Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน27 กุมภาพันธ์ 2550
'บุญคลี'หนี-ไอทีวีระส่ำ             
 


   
www resources

โฮมเพจ สถานีโทรทัศน์ไอทีวี

   
search resources

ไอทีวี, บมจ.
บุญคลี ปลั่งศิริ
นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล
TV




“อวสาน ทีวีของไอ” สปน.ชง ครม.ยกร่างสัญญาไอทีวีฉบับใหม่ พร้อมเปิดทาง อสมท ยึด จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ ทำใบอนุญาตตาม มาตรา 80 ของพ.ร.บ.ร่วมทุน "หม่อมอุ๋ย" เผย ครม.เตรียมตัดสินทางออกวันนี้ ด้าน "ไอทีวี" ซ้ำหนักงวดปี 49 ขาดทุนเกือบ 1.8 พันล้าน ตลาดหลักทรัพย์สั่งห้ามซื้อขายหลังที่ปรึกษาไม่แสดงความเห็นต่องบฯ เหตุงบการเงินอาจไม่แสดงค่าที่แท้จริงของกิจการได้ "บุญคลี" กุนซืออดีตนายกฯ ชิงลาออกจากประธานบอร์ด

วานนี้ (26 ก.พ.) นายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เข้าพบพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีเพื่อรายงานข้อกฎหมายที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 27 ก.พ. นี้เพื่อรองรับการดำเนินการต่อหากบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ไม่สามารถชำระค่าสัมปทานและค่าปรับกว่า 1 แสนล้านบาทได้ในตามกำหนดเดิมในวันที่ 6 มี.ค.นี้ โดยได้นำ 5 ข้อเสนอของทางไอทีวี รายงานต่อนายกรัฐมนตรี

นายจุลยุทธ กล่าวว่า ผู้บริหารไอทีวีได้ยอมรับผลหากมติครม.ออกมาเช่นใด และรัฐบาลก็ยืนยันว่า พนักงานไอทีวีและผังการออกอากาศของรายการใหม่ของไอทีวี จะสามารถดำเนินการต่อเนื่องไปได้ อย่างไรก็ตาม สปน. จะยกร่างข้อสัญญาเพื่อเป็นสัญญาฉบับใหม่เพื่อเสนอครม. เพื่อให้หน่วยงานที่อยู่ในกำกับของ สปน. เช่น อสมท. หรือ กรมประชาสัมพันธ์มาดำเนินการเพื่อดำเนินการต่อไปได้หรือไม่

นายจุลยุทธ กล่าวอีกว่า มีความเป็นไปได้ว่า สปน.จะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า โดยร่างสัญญาขึ้นมาใหม่เพื่อรองรับพนักงานให้มีความมั่นคงและผังรายการใหม่จะสามารถดำเนินการได้ ส่วนอนาคตก็เป็นอีกเรื่องที่จะมีการแก้ไขกฎหมาย 2 ฉบับ กรณีการรวมกฎหมายของ กสช. และกทช. เข้าด้วยกัน อย่างไรก็ตามกระบวนการต่อไปก็จะมีการดำเนินการตามพ.ร.บ.ล้มละลาย

รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุมปลัดฯสปน. ได้หารือกับทีมเลขานุการ และอัยการสูงสุด โดยพูดถึงกระบวนการกฎหมายหลังบอกเลิกสัญญา โดยจะต้องมีการฟ้องล้มละลาย และให้แผนฟื้นฟูกิจการเข้าไปดำเนินการ นอกจากนี้ยังมีการหารือว่าจะให้ยกร่างข้อสัญญา โดยเมื่อบอกเลิกสัญญาแล้ว ให้ อสมท. เข้ามาดำเนินกิจการ ทั้งนี้ยังจะต้องออกใบอนุญาต มาตรา 80 ของพ.ร.บ.ร่วมทุน

**นำเข้า ครม.ชี้ขาดวันนี้

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยว่า วันนี้ (27 ก.พ.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะตัดสินใจเลือก 1 ใน 5 ทางเลือกที่กลุ่มพนักงาน บมจ.ไอทีวี ได้เสนอให้กับสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ซึ่งครม.จะยึดหลักในการตัดสินใจ 2 ประเด็นคือ 1.พนักงานของไอทีวีทุกคนจะต้องไม่ตกงาน ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุดเนื่องจากพนักงานของไอทีวีไม่มีความผิดและไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการดำเนินการของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และ 2.รายการต่างๆ ของไอทีวีที่มีอยู่ก็ให้คงอยู่ต่อไปตามเดิม

“ในการประชุมครม.จะให้ปลัด สปน.ชี้แจงรายละเอียดต่างๆ ทั้งข้อดีข้อเสียที่พนักงานไอทีวีเสนอมา ซึ่งวิธีการแก้ปัญหาก็มีอยู่หลายทาง หาถึงเวลาครบกำหนดจ่ายค่าสัมปทานในวันที่ 6 มีนาคม และไอทีวียังไม่จ่ายค่าสัมปทาน ครม.คงต้องตัดสินใจเลือกทางใดทางหนึ่งเพื่อแก้ไขปัญหาไอทีวีแน่นอน” ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าว

