|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ไอซีทีหวั่นเสียค่าโง่ให้เทมาเส็กหากเร่งรีบซื้อคืนดาวเทียม “สิทธิชัย” คาดใช้เวลาร่วม 3 เดือนได้ความชัดเจน ตั้งคณะทำงานร่วม ก.ยุติธรรมแล้ว 18 คน ระบุกองทุนจากสิงคโปร์ต้องการขายพ่วงให้แบบเหมาทั้งกลุ่มชินคอร์ป ปลัดกระทรวงยุติธรรม เผยประเด็นกฎหมายต้องรอบคอบ ด้าน “เสรีพิสุทธ์” เข้าเกียร์ห้าเร่งคดีนอมินีกุหลาบแก้ว
นายสิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการซื้อหุ้นบริษัท ชิน แซทเทิลไลต์ กิจการดาวเทียมไทยคมคืนจากกลุ่มเทมาเส็ก ประเทศสิงคโปร์ว่า ขณะที่ได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาแล้ว 18-19 คน โดยร่วมกันระหว่างกระทรวงยุติธรรมกับกระทรวงไอซีที โดยคณะทำงานชุดนี้จะเข้ามาหาแนวทางหรือวิธีการเพื่อซื้อกิจการดาวเทียมไทยคมคืนที่ดีที่สุด ให้มีความรัดกุมและรอบคอบ ที่จะดำเนินการควบคู่ไปกับการรับฟังความเห็นจากประชาชน ที่กระทรวงไอซีทีจะดำเนินการสำรวจจากกลุ่มประชาชนทั่วประเทศ 2-3 หมื่นรายโดยจะเริ่มสำรวจในอีก 1 เดือนข้างหน้า ว่า การซื้อครั้งนี้เหมาะสมหรือไม่
ส่วนการตรวจสอบนอมีนี จะดำเนินการควบคู่จากผลตรวจสอบข้อมูลจากทางกระทรวงพาณิชย์ โดยจะดำเนินการร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เพื่อให้มีข้อมูลชัดเจนหลายด้าน เพื่อนำไปพิจารณาข้อสรุปในแนวทางการซื้อคืนและการสรุปถึงความเป็นธุรกิจของคนต่างด้าว ซึ่งกระบวนการทั้งหมดคาดว่าจะมีผลความชัดเจนได้อีกในระยะเวลา 3 เดือน
“มีหลายๆหน่วยงาน มีแนวทางแตกต่างกันไป ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายในทางปฏิบัติ หรือ การพิจารณา โดยเฉพาะเรื่องของนอมินี และ กุหลาบแก้ว ที่มีเส้นทางการเงิน ในการซื้อขายหุ้น เป็นเส้นทางที่วกวนไปมา ไม่ใช่รูปแบบการซื้อแบบปกติ”
เผยเทมาเส็กอยากขายยกล็อต
ขณะเดียวกันการซื้อคืนกลุ่มเทมาเส็ก ไม่ได้ต้องการขายบริษัทชินแซท เพียงส่วนเดียว แต่ต้องการให้ ขาย บริษัท แอ็ดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส(เอไอเอส) ด้วย เนื่องจาก มูลค่า ชินแซท นั้นไม่สูงมาก หากจะขายควรที่จะขาย เอไอเอส พ่วงไปด้วย เพื่อจะได้มีความคุ้มค่า และ คืนให้กับ ไทย
อย่างไรก็ตามการดำเนินการซื้อคืนครั้งนี้ จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และไม่ให้เกิดผลกระทบตามมาภายหลัง โดยเฉพาะเรื่องการเสียค่าโง่ หรือ นำเงินรัฐไปใช้โดยไม่เกิดประโยชน์ ทำให้ประชาชนเสียความรู้สึกต่อการตัดสินใจของรัฐบาลที่ดำเนินการอย่างไม่เหตุผลเพียงพอต่อการนำไปประกอบการตัดสินใจสรุปแนวทาง
รมว.ไอซีที กล่าวอีกว่า หากกระทรวงไอซีที ยกเลิกสัญญาก็จะมีผลกระทบเช่นกัน อาจจะส่งผลให้เทมาเส็ก เกิดการฟ้องร้องทางศาลปกครอง หรือศาลยุติธรรมที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากข้อสัญญาได้ทำไว้อย่างรัดกุมถึงการยกเลิกสัญญา และหากมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นจะต้องใช้เวลาดำเนินการเป็นระยะเวลาถึง 5ปี ซึ่งหากใช้ส่วนนี้อาจจะทำให้แนวทางการซื้อคืนไม่เกิดความคุ้มค่าและดาวเทียมหมดอายุใช้งานลง โดยดาวเทียมที่จะยังคงเหลือใช้งานได้ดีอยู่ คือ ไทยคม4(ไอพีสตาร์) ไทยคม 5
ทวงคืนต้องรอบคอบ
นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการตรวจสอบสัญญาสัมปทานเพื่อทวงคืนสัมปทานดาวเทียมไทยคมว่า เหตุผลที่นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเข้าไปร่วมหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) โดยไม่พุ่งเป้าไปที่การสอบสวนว่าบริษัทกุหลาบแก้วเป็นนอมินีหรือไม่ เพื่อดำเนินการเพิกถอนสัมปทาน เพื่อพิจารณาทางเลือกทางออกที่ดีที่สุดทั้งในประเด็นข้อกฎหมายและหลักการระหว่างประเทศ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบทางด้านการลงทุน ทั้งนี้การตัดสินใจต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ เพราะหากเกิดข้อผิดพลาดจะทำให้การแก้ไขยากลำบากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการหารือร่วมระหว่างผู้เชี่ยวชาญของกระทรวงยุติธรรมกับกระทรวงไอซีที โดยจะต้องรอให้กระทรวงไอซีทีในฐานะเจ้าของเรื่องเป็นผู้นัดประชุม
ด้านนายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงยุติธรรมได้แต่งตั้งทีมงานที่ปรึกษากฎหมายขึ้นมาทำการตรวจสอบและวิเคราะห์ว่าการกระทำของบริษัทกุลาบแก้วจะมีผลกระทบอย่างไร และมีสภาพเป็นนอมินีหรือไม่หากรับฟังหลักฐานแล้วพบว่าเป็นนอมินีจริงจะมีผลกระทบต่อนิติกรรมสัญญาต่างๆ ที่ทำขึ้นระหว่างบริษัทชินคอร์ปกับกองทุนเทมาเสกอย่างไรบ้าง
นายเศรษฐพร คูศรีพิทักษ์ กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เปิดเผย ว่า การทวงคืนสัมปทานดาวเทียมไทยคมเป็นอำนาจของรัฐบาลและกระทรวงไอซีทีตามสัญญาสัมปทาน ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ คุ้มค่าต่อการลงทุนมากที่สุด เนื่องจากการแข่งขันให้บริการดาวเทียมระหว่างประเทศรุนแรงต้องอาศัยภาคเอกชนที่เข้มแข็งเป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจดาวเทียม
นายเศรษฐพร กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ดาวเทียมไทยคมยังคงเป็นดาวเทียมของประเทศไทย เป็นดาวเทียมที่อยู่ในตำแหน่งวงโคจรของประเทศไทย แต่สัญญาสัมปทานที่ภาครัฐทำกับบริษัทชินแซทเทิลไลท์ ขณะนี้อยู่ในการดูแลของกองทุนเทมาเส็กที่ได้ซื้อหุ้นของชินคอร์ปเท่านั้น จึงเป็นเรื่องของการดำเนินการตามกฎหมายให้ถูกต้องตามกฎกติกาของประเทศไทย รวมถึงการพิจารณาข้อกฎหมายระหว่างประเทศด้วย
เสรีพิศุทธ์"ยันกุหลาบแก้วต้องคืบหน้า
พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีกุหลาบแก้วว่า คดีนี้ต้องคืบหน้าอยู่แล้ว ตนเองได้เรียกผู้ที่รับผิดชอบคดีเข้ามาพบเมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ดูรายละเอียด เนื่องจากติดประชุม ก.ตร. และหลังจากประชุมก.ตร.ก็เกิดเหตุลอบยิงขบวนท่านผู้หญิงวิริยา ชวกุล ประธานมูลนิธิบำรุงขวัญ ตนจึงต้องรีบเดินทางไป แต่ขอเวลาศึกษารายละเอียดก่อน เพราะสำนวนการสอบสวนอยู่ที่ตนเองแล้ว จึงยังไม่รู้ว่าคดีนี้อยู่ในขั้นตอนไหน แต่ทำให้เร็วที่สุดไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้ตนจะศึกษารายละเอียดของคดี
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องที่จะโอนไปเป็นคดีพิเศษให้ดีเอสไอรับผิดชอบนั้น ตอนนี้คดีนี้ตำรวจยังเป็นผู้รับผิดชอบอยู่ก็ต้องทำให้ดีที่สุด ใครทำก็สู้ตำรวจไม่ได้ ดีเอสไอ 90 เปอร์เซ็นต์เป็นตำรวจ และ ส่วนใหญ่ก็มาจากตำรวจที่ผิดหวัง จะสู้ตำรวจที่มีอนาคตได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าเวลาผ่านมากกว่า 5 เดือนแล้ว คดียังไม่มีความคืบหน้าไม่ถือว่าล้าช้าไปหรือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า คดีเยอะ ตำรวจน้อย ผู้บริหารไม่รู้จักพัฒนา เมื่อตนเข้ามาทำงานได้ไม่นานก็เริ่มทำงานโดยการกำหนดตำแหน่งผู้ตรวจราชการขึ้น ซึ่งตนเองมีกำหนดที่จะทำอะไรอีกเยอะแต่เกรงใจนายกรัฐมนตรีต้องพูดกันด้วยเหตุด้วยผล.
|
|
|
|
|