สำหรับ " วิทยุบันเทิง" กลุ่มวัยรุ่น เป้นกลุ่มเป้าหมายของผู้ฟังหลัก
ดังนั้น การเอาใจวันรุ่นดูจะเป็นคาถาแห่งความสำเร็จของธุรกิจกลุ่มนี้
ดังนั้นการคิดแหวกวงการบันเทิงของบริฟษัทฟาติมา บรอดคาสติ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล
จำกัด ทีจะเนรมิตรสถานีเพื่อความบันเทิง 96.5 เม็กกะเฮิร์ต ให้ขึ้นอยู่บนชั้น
4 ห้างสรรพสินค้า ซีคอนสแควร์ จึงน่าจับตามองเป็นอย่างมากว่า จะเป็นกลเม็ดใหม่ของสถานีวิทยุที่จะล้มหรือลุกกันแน่
" ฟาติมา เรามองว่าหากจะพึงคนฟังให้มากกว่านี้ จะต้องฉีกแนวไม่ให้เหมือนกับที่เคยทำมา
โดยสร้างสถานีในความหวังของใครต่อใครหลายคน ที่อยากจะเห็นสถานีเข้าไปอยู่ในห้างสรรพสินค้า
ซึ่งเป็นจุดรวมตัว
ของวัยรุ่น เพื่อให้เขามีส่วนร่วมในการจัดทำรายการ เช่นเดียวกับสถานีวิทยุในประเทศ
ที่พัฒนาแล้วมีกัน เพื่อเป็นมิติใหม่ที่จะช่วยทำให้สื่อแบบวิทยุมีศักยภาพที่ใกล้เคียงกับโทรทัศน์ขึ้นมาบ้าง"
โกมุท คงเทศ ผู้อำนวยการฝ่ายรายการและผู้จัดการฝ่ายสร้างสรรค์ของผาติมา
เล่าให้ฟังถึงปาณิ
ธานแรกเริ่มในการผลักดันสถานีวิทยุแห่งนี้ให้เกิดขึ้น โดยหลังจากได้มีการสรุปการจัดทำรายการ
ณ คลื่น 96.5 แมกะเฮิรตซ์ ในช่วงแรกแล้วพบว่า ยังมีจุดอ่อนที่ยังไม่สามารถให้คนฟังได้มีส่วนร่วมกับรายการได้อย่างเต็มที่
ให้มากกว่าที่สถานีวิทยุอื่นเคยทำกันมา จึงได้เริ่มเสาะแสวงหาความร่วมมือจากห้างสรรพสินค้าต่าง
ๆ ที่จะขอความร่วมมือเข้าไปใช้สถานที่ในการจัดทำรายการ
หลังจากได้พูดคุยกับซีคอน ซึ่งมีแนวคิดใกล้เคียงกับสถานีที่จะเอาใจกลุ่มวัยรุ่นเป็นสำคัญ
จึงได้ตกลงเลือกห้างแห่งนี้เป็นสถานีวิทยุแห้งแรกในเมืองไทย ที่อยู่ห้างสรรพสินค้า
โดยเริ่มจัดทำรายการมาตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
รูปแบบการจัดทำรายการที่เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นมากว่าที่ฟาติมาตั้งเป้าไว้นั้น
นอกจากสถานีวิทยุแห่งนี้จะเป็นกระจกใสที่จะทำให้ผุ้คนทั่วไปเห็นการปฏิบัติงานของเหล่าดีเจ
โดยมีลำโพงอยุ่ข้างหน้าห้องส่ง ได้อย่างเต็มที่แล้ว
รายการในช่วงบ่าย ของทุกวันจันทร์ - เสาร์คือ Music Jam จะมีการเปิดโอกาสให้วัยรุ่นที่ล้อมกรอบฟังรายการอยู่หน้าส่ง
ขอเพลงผ่านไมโครโฟนเข้ามาในห้องส่งได้เอง ในบางช่วงยังเปิดโอกาสให้คนฟังได้แสดงความคิดเห็น
หรือร้องเพลงออกอากาศสด ๆ ได้ทันที ปรากฏว่า ตั้งแต่เปิดสถานีมาจะมีผู้มาออฟังหน้าห้องส่งไม่น้อยกว่า
วันละ 100-200 คน เป็นอย่างน้อย ซึ่งเป็นผลพวงสร้างความคึกคักให้กับซีคอนสแควร์ไปในตัวด้วย
เพื่อให้การมีส่วนร่วมของผู้คนที่เข้ามาในซีคอนสแควร์ กับสถานีวิทยุแห่งนี้ได้ขยายตัววงกว้างออกไป
ทางฟาติมา ยังได้เตรียมให้มีการจัดรายการประชามติกลุ่มย่อย โดยการจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปสัมภาษณ์ลูกค้าในซีคอน
เกี่ยวกับความคิดเห็นความนิยมสื่อบันเทิงในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์
ละคร ทั้งในจอทีวี ทั้งในและนอกประเทศ เพื่อนำข้อคิดเห็นเหล่านั้มาประมวลเพื่อการจัดอันดับความนิยมด้านบันเทิงเหล่านั้นในแต่ละสัปดาห์