สำหรับแนวทางทั้ง 5 แนวทางที่พนักงานไอทีวีเสนอให้กับ สปน.ประกอบไปด้วย แนวทางที่ 1 บริษัทขอเสนอให้แปลงหนี้ค่าสัมปทานส่วนต่างดังกล่าวเป็นทุน โดยบริษัทชำระด้วยการออกหุ้นใหม่ 1,500 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1 บาท และจ่ายเป็นเงินสดอีก 710 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ สปน.เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในอัตรา 55.4% ของหุ้นทั้งหมดที่ชำระแล้ว แนวทางนี้ภาระหนี้สิน 2,210 ล้านบาทจะหมดไป การดำเนินงานของบริษัทในอนาคตก็จะมีความมั่นคงยิ่งขึ้น

แนวทางที่ 2 ได้มีบริษัทเอกชนไทยบางกลุ่มสนใจขอเข้ามาถือหุ้นบริษัท ไอทีวีฯ โดยจะขอซื้อหุ้นของบริษัทที่บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่นฯ ถือไว้ทั้งหมด แนวทางที่ 3 เสนอให้หน่วยงานของรัฐบาลรับซื้อหุ้นของบริษัท ไอทีวีฯ จาก บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่นฯ ทั้งหมด ซึ่งถืออยู่ 52.9% ของหุ้นทั้งหมดที่ชำระแล้ว หรือ 638 ล้านหุ้น กรณีนี้รัฐบาลต้องจัดหางบประมาณจำนวนหนึ่งสำหรับการเข้าซื้อหุ้นและการดำเนินกิจการต่อจากนี้

แนวทางที่ 4 บริษัทขอจ่ายค่าสัมปทานส่วนต่างบางส่วนก่อน 1,000 ล้านบาท ที่เหลืออีก 1,210 ล้านบาท บริษัทขอผ่อนชำระภายใน 5 ปี โดยบริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำรายละเอียดประกอบ แนวทางข้อเสนอนี้ให้ สปน.พิจารณา และแนวทางสุดท้าย ในอนาคตหากมีเหตุการณ์หรือปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้ไอทีวี ไม่สามารถหาเงินมาชำระหนี้ได้ภายในเวลาที่ สปน.กำหนด สปน.มีสิทธิบอกเลิกสัญญา เข้าร่วมงานได้

**ไอทีวีบักโกรกขาดทุนยับ 1.7 พันล.

นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือ ITV แจ้งผลการดำเนินงานของบริษัทงวดปี 49 บริษัทขาดทุนสุทธิ 1,783 ล้านบาท หรือขาดทุน 1.48 บาทต่อหุ้น ลดลง 2,461.80 ล้านบาท หรือ 362.5% จากงวดปีกันในปีที่ผ่านมาที่มีกำไรอยู่ที่ 679 ล้านบาท

ทั้งนี้ รายได้รวมในปี 49 อยู่ที่ 2,159 ล้านบาท ลดลง 185 ล้านบาท หรือ 7.9% จากปี 48 เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมโทรทัศน์ รวมทั้งปัจจัยทางการเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจน และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ขณะที่ค่าสัมปทาน จำนวน 2,506 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมากจากปีก่อนที่มีจำนวน 230 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ได้บันทึกค่าสัมปทานส่วนต่างตั้งแต่ ปี 47 ถึงปี 49 และค่าดอกเบี้ยของค่าสัมปทานส่วนต่าง ในอัตรา 15% ต่อปี

อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการหาแหล่งเงินทุนของบริษัทฯ ในการชำระค่าสัมปทานส่วนต่างจำนวน 2,210 ล้านบาท และค่าดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีของค่าสัมปทานส่วนต่าง รวมทั้งค่าปรับในกรณีที่บริษัทดำเนินการเรื่องผังรายการไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของสัญญาเข้าร่วมงานฯ จำนวน 97,760 ล้านบาท จากความไม่แน่นอนของแหล่งเงินทุนและผลของข้อพิพาทดังกล่าวมีสาระสำคัญอย่างมากต่อการดำเนินงาน และฐานะการเงินของบริษัท ดังนั้น บริษัทไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส เอบีเอเอส จำกัด ซึ่งเป็นผู้สอบบัญชีของบริษัทฯ จึงไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินของบริษัทฯ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2549

นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวอีกว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการลาออกของนายบุญคลี ปลั่งศิริ จากตำแหน่งประธานกรรมการ และ นายวีระวงค์ จิตต์มิตรภาพ จากตำแหน่งกรรมการและกรรมการตรวจสอบ พร้อมแต่งตั้งให้ นายอนันต์ ลี้ตระกูล เป็น ประธานกรรมการบริษัทและประธานกรรมการตรวจสอบ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2550 เป็นต้นไป

“นายบุญคลี ปลั่งศิริ ประธานกรรมการฯและนายวีระวงค์ จิตต์มิตรภาพ กรรมผู้ตรวจสอบ ได้ขอลาออกจากคณะกรรมการบอร์ดไอทีวี โดยระบุการลาออกว่ามีภารกิจอื่นที่จำเป็น” นายนิวัฒน์ธำรงกล่าว

