Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มีนาคม 2550








 
นิตยสารผู้จัดการ มีนาคม 2550
พรานทะเลแดง             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ยูเนี่ยนโฟรเซนโปรดักส์ จำกัด

   
search resources

ยูเนี่ยนโฟรเซนโปรดักส์, บจก.
ธงชัย ธาวนพงษ์
Frozen food
ชามิ อัล-ฮัสซานิ แอนด์ ซันส์
สยาม แอนด์ ชามิ เรดซี




เพิ่งจะเปิดโรงงานผลิตซูชิที่ร่วมทุนกับเคแอนด์ยู เอ็นเตอร์ไพรซ์ จากญี่ปุ่น เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว มาปีนี้ยูเนี่ยน โฟรเซ่นโปรดักส์ (ยูเอฟพี) เจ้าของแบรนด์ "พรานทะเล" เบนเข็มรุกไปทางตะวันออกกลาง ประเดิมด้วยการใช้ พี.ที.อินเตอร์ฟิชเชอรี่ บริษัทในเครือเข้าร่วมทุนกับชามิ อัล-ฮัสซานิ แอนด์ ซันส์ จากซาอุดีอาระเบีย ตั้งบริษัท สยาม แอนด์ ชามิ เรดซี เพื่อทำธุรกิจประมงน่านน้ำและแปรรูปสัตว์ในน่านน้ำตะวันออกกลาง

บริษัทดังกล่าวมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนการถือหุ้นฝ่ายละครึ่ง หนึ่ง โดยยูเอฟพีจะใช้ความเชี่ยวชาญที่มีอยู่ในด้านการจัดหาวัตถุ ดิบและแปรรูปอาหารทะเล ส่วนชามิฯ มีเครือข่ายธุรกิจที่ครอบคลุมหลายด้านและกว้างขวางในซาอุดีอาระเบีย จึงเป็นช่องทางการจำหน่ายที่สำคัญ

ชามิ อัล-ฮัสซานิ แอนด์ ซันส์ เป็นกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่จากประเทศซาอุดีอาระเบีย ทำธุรกิจหลายด้านด้วยกัน อาทิ เรียลเอสเตท ก่อสร้าง โรงพยาบาล โรงแรม ฟาร์มปศุสัตว์และสวนมะม่วง เป็นต้น

การร่วมทุนครั้งนี้เป็นการขยายการลงทุนออกต่างประเทศอย่างครบวงจรเป็นครั้งแรกของยูเอฟพี โดยเริ่มต้นจากการทำประมง ซึ่งจะเป็นโครงการเริ่มต้นของสยาม แอนด์ ชามิ เรดซี โดยจะใช้เรือ ประมงขนาด 300 ตัน จำนวน 2 ลำ และเรือประมงขนาด 60 ตันอีก 6 ลำ ทำการประมงในน่านน้ำทะเลแดงและบริเวณใกล้เคียง ผลผลิตที่ได้จะจำหน่ายในประเทศซาอุดีอาระเบียและส่งออกไปยังประเทศต่างๆ รวมถึงส่งกลับมาประเทศไทย โดยคาดว่าจะสามารถ จับผลผลิตได้ประมาณปีละ 8,000 ตัน คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 280 ล้านบาท

โครงการขั้นต่อไปจะเป็นการเข้าสู่ธุรกิจแปรรูปสัตว์น้ำ ซึ่งจะเริ่มทำการผลิตได้ประมาณปลายปีนี้ โดยในระหว่างนี้จะมีการศึกษาพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ตรงกับความต้องการของตลาดมากที่สุด หลังจากนั้นจะรุกเข้าสู่ธุรกิจภัตตาคารอาหารทะเล โดยนำเอาประสบการณ์จากร้านพรานทะเลฟาสต์ซีฟู้ดเป็นต้นแบบ เริ่มต้นที่ซาอุดีอาระเบียและขยายออกสู่ประเทศอื่นๆ ในแถบตะวันออกกลาง โครงการสุดท้ายจะเป็นการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง เพื่อทดแทนจำนวนสัตว์น้ำที่ลดจำนวนลง อีกทั้งยังช่วยรองรับความต้องการของผู้บริโภคอาหารทะเลที่มีเพิ่มขึ้นได้อีกทางหนึ่ง โดยทางชามิฯ เตรียมพื้นที่สำหรับโครงการนี้เอาไว้แล้วถึง 3,000 ไร่

การร่วมทุนครั้งนี้นอกจากจะทำให้สินค้าของพรานทะเลได้โอกาสวางขายในตะวันออกกลางแล้ว การได้พันธมิตรจากซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกยังช่วยลดต้นทุนค่าน้ำมันลงได้อีกกว่าครึ่งเลยทีเดียว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us