Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มีนาคม 2550








 
นิตยสารผู้จัดการ มีนาคม 2550
หรือจะเป็นชื่อนี้ เครือเคมีภัณฑ์ไทย             
 


   
www resources

โฮมเพจ เครือซิเมนต์ไทย
โฮมเพจ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)

   
search resources

เครือซิเมนต์ไทย
ปูนซิเมนต์ไทย, บมจ.
Construction
Chemicals
ไทย เอ็มเอ็มเอ, บจก.




ปัญหาผลกระทบเรื่องราคาน้ำมัน กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ทำให้หลายๆ บริษัทต้องปวดหัว เพราะต้นทุนพลังงานทำให้ผลประกอบที่คิดว่าจะดี กลับต้องลดลง เหมือนกับที่บริษัทปูนซิเมนต์ไทย ที่แม้ว่าในปี 2549 จะมียอดขายสูงถึง 258,175 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิ 29,451 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้าถึง 9%

กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย กานต์ ตระกูลฮุน บอกในวันแถลงผลประกอบการว่า มีผลมาจากต้นทุนพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น บวกกับความต้องการปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างในประเทศ ลดลง

สินค้าที่มีตัวแปรด้านต้นทุนพลังงานมาเกี่ยว ข้องไม่สามารถหนีปัญหานี้ไปได้

ปูนซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง สินค้าพื้นฐานของเครือซิเมนต์ไทย ที่มีบทบาทในการสร้างรายได้มาตลอด ช่วงหลังกลับถดถอยลง ปีที่ผ่านมาเติบโตแค่ 6% และที่เติบโตได้ระดับนี้มาจากการส่งออกปูนซีเมนต์เป็นส่วนใหญ่

ถ้าหากปูนใหญ่ยังเติบโตแค่ 6% ปูนกลาง ปูนเล็ก ปูนน้อย ก็คงอยู่ในภาวะที่ไม่แตกต่างกันเท่าไรนัก

แต่ธุรกิจที่ทำให้เครือซิเมนต์ไทยยังยิ่งใหญ่และอยู่แถวหน้าได้ก็คือ ธุรกิจเคมีภัณฑ์ที่มียอดขายรวม 122,645 ล้านบาท เติบโตถึง 43% เพราะปิโตรเคมีในช่วงที่ผ่านมาเป็นช่วงขาขึ้น ราคาก็เลยดีตาม ไปด้วย ยอดขายระดับกว่าแสนล้านบาท มากกว่ายอดขายปูนซีเมนต์ และวัสดุก่อสร้างถึง 3 เท่า

ผู้บริหารเครือซิเมนต์ไทยยังบอกด้วยว่า ได้ลงทุนเพิ่มในธุรกิจ เคมีภัณฑ์อีก 2,900 ล้านบาท แบ่งเป็นการสร้างโรงงานแห่งที่สองของบริษัทไทย เอ็ม เอ็ม เอ ที่ระยอง มีกำลังการผลิต 90,000 ตันต่อปี โดยจะผลิตแผ่นป้ายโฆษณาในอุตสาหกรรมโฆษณา และกรอบไฟของรถยนต์

มีคนตั้งข้อสังเกตว่าเพิ่มกำลังการผลิตป้ายสำหรับอุตสาหกรรม โฆษณาในช่วงนี้ เครือซิเมนต์ไทยมองถึงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นตาม มาภายใน 1-2 ปีนี้หรือไม่ เพราะช่วง high season ของธุรกิจป้ายโฆษณา น่าจะมาจากการเลือกตั้งทั้ง ส.ส. และ ส.ว.เหมือนกับในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ไม่แน่ว่า การเลือกตั้งครั้งต่อไป อาจไม่มีป้ายหาเสียงที่อลังการอีกแล้วก็ได้

นอกจากนี้ยังก่อสร้างโรงงานผลิตแผ่น Continuous Cast ที่ ระยอง กำลังการผลิต 20,000 ตันต่อปี ซึ่งแผ่นที่ผลิตนี้เป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตแผ่นกระจายแสงสำหรับอุตสาหกรรมอิเล็ก ทรอนิกส์ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ จอ LCD

สำหรับบริษัท ไทย เอ็ม เอ็ม เอ เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างเครือซิเมนต์ไทย กับบริษัท Mitsubishi Rayon Company จากญี่ปุ่น ก่อตั้งเมื่อปี 2548

ที่สำคัญเครือซิเมนต์ไทยยังจ่ายปันผลอีกหุ้นละ 15 บาท ก่อน หน้านี้ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 7.50 บาท ใน เดือนสิงหาคม เงินปันผลที่เหลืออีก 7.50 บาทจะจ่ายในเดือนเมษายน

เครือซิเมนต์ไทยประเมินทิศทางของบริษัทในปีนี้แบบระมัด ระวังอย่างมาก โดยคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้น 5% เพราะช่วงต่อไปกำไรจากปิโตรเคมีจะเริ่มลดลง เนื่องจากราคาในตลาดโลกอ่อนตัว ลง โดยอุตสาหกรรมกระดาษจะเริ่มกลับมาทำรายได้เพิ่มขึ้นอีกครั้ง เพราะความต้องการใช้กระดาษเริ่มเพิ่มขึ้น ส่วนวัสดุก่อสร้าง และปูนซีเมนต์ถดถอย อัตราการเติบโตคงที่ แต่ต้องรอดูว่าภาครัฐมีการอัดฉีดเงินผ่านโครงการขนาดใหญ่หรือไม่   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us