ส่วนที่ตลาดหลักทรัพย์ประกาศห้ามซื้อขายหุ้นในภาคบ่ายวันเดียวกันนั้น ตนเห็นว่า หากจะมีผลกระทบกับไอทีวีอย่างไร ตนก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร คือเมื่อผู้ตรวจสอบบัญชีส่งงบไปว่าไม่มีความเห็นก็เป็นเรื่องของกฎของตลาดที่เขาก็มีสิทธิที่จะแขวนป้ายการซื้อขาย นอกจากนี้ในส่วนของกระแสข่าวที่ตระกูลมาลีนนท์สนใจหุ้นทีวีนั้น นายนิวัฒน์ธำรง ระบุสั้นๆว่า “ไม่ทราบ ไม่มีใครติดต่อมาที่ผม”

ก่อนหน้านี้ผู้บริหารของ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารช่อง 3 กล่าวว่า มีความสนใจทำธุรกิจทีวีทุกรูปแบบทั้ง ทีวีดาวเทียม หรือฟรีทีวี ส่วนการที่จะเข้าไปบริหารช่องไหนนั้นต้องดูถึงความเหมาะสมด้วยว่า เป็นอย่างไร หากมีหนี้สินมากก็ไม่เหมาะสมที่จะเข้าไปลงทุน

**ตลท.แขวน SP หุ้น ITV

ด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) เพื่อห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของ ITV ตั้งแต่การซื้อขายรอบบ่ายของวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2550 เพื่อให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนทั่วไปมีเวลาในการพิจารณารายงานของผู้สอบบัญชีประกอบกับตัวเลขในงบการเงิน

และหมายเหตุประกอบงบการเงินอย่างระมัดระวัง โดยจะอนุญาตให้ซื้อขายหลักทรัพย์ของ ITV ต่อไป พร้อมกับการขึ้นเครื่องหมาย NP (Notice Pending) ตั้งแต่การซื้อขายรอบเช้าวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2550 เป็นต้นไปจนกว่า ITV จะนำส่งงบการเงินฉบับแก้ไข หรือจนกว่าจะได้ข้อสรุปว่าITV ไม่ต้องแก้ไขงบการเงินดังกล่าว

ทั้งนี้ เนื่องจากงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2549 ฉบับที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีมายังตลาดหลักทรัพย์โดยผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินของบริษัท ทำให้ตัวเลขผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของบริษัทที่ปรากฏในงบการเงินอาจไม่แสดงค่าที่แท้จริงของกิจการซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์อาจสั่งการให้บริษัทแก้ไขงบการเงินได้

สำหรับความเคลื่อนไหวราคาหุ้น ITV วานนี้ (26 ก.พ.) ก่อนตลาดหลักทรัพย์ฯจะขึ้นเครื่องหมาย SP ราคาปิดที่ 0.94 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท หรือ 1.08% มูลค่าการซื้อขาย 3.916 ล้านบาท

**"ไอทีวี"ไร้ทางออกมืดแปดด้าน

นายอภิศักดิ์ ลิมป์ธำรงกุล ผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า ทางออกของบมจ.ไอทีวี ในขณะนี้อาจจะมีการหาพันธมิตรในวงการสื่อเดียวกันเข้ามาร่วมลงทุนเช่น สถานีวิทยุโทรทัศช่อง3 ช่อง 5 และช่อง 7 หรือว่าอาจจะหาพันธมิตรในส่วนของภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนจากที่ก่อนหน้านี้ยังคงมีกระแสข่าวว่าตระกูลมาลีนนท์มีความสนใจที่จะเข้าไปซื้อหุ้นของไอทีวี

ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่าปัจจุบันทางบมจ.ไอทีวีอยู่ในสถานะที่รอรับอย่างเดียวเท่านั้น คือสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.)จะทำอย่างไรต่อไป ขณะเดียวกันต้องติดตามในส่วนของตลาดหลักทรัพย์ภายหลังจากที่ได้ขึ้นเครื่องหมาย SP เพื่อห้ามการซื้อขายหลักทรัพย์ของ บมจ.ไอทีวี ภายหลังจากที่ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความคิดเห็นต่องบการเงินของบริษัท ว่าจะมีมาตรการอย่างไรหากยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนจากผู้สอบงบบัญชี

นายฉัตรชัย กิจธิคุณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ สินเอเซีย จำกัด กล่าวว่า ราคาหุ้นบมจ.ไอทีวียังมีโอกาสปรับตัวลดลง เนื่องจากขณะนี้พื้นฐานของบริษัทอยู่เหนือการคาดการณ์ ซึ่งไม่สามารถที่จะประเมินได้ โดยราคาหุ้นปรับตัวผันผวนตามกระแสข่าวรายวัน

“เราไม่สามารถที่จะประมาณการณ์ได้ว่าราคาหุ้น บมจ.ไอทีวี จะปรับตัวลดลง มากขนาดไหน ซึ่งปัจจัยหลักต้องติดตามน้ำหนักของข่าวร้ายที่เข้ามากระทบการลงทุน” นายฉัตรชัยกล่าว.   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us