เป็นตลาดที่พร้อมจะให้ความคุ้มครอง
หากมองว่าวิริยะฯจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับกลุ่มแบงก์ และธุรกิจประกันวินาศภัยต่างประเทศก็คงผิดถนัด เพราะตลาดนอนมอเตอร์สำหรับวิริยะฯก็คือ ฐานลูกค้าประกันภัยรถยนต์เดิมที่มีอยู่กว่า 8 แสนราย
ว่ากันว่า ถ้าได้เพียง 10% จากพอร์ตที่มีอยู่ในมือ วิริยะฯก็คงไม่ต้องไม่ยื้อแย่งหรือ แข่งขันกับสถาบันการเงินเจ้าถิ่น ที่ครอบครองตลาดนี้อยู่เดิม หรือแม้แต่ไม่จำเป็นต้องฝ่าลูกกระสุน วิ่งเข้าหาศัตรู "ธุรกิจทุนนอก" ที่มีทั้งทุน เทคโนโลยีและฐานลูกค้า ซึ่งยืนอยู่บนจุดยุทธศาสตร์ที่ได้เปรียบให้เสี่ยงโดยเปล่าประโยชน์
โครงสร้างการบริหารของธุรกิจใหม่ จึงจำเป็นต้องปรับองค์กรใหม่หมด โดยเน้นการกระจายอำนาจ ทั้งการรับประกันภัย จัดการสินไหมแก่สาขา และศูนย์บริการมากขึ้น โดยมีผู้นำทีมคือ อานนท์ โอภาสพิมลธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ วิริยะประกันภัย ที่โยกมาจาก "ไทยรี"
"บริษัทมีแผนขยายธุรกิจควบคู่ไปกับการจัดองค์กรใหม่ โดยคำนึงถึงความถนัดเป็นหลัก หลีกเลี่ยงการแข่งขันที่รุนแรง ยกเว้นแต่จะเป็นลูกค้าเดิมอยู่แล้ว" อานนท์ อธิบายถึงบทบาทใหม่ในองค์กรใหม่ ที่มีพอร์ตประกันภัยรถยนต์มากเป็นเบอร์หนึ่งของประเทศ
สำหรับวิริยะประกันภัย ตลาดประกันภัยรถยนต์ ก็คือ กลุ่มลูกค้าเดิมที่จะแปรเปลี่ยนมาเป็นฐานลูกค้าใหม่ ที่วิริยะฯกำลังจะพลิกตัว เบียดแทรกเข้าไปในตลาดใหม่ๆ ซึ่งยังไม่เคยได้สัมผัสใกล้ชิด
นับจากนี้ธุรกิจนอนมอเตอร์จึงไม่ได้มีพื้นที่จำกัดวงเฉพาะแบงก์หรือ ทุนนอกจากต่างประเทศเท่านั้น...
|
|
|
|
|