Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน27 กุมภาพันธ์ 2550
โฮมโปรดิ้นหนีกฎหมายค้าปลีก             
 


   
www resources

โฮมเพจ โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์

   
search resources

โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์, บมจ.
Home and Office Appliances
คุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล




โฮมโปรในเครือแลนด์ฯ ยอมรับกฎหมายค้าปลีกของกระทรวงพาณิชย์ มีผลกระทบต่อธุรกิจและการขยายสาขาโฮมโปร เล็งขอใบอนุญาตล่วงหน้าสาขาปี 2551 ภายในปีนี้ ยอมรับสภาพเศรษฐกิจ และการเมือง ทำให้ผู้บริโภคไม่มั่นใจจับจ่าย คาดยอดซื้อต่อบิลปี 50 ลดลงบ้าง ลั่นปีนี้ต้องปั๊มรายได้ให้เติบโตอีก 20% จาก 14,223 ล้านบาทในปี 49

นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัทว่า ในปีที่ผ่านมา ผลจากความไม่แน่นอนทางการเมือง เศรษฐกิจ และเหตุการณ์ต่างๆ ได้ก่อให้ตัวเลขของยอดขายของบริษัทในไตรมาสแรกปี 49 ติดลบ แต่ทางโฮมโปรได้พยายามปรับตัวและแก้ไขปัญหาต่างๆ จนส่งผลให้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2ต่อเนื่องถึงไตรมาสสุดท้ายของปี 49 ยอดขายเป็นบวก อย่างไรก็ตาม วงเงินการสั่งซื้อสินค้าต่อบิลของลูกค้าพบว่า ในปี 2548 เฉลี่ยจะอยู่ที่ 2,400 บาทต่อเดือน ขณะที่ปี 2549 อยู่ที่ 2,300 บาทต่อเดือนต่อบิล และคาดว่าในปี 2550 ยอดใช้จ่ายต่อบิลน่าจะลดลงตามทิศทางของเศรษฐกิจ

ในขณะเดียวกัน สาขาของโฮมโปรบางทำเล ยังมียอดขายที่ดีอย่างต่อเนื่อง เช่น สาขาที่หัวหิน ,สมุย และสุราษฎร์ธานี ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายเดือนธ.ค. 49 ส่วนสาขาทางภาคเหนือ เช่น สาขาพิษณุโลก , ขอนแก่น และอุดรธานี้ ยอดขายเติบโตตามเป้าหมายที่ทางสำนักงานได้วางไว้ โดยแผนปรับปรุงอาจจะมีหลากหลายวิธี ตัวอย่างเช่น การปรับสินค้าที่ตอบสนองลูกค้าระดับกลางลงล่าง การจัดส่งสินค้าให้เร็วขึ้น นอกจากนี้ ร้านค้าที่อยู่ในท้องถิ่นนั้นๆ มีการให้ส่วนลดคืนแก่ผู้ซื้อในกรณีที่สั่งซื้อในปริมาณที่มาก ตรงนี้ทางโฮมโปรมองเป็นวิธีการที่อาจจะต้องมาปรับปรุงประสิทธิภาพของสาขาเหล่านั้น ให้มียอดขายเติบโต

นายคุณวุฒิ กล่าวว่า เรื่องของกฎหมายค้าปลีกที่กระทรวงพาณิชย์กำลังเดินหน้าอยู่ในขณะนี้ ได้มีการกำหนดให้รูปแบบธุรกิจของโฮมโปรต้องเข้าข่ายกฎหมายค้าปลีก จากก่อนหน้าจะมีกฎหมายเรื่องพื้นที่ก่อสร้าง (Zoning Law) ทำให้ทางบริษัทจะต้องมาทบทวนและประเมินผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น โดยในส่วนปี 2550 การลงทุนสาขาใหม่ยังคงเดินหน้าต่อไป เนื่องจากได้รับอนุญาตให้ดำเนินการได้ ส่วนสาขาใหม่ในปี 2551 คาดว่าจะขออนุญาตในปีนี้ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับกฎหมายค้าปลีกประกอบด้วย

"ทางโฮมโปรยังไม่เห็นร่างกฎหมายค้าปลีก ซึ่งคงต้องการประกาศก่อน คาดว่าในปีนี้น่าจะได้เห็น แต่ปัญหาดังกล่าวก็รวมถึงบริษัทค้าปลีกข้ามชาติด้วย"นายคุณวุฒิกล่าว

สำหรับทิศทางของธุรกิจในปี 2550 กรรมการผู้จัดการบริษัท แจงว่า ทางโฮมโปรยังคงต้องขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะไม่เอื้ออำนวย เนื่องจากธุรกิจไม่สามารถหยุดนิ่งได้ โดยตามแผนแล้วภายในระยะ 5 ปีข้างหน้า (ตั้งแต่ปี 2549-2553) สาขาโฮมโปรจะเพิ่มเป็น 40 สาขาทั่วประเทศ จาก ณ สิ้นธ.ค.2549 มีสาขาอยู่ 26 สาขา และเมื่อสามารถก้าวหน้าไปข้างหน้าตามแผนแล้ว คาดว่าส่วนแบ่งตลาดโฮมโปรจะขยับเป็น 35% จากปัจจุบันประมาณ 12%

โดยทางบริษัทได้เตรียมเงินลงทุนเพื่อรองรับขยายสาขาใหม่ประมาณ 3,200 ล้านบาท (และเงินลงทุนบางส่วนต่อเนื่องถึงปี 2551ประมาณ 1,000 ล้านบาท ) แหล่งเงินที่จะนำมาใช้ในการลงทุนแยกเป็น 3 ส่วน คือ หุ้นกู้ประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท เงินกู้ระยะสั้นประมาณ 200-500 ล้านบาทและ กระแสเงินสดจากการประกอบกิจการประมาณ 1,000-1,200 ล้านบาท

"ในปีนี้ ตั้งเป้ารายได้จากการขายเติบโตอีก 20% จากรายได้รวมของปี 2549 ที่ทำได้ 14,223.72 ล้านบาท ซึ่งสาขาใหม่ที่จะเปิดตัวมีประมาณ 4-5 สาขา โดยล่าสุดได้เปิดสาขาเพชรเกษมไปเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา สาขาอื่นๆ ที่เตรียมเปิดคือ สาขาชลบุรี สาขาเอกมัย-รามอินทรา และบางสาขาในจังหวัดภาคตะวันออก โดยในส่วนของรายได้จากค่าเช่า คาดว่าสาขาใหม่ที่จะเปิดตัว จะมีรูปแบบของพื้นที่ให้เช่าไม่มาก เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 3,000-4,000 ตารางเมตร จากที่มีพื้นที่ให้เช่าในสาขาก่อนหน้านี้ประมาณ 30,000 ตร.ม. "   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us