Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์19 กุมภาพันธ์ 2550
อสังหาฯ เมืองท่องเที่ยวสะดุดหวั่นโอเวอร์ซัปพลาย-ต่างชาติแห่ปรับตัว             
 


   
search resources

Real Estate




พรบ.ต่างด้าว-อาคารชุดสกัดดาวรุ่งอสังหาฯ พัทยา หวั่นคอนโด-บ้านเดี่ยวราคาแพงขายไม่ออก ส่อแววล้นตลาด วอนรัฐบาลแก้ไขกฎหมายเอื้อดีมานด์ต่างชาติ ด้านอสังหาฯ ภูเก็ตดีมานด์ยังแข็งแกร่ง ต่างชาติปรับตัวหันซื้อคอนโด และ Lease Hold แทน บริษัทมีผู้ถือหุ้นนอมินีแห่ปรับตัวหาคนไทยร่วมทุน

พัทยา เป็นตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่รองลงมาจากกรุงเทพฯ โดยมีดีมานด์จากการเป็นเมืองท่องเที่ยวและเมืองอุตสาหกรรมที่ประกอบด้วย 3 นิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เข้ามาเป็นตัวผลักให้ตลาดที่อยู่อาศัยเติบโต ชี้ได้จากผลสำรวจซัปพลายที่อยู่อาศัยของเอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ เฉพาะในจังหวัดชลบุรีพบว่ามีการพัฒนาโครงการทั้งหมด 252 โครงการ รวม 31,966 ยูนิต มูลค่ารวม 94,584 ล้านบาท หากพิจารณาเฉพาะเขตพัทยา-บางละมุงพบว่ามีจำนวนถึง 110 โครงการ รวม 13,707 ยูนิต มูลค่ารวม 64,949 ล้านบาท ในจำนวนนี้ขายได้แล้ว 6,913 ยูนิต หรือราว 50% ในขณะที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งในตลาด คือ 6,794 ยูนิต หมายถึง ซัปพลายที่เหลือค้างรอขายอยู่ในตลาด

ผลสำรวจยังพบว่าที่อยู่อาศัยที่มีการพัฒนาสูงสุดในย่านนี้ คือ คอนโดมิเนียม 56% รองลงมา คือ บ้านเดี่ยว 35% เมื่อพิจารณาทั้งประเภทและราคาพบว่า คอนโดมิเนียมราคา 1-2 ล้านบาท มีการพัฒนามากที่สุดเป็นจำนวน 1,998 ยูนิต และบ้านเดี่ยวราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 1,739 ยูนิต ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป็นชาวