ปี 2514 - เครื่องเอทีเอ็มเครื่องแรก เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา โดยแบงก์ซิตี้เซนและเซาท์เธ่น
เนชั่นแนล ในแลตแลนต้า ให้บริการรับฝากถอนเงินอัตโนมัติ
ปี 2526- แบงก์ไทยพาณิชย์เป็นแบงก์แรกในประเทศไทย ที่นำเครื่องเอทีเอ็มเข้ามาปฏิวัติโฉมหน้ารีเทลแบงก์กิ้ง
ครั้งใหญ่ เพิ่มยอดจำนวนบัญชีเงินฝากของไทยพาณิชย์ในปี 2525 จาก 725,974
บัญชี เป็น 860,595 บัญชี ณ สิ้นปี 2526 หรือเท่ากับ 18.5 ความคิดเอทีเอ็มนี้ได้สร้างชื่อเสียงให้กับบรรณวิทย์
บุญญรัตน์ กลายเป็นดาวรุ่งที่ก้าวกระโดดขึ้นสู่ตำแหน่งนักบริหารระดับสูง
ปี 2527 - นโยบายแบงก์ชาติกำหนด แนวทางวางระบบเครือข่ายเอทีเอ็ม ร่วมไม่ต่ำกว่า
3 แบงก์ เพื่อลดปัญหาขาดทุนการค้า และแข่งขันนำเข้าเครื่องเอทีเอ็ม
ปี 2528 - แบงก์ยักษ์ใหญ่สามแบงก์ชาติต่างสร้างเครือข่ายกันขึ้นมา ประกอบด้วย
" ไทยเน็ท" ซึ่งมีไทยพาณิชย์ มหานคร และ สหธนาคาร เครือข่าย "
เงินสดทันใจ" เป็นการรวมตัวระหว่างแบงก์กสิกรไทย ทหารไทย กรุงศรีอยุธยา
และธนาคารสยาม และเครื่องข่าย " แบงก์เน็ท" ที่มีแบงก์กรุงเทพ
กรุงไทย ไทยทนุ นครธน แหลมทอง ศรีนคร และแบงก์เอเชีย
ปี 2529 -หัวเรือใหญ่สองแบงก์ คือ ไทยพาณิชย์ และกสิกรไทย รวมเครือข่ายไทยเน็ท
และเครือข่ายเงินสดทันใจกันเป็น " สยามเน็ท" และจัดตั้งบริษัท
" เครือข่ายธนไทย" หรือเรียกสั้น ๆ ว่า บริษัทเอส เอ็น เอส ทำการเชื่อมต่อเครือคอมพิวเตอร์ของธนาคารกลางทั้ง
7 แห่ง ขณะที่ เครือข่ายแบงก์เน็ทไม่มีบริษัทกลาง แต่รวมศูนย์ระบบคอมพิวเตอร์ที่แบงก์กรุงเทพ
ปี 2530- แบงก์สยามได้ลาออกจากสมาชิกสยามเน็ต เพราะยุติการดำเนินงาน
ปี 2531- แบงก์กรุงเทพและกสิกรไทยร่วมลงทุนจัดตั้งศูนย์คอมพิวเตอร์สำรองในนาม
" บริษัท ศูนย์ประมวลผล ( พีซีซี) ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท โดยมีแบงก์กรุงเทพถือหุ้น
30% กสิกรไทย 30% ปูนซิเมนต์ไทย 20% และสหยูเนี่ยน 20% ปีนี้แบงก์นครหลวงไทยเพิ่ง
ก้าวเข้ามาเป็นสมาชิกสยามเน็ต
ปี 2532- แบงก์ศรนคร ได้ย้ายจากลุ่มแบงก์เน็ตของแบงก์กรุงเทพเข้าร่วมสยามเน็ตด้วย
มีการแข่งขันกันมาก จำนวนเครื่องเอทีเอ็ม ของสยามเน็ต 497 เครื่อง ขณะที่แบงก์เน็ต
มี 458 เครื่อง
ปี 2533- บริษัท ศูนย์ประมวลผล จัดตั้งบริการศูนย์แลกเปลี่ยนเช็คระหว่างธนาคารกรุงเทพและกสิกรไทย
( เคลียริ่ง) โดยลงทุนไปประมาณ 265 ล้านบาท ในการสร้างระบบ
ปี 2534- แบงก์กรุงเทพพาณิชย์การ โดดเข้าร่วมสยามเน็ตเป็นขบวนสุดท้าย ทำให้เครือข่ายสยามเน็ตมีแบงก์ทั้งสิ้น
9 แห่งร่วมด้วย
ปี 2535- พลันที่ นโยบายแบงก์ชาติจัดตั้งและพัฒนาระบบการชำระเงินระหว่างแบงก์พาณิชย์(
สวิตชิ่ง เซ็นเตอร์) เพื่อกรุยทาง ไปสู่ "พูลเอทีเอ็มแห่งชาติ"
ออกมา ในวันที่ 19 สิงหาคม 2535 สองแบงก์ยักษ์ใหญ่ แบงก์กรุงเทพ และกสิกรไทย
ก็ประกาศทดลองโยงระบบเอทีเอ็มฝากถอนร่วมกัน ซึ่งจุดชนวนความไม่พอใจให้กับแบงก์ไทยพาณิชย์แห่งกลุ่มสยามเน็ต
และแบงก์กรุงไทยแบงก์เน็ทอย่างมาก ๆ
ปี 2536- กลุ่มเครือข่ายสยามเน็ทและแบงก์เน็ต ร่วมกันเป็น " พูลเอทีเอ็มแห่งชาติ"
( เนชั่นแนลพูล) โดยมีแกนกลางเป็นบริษัทเอทีเอ็ม
ปี 2537- นโยบายแบงก์ชาติเปิดเสรีเอทีเอ็มพูลให้กับแบงก์พาณิชย์ต่างชาติ
ได้สร้างปรากฏการณ์เพิ่มยอดจำนวนเครื่องเอทีเอ็มชนิดก้าวกระโดด จากปีก่อนถึง
31% เพราะแบงก์ยักษ์ใหญ่ต่างยึดหัวหาดสำคัญๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าแบบใกล้ตัวใกล้ใจ