เพื่อ่ให้เกิดความตื่นตัวของคนในวงการบันเทิงโดยรวม
" เรายังคิดไปถึงขั้นว่า อาจจะมีการแจกรางวัลให้กับผลงานด้านบันเทิงต่าง
ๆ เหล่านั้น ในโอกาสต่อไป โดยจะเป็นรางวัลที่จะเกิดจากมติมหาชนอย่างแท้จริง
แม้ว้าจะเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ก็ตาม"
โกมุท กล่าว่า การสำรวจความนิยมอันนี้ใช้ชื่อว่า EMS Ratine โดยมาจาก Entertainment
station rating นั่นเอง ซึ่งสอดคล้องกับชื่อ EMS ของการสื่อสารแห่งประเทศไทย
ซึ่งหมายถึงจดหมายด่วน ในขณะที่ EMS ของฟาติมา จะเป็นการสำรวจความนิยมอย่างรวดเร็วและจะแจ้งให้ทราบผลในอาทิตย์นั้เลย
อีกรายการหนึ่งที่จะสร้างความสนใจกับผู้คนที่อยู่ในศีคอนสแควร์ได้อย่างมาก
เช่นเดียวกันคือ การสัมภาษณ์บุคคลในวงการบันเทิง โดยจะให้ผู้คนที่มายืนชมข้างหน้าห้องส่งสามารถสัมภาษณ์แขกรับเชิญได้โดยตรง
ซึ่งที่ผ่านมา เมื่อมีรายการสัมภาษณ์ขึ้น จะมีคนมายืนรอข้างหน้ามาก กว่าธรรมดาทุกครั้งไป
อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยข้อจำกัดของห้างสรรพสินค้าที่จะต้องมีการเปิดและปิดห้าง
ท ดังนั้นเวลาการจัดทำรายการของสถานีวิทยุแห่งนี้ จึงต้องเป็นไปตามเวลาดังกล่าว
ดังนั้น ในช่วง 10.00-20.00 น. จะมีรายการที่ซีคอนสแควร์ แห่งนี้ และหลังจาก
20.00-10.00 ของวันรุ่งขึ้น จะต้องไปดำเนินรายการที่องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย
หรือ อ.ส.ม.ท. ตามเดิม
หลังจากได้มีการจัดทำรายการไประยะหนึ่งแล้ว เมื่อฟังปฏิกิริยาตอบรับของผู้ฟังแล้วพบว่า
มีการให้ความสนใจกับรูปแบบการจัดทำนี้อย่างมาก และมีผู้ฟังที่ฟังอยู่ที่บ้านให้ความสนใจไปพิสูจน์
ณ ห้องส่งรายการเป็นจำนวนมากเช่นกัน ในส่วนของผุ้อุปถัมถ์รายการ ก็ปรากฏว่า
หลังจากออกอากาศไปได้ไม่นาน ก็มีสปอน
เซอร์รายใหญ่มาอุดหนุนรายการเพิ่มอีกถึง 3 รายทันที
โกมุท เผยถึงอนาคตของสถานีวิทยุรูปแบบใหม่นี้ว่า หลังจากที่ฟาติมาได้เป็นหัวหอกในการฉีกแนวไป
แล้ว จะมีอีกหลายค่ายที่จะเดินหน้าเข้ามาเพื่อเปิดสถานีวิทยุแบบนี้อีก
ขณะนี้มีค่ายหนึ่งได้เล็งทำเลที่ฟิวเจอร์ปาร์คบางแค ที่จะทำเป็นสถานีวิทยุเช่นเดียวกัน
และเชื่อว่าหากประสบผลสำเร็จเช่นเดียวกับฟาติมา ที่เปิดมาถึงขณะนี้ ก็จะมีอีกหลายค่ายที่จะไขว่คว้าหาทำเลแหวกใหม่เพื่อสัประยุทธ์กันผ่านอากาศเช่นนี้
" ส่วนทางฟาติมา เราคงจะยังไม่ขยายออกอากาศ โดยใช้ทำเลของห้างสรรพสินค้าในช่วงนี้
เพื่อที่จะมีการสรุปความสำเร็จกันก่อน โดยต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง ขณะนี้ทางฟาติมา
เราก็ยังคงเน้นการจัดรายการทางสถานีวิทยุต่างจังหวัดเช่นเดิม เช่นที่พิษณุโลก,
นครราชสีมา, ร้อยเอ็ด, กาฬสินธ์" สถานีวิทยุในห้างสรรพสินค้า อาจจะเป็นกลยุทธ์ที่ดึงดูดผู้ฟังได้อย่างเต็มที่
ระยะหนึ่ง แต่รูปแบบรายการที่จะเน้นเอาใจวัยรุ่น ซึ่งเป็นผู้ฟังกลุ่มใหญ่
ก็ย่อมจะต้องเปลี่ยนแปลงเนื้อหารายการไม่ให้ซ้ำซากจำเจตลอดเวลา
ดังนั้น ทำเลอาจจะเป็นเครื่องสร้างความแปลกใหม่ได้ขณะหนึ่ง แต่คุณภาพการจัดทำน่าจะเป็นเครื่องวัดความอยู่รอดของสถานีวิทยุแห่งนั้นได้มากว่า
