ซีอีโอร่วมดีแทค กอดคอแถลงผลงาน 100 วันหลังรับตำแหน่ง ปรับโครงสร้างบริหาร แบ่ง
4 สายหลักพรีเพด โพสเพด บริการเสริมและCRM พร้อมประกาศหามือการตลาดใหม่หลังมืออาชีพคอนซูเมอร์โปรดักต์ล้มเหลว
เดิน ตามยุทธศาสตร์สร้างความแตกต่าง แบ่งตลาดเป็นกลุ่ม เปิดรับพาร์ตเนอร์ ส่วนการเปิดตัวฮัท
ซีดีเอ็มเอ ทั้งคู่บอกไม่มีอะไรที่บริการGPRS ของดีแทคสู้ระบบ ซีดีเอ็มเอไม่ได้
ย้ำ 80 คอนเทนต์โพรวายเดอร์พร้อมสนับสนุน
นายวิชัย เบญจรงคกุล กับนายซิคเว่ เบรคเก้ ประธานเจ้าหน้าที่ร่วม บริษัท โทเทิ่ล
แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่นหรือดีแทค ร่วมแถลงข่าว DTAC 100 Days Plan หรือยุทธศาสตร์ในการบริหารดีแทคภายหลังเข้ารับตำแหน่ง
100 วัน
นายซิคเว่ เบรคเก้กล่าวว่าในช่วง รับตำแหน่งในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ตลาด มีการแข่งขันสูงมาก
ซึ่งยุทธศาสตร์ที่วาง ไว้ตอนนั้นประกอบด้วย 1.การให้ความ สำคัญกับรายได้มากกว่าตัวเลขลูกค้าที่
เพิ่มมากขึ้น 2.มีการเพิ่มขึ้นของยอดลูกค้าประมาณ 2.3-2.5 แสนราย โดยดีแทคกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนในแต่ละตลาดคือในตลาดพรีเพด
(ดีพร้อมท์) ต้องเพิ่มรายได้ต่อเลขหมาย ให้เพิ่มขึ้น,ตลาดโพสเพด ยังมีปัญหาใน เรื่องลูกค้าออกจากระบบ
ซึ่งดีแทคได้พยายามหาทางป้องกันปัญหาดังกล่าวและเพิ่มรายได้จากบริการเสริม (VAS)
ให้มากขึ้น ซึ่งจากในวันวาเลนไทน์ที่ผ่าน มา มีการส่งข้อความสั้นหรือ SMS มาก ถึง
4.2 ล้านข้อความ เทียบกับปีก่อนมีการส่งเพียง 2 ล้านข้อความเท่านั้น
3.ดีแทคมั่นใจเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพ โดยเป็นผู้ให้บริการรายเดียวที่มีเครือข่าย
GPRS สื่อสารข้อมูล ความเร็วสูงครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งทั้งเอไอเอสหรือทีเอออเร้นจ์
ยังไม่มีเครือข่ายดังกล่าวครอบคลุมได้เท่าดีแทค ซึ่งปัจจุบันเครือข่ายดีแทครอบ
คลุมความหนาแน่นของประชากร 91% โดยที่ในปี 2545 มีการติดตั้งสถานีฐาน เพิ่มอีก
879 สถานีและจะติดตั้เงพิ่มใน ปีนี้อีก 400-500 สถานี
"ถึงแม้จะมีหลายๆคนออกมาพูด เรื่อง MMS แต่ดีแทคเป็นคนเดียวที่ให้บริการ MMS
สมบูรณ์แบบและทั่วถึง ซึ่งเครือข่ายของดีแทคจะครอบคลุม ประชากรเป็นหลักมากกว่าการครอบ
คลุมพื้นที่ป่าเขาต่างๆ"
4.ดีแทคมีเป้าหมายในการเป็นผู้นำบริการกลุ่มลูกค้าองค์กรและธุรกิจ เพราะทุกวันนี้ลูกค้าในกลุ่มดังกล่าวไม่ได้รับการบริการดีเท่าที่ควร
ในทำนองเดียวกันทำให้ผู้ให้บริการก็ไม่ได้รับราย ได้ตามศักยภาพที่ควรจะได้จากลูกค้าองค์กรและธุรกิจ
ซึ่งดีแทคต้องการให้บริการลูกค้ากลุ่มนี้ ให้ตรงตามความต้องการมากที่สุดเพื่อเพิ่มรายได้ให้ดีแทค
5.มีการปรับโครงสร้างองค์กร ซึ่ง ในเรื่องนี้นายวิชัย เบญจรงคกุลกล่าวว่า การปรับโครงสร้างองค์กรไม่ใช่บุคลากร
มีปัญหา เพียงแต่เราต้องการทำอะไรให้ องค์กรตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของตลาดและความต้อง
การของลูกค้าได้ทันท่วงที ดีแทคจัด 4 หน่วยงานใหม่ โดยแบ่งเป็น 1.ให้นายสันติ เมธาวิกุล
ผู้อำนวยการ Postpaid Business Unit รับผิดชอบลูกค้าโพสเพดโดยเฉพาะ ซึ่งลูกค้าในกลุ่มนี้จะมีความต้องการบริการที่แตกต่างจากพรีเพด
2.นายธนา เธียรอัจฉริยะ ผู้อำนวย การ Prepaid Business Unit ดูแลลูกค้าในกลุ่มพรีเพด
ซึ่งจะดูแลตั้งแต่สินค้า บริการ บัตรเติมเงินต่างๆ 3.นาย ปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่าย
Consumer Product Management ดูแลในเรื่องบริการเสริม (VAS) และ 4.นาย Alex Tan
เป็นผู้อำนวยการฝ่าย Strategy and Programme รับผิดชอบเรื่องการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าหรือ
CRM ทำอย่างไรให้ ลูกค้าพึงพอใจบริการ
ดีแทคยังมีหน่วยงานที่เรียกว่า Churn Management เพื่อมาดูแลลูกค้าในการย้ายเปลี่ยนหรือออกจากระบบ
ซึ่งที่ผ่านมาธุรกิจโทรคมนาคมส่วนใหญ่เน้นแต่เรื่องการตักตวงลูกค้าเข้าสู่ระบบ
แต่เมื่อตลาดชะลอตัว มีการ ย้ายระบบกันมากก็ไม่รู้จะจัดการอย่าง ไร ซึ่งหน่วยงานนี้กำลังเรียนรู้จากประสบการณ์ธุรกิจอื่นอยู่ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม
สายการบิน ธุรกิจรถเช่า
"ผลสำเร็จของหน่วยงานนี้ส่วนหนึ่งคือการหยุดลูกค้าโพสเพดไม่ให้ย้ายค่าย"นายวิชัยกล่าวและย้ำว่า
CRM ไม่ใช่แค่หยุดเรื่องการออกจากระบบ (Churn) แต่เป็นการป้องกันปัญหาหรือ แก้ปัญหาที่สาเหตุเป็นหลัก
ดีแทคยังพยายามหาวิธีจัดการกับหนี้เสียหรือลูกค้าที่ชอบย้ายค่ายข้ามระบบในลักษณะเป็นเครดิตบูโร
โดยอยู่ระหว่างการหารือร่วมกับกระทรวงไอซีที และกระทรวงการคลัง
นอกจากนี้ ดีแทคยังหาผู้บริหารที่จะมารับผิดชอบด้านการตลาดแทนนางวรรณา สวัสดิกูล
โดยสเปกที่นายวิชัยต้องการคือคนที่มีประสบการณ์ และต้องมีความเข้าใจธุรกิจโทรศัพท์มือถือ
ที่ผ่านมาถึงแม้มีการดึงมือการตลาดด้านคอนซูเมอร์โปรดักต์เข้ามาแต่ก็เป็นเพราะธุรกิจโทรคมนาคมไม่มีนักการตลาดที่ชำนาญเฉพาะในด้านนี้
สำหรับแผนงานต่อไปของดีแทค สรุปว่ายุทธศาสตร์ของดีแทคต้องการเป็นเลิศด้านบริการ
ไม่ขอเป็นที่ 2 แต่ขอเป็นที่ 1 ในด้านบริการในสิ่งที่ลูกค้า ต้องการที่ผ่านมาดีแทคเป็นผู้นำในเรื่อง
การคิดค่าบริการเป็นวินาทีในอัตราเดียว ทั่วประเทศ เป็นผู้นำในการปลดล็อกอีมี่หรือรหัสประจำเครื่อง
ดีแทคมุ่งเสนอบริการที่แตกต่าง มีโซลูชั่นที่แตกต่างเสนอให้ลูกค้าตลอด เวลา ไม่ใช่เป็นบริการที่ลูกเล่นแพรว
พราวแต่เป็นแพคเกจที่สามารถทำให้โทรศัพท์มือถือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เป็นเป้าหมายแรกเป้าหมายต่อมาคือการแบ่งกลุ่มลูกค้าในตลาด
ใน ปีที่ผ่านมาตลาดเติบโตมาก ผู้ให้บริการ มักมองตลาดเป็นกลุ่มเดียว แต่ดีแทคเริ่มมองเฉพาะกลุ่มมากขึ้นโดยเริ่มจาก
กลุ่มลูกค้าองค์กร และธุรกิจ ซึ่งมีศักยภาพมากที่สุด ในต่างประเทศลูกค้า องค์กรและบริการด้านข้อมูลทำรายได้ให้โอเปอเรเตอร์
25-30% โดยเฉพาะในนอร์เวย์ ทำรายได้มากถึง 35%
ปัจจุบันดีแทคมีรายได้จากลูกค้า องค์กรและบริการด้านข้อมูลเพียง 4% และวางเป้าหมายรายได้ในปีนี้เพิ่มเป็น
6-8% ซึ่งดีแทคมีเป้าหมายเจาะกลุ่มลูกค้าองค์กรด้วยการจับมือกับ 15 พันธมิตรอย่างไมโครซอฟท์
เอชพี เพื่อ พัฒนาแอปพลิเคชั่นตามความต้องการของลูกค้า รวมทั้งยังมีพันธมิตรด้านคอนเทนต์อีก
80 บริษัทที่พร้อมพัฒนาคอนเทนต์ต่างๆ
สำหรับการเปิดตัวของฮัท ในระบบซีดีเอ็มเอใน นายเบรคเก้กล่าวว่า สิ่งที่ซีดีเอ็มเอทำได้
ก็ไม่ต่างอะไรจากที่ระบบ GPRS ทำได้ มองไม่ออกว่าฮัทจะวางตัวเองทำให้เกิดความแตกต่าง
จากผู้ให้บริการรายเดิมในตลาดอย่างไร ประเด็นที่ท้าทายฮัทคือพื้นที่บริการครอบคลุมของเครือข่าย
ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญของในการให้บริการ รวมทั้งคุณภาพของเครือข่าย
"ไม่รู้สึกว่าฮัทเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวแต่อย่างใด"
นายวิชัยกล่าวเสริมว่าคอนเทนต์โพรวายเดอร์ทั้ง 80 รายของดีแทค ไม่ รู้สึกว่าจะเกิดกำแพงกั้นในเรื่องเทคโนโลยีแต่อย่างใด
ทุกอย่างสามารถพัฒนาบนระบบ GPRS ได้อย่างภาพเคลื่อนไหว ก็เป็นการพัฒนาจากภาพนิ่ง
"ของใหม่ดูสดใสแต่ต้องดูดีๆ ว่า มีคุณค่าหมือนที่มีอยู่ในปัจจุบันหรือไม่ เพราะดีแทคใช้ได้เหนือจดใต้"
สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้ เนื่อง จากเครือข่ายดีแทคครอบคลุมประชากรกว่า 91% คงไม่ต้องลงทุนอะไรมากเหมือนปีที่ผ่านมา
แต่เป้าหมาย หลักจะอยู่ที่การปรับปรุงคุณภาพในอาคารมากกว่า
เขายังกล่าวถึงเรื่องภาษีสรรพสามิตว่าภาระของผู้ใช้บริการไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่ภาระของบริษัทเพิ่มขึ้นแทนคือ
1.ต้องเสียภาษีทุกเดือน 2.ต้องทำงานด้านเอกสารมากขึ้น และ 3.ต้องมีการหักกลบลบหนี้ยอดขาดเหลือกับการสื่อ
สารสารแห่งประเทศไทย(กสท.)ในช่วงปลายปีหรือแต่ละไตรมาส ส่วนกระแสเงินสดจะเร็วขึ้น
แต่ก็ไม่ได้มีผลกระทบกับบริษัทแต่อย่างใดเพราะเตรียมการในเรื่องนี้ไว้พร้อมแล้ว
"เป็นภาระที่ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ ไม่ได้ผลักภาระให้ผู้บริโภค ไม่ได้มองว่ายากที่จะปฏิบัติ
เป็นแค่ดีแทคปรับวิธีการทำงานภายในเอง