|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ มีนาคม 2550
|
|
ถ้าปีนี้หน้าฝนบ้านเรามีฝนตกน้อย และเข้าสู่ภาวะแล้งเหมือนที่ผ่านมา บริษัทที่ผิดหวังมากที่สุดเห็นจะไม่พ้นบริษัท กู๊ดเยียร์ (ประเทศไทย) จำกัด เพราะอาจทำให้สินค้าตัวใหม่ล่าสุด ยางสำหรับรถกระบะรุ่น Durasport ยอดขายวิ่งสะดุดก็ได้
ยางรุ่นนี้บริษัทตั้งใจไว้ว่าจะเป็นนวัตกรรมใหม่ของยางรถกระบะ ที่มีความแตกต่างจากคู่แข่งก็คือสามารถรีดน้ำบนถนนที่เปียกลื่นได้ดีกว่า ซึ่งหมายถึงยางรุ่นนี้จะวิ่งดี และเห็นประสิทธิภาพสูงสุดก็คือในฤดูฝน หากอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ฝนฟ้าเป็นใจ ยอดขายก็คงไม่ทำให้บริษัทหวาดเสียวเกินไป
การเปิดตัวยางรีดน้ำในภาวะ ที่อากาศแปรปรวน ฝนตกน้อย ต้องถือเป็นความกล้าที่จะแตกต่างกับคู่แข่ง ตัวเลขที่บริษัททำการเก็บรวบรวมมาพบว่าบ้านเรามีฝนตก 123 วันต่อปี ปริมาณน้ำฝนประมาณ 1,438 มิลลิเมตรต่อปี หากตัวเลขนี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงต้องยอมรับว่าตลาดยางรีดน้ำน่าสนใจไม่น้อย ซึ่งทางกู๊ดเยียร์เองก็เปิดตัวยางรีดน้ำครั้งแรกตั้งแต่ปี 1993 และมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง
แต่ไม่ได้หมายความว่า ยางรุ่นนี้จะเหมาะกับถนนเปียก ถนน ลื่นเพียงอย่างเดียว สามารถใช้ได้ดีในถนนทุกประเภท หรือเรียกว่าได้ทั้งร้อน ฝน หนาว ก็ไม่ผิด
ถึงจะมองปัจจัยเรื่องฤดูกาลเป็นหลักแล้ว สิ่งที่บริษัทหวังมาก ที่สุดก็คือกลุ่มผู้ใช้รถกระบะและรถตู้ กรรมการผู้จัดการ บริษัทกู๊ดเยียร์ (ประเทศไทย) ริชาร์ด เฟลมมิ่ง บอกว่า ตลาดรถกระบะของไทยใหญ่เป็นอันดับสองรองจากสหรัฐฯ และจากการสำรวจพบว่าคนไทย ทุก 13 คน จะมี 1 คนที่เป็นเจ้าของรถกระบะ และเขาก็น่าจะคาดหวังด้วยว่าทุก 13 คน ต้องใช้ยางกู๊ดเยียร์ แต่ความตั้งใจนี้เขาไม่ได้บอกออกมา
สิ่งที่ทำให้บริษัทสนใจตลาดรถกระบะมากเป็นพิเศษก็คือ การ ใช้ยางของรถกระบะมีเพียง 11% เท่านั้นที่มีรถกระบะเพื่อมาบรรทุกของโดยเฉพาะ และใช้ยางที่เหมาะสมกับการบรรทุก แต่อีก 75% มีรถกระบะเพื่อใช้งานเหมือนรถเก๋งทั่วไป ในจำนวนนี้มีถึง 15% ที่ใส่ยางรถเก๋ง ด้วยความเชื่อที่ว่า เกาะถนน นุ่มนวล และมีเทคโนโลยี ที่ดีกว่ายางรถกระบะที่มีขายทั่วไป
เป็นสิ่งที่นักการตลาดด้านรถยนต์สับสนไปเหมือนกันว่า คนซื้อรถกระบะที่ออกแบบมาเพื่อบรรทุก เอาไว้ใช้ขับไปทำงานเหมือนรถเก๋ง จะมีบรรทุกของบ้างก็ไม่เกินปีละ 2-3 ครั้ง บวกกับราคาขายรถกระบะช่วงหลังบางรุ่นแพงกว่ารถเก๋ง จึงทำให้เห็นภาพว่ารถกระบะ ไม่ใช่รถของผู้มีรายได้น้อยอีกต่อไป เจ้าของรถพร้อมที่จะแต่ง หรือเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ดีกว่า
ยางรุ่นนี้ต้องทำความเข้าใจกับลูกค้าให้ดีก่อนว่า เป็นยางที่รีดน้ำได้ดีกว่ายางรุ่นอื่นๆ คืออยู่ที่ 22 ลิตรต่อวินาที แต่หากเจออุทกภัยเหมือนที่ผ่านมา ก็ช่วยอะไรไม่ได้
ยางรีดน้ำกับยางวิดน้ำ มันแตกต่างกัน
|
|
|
|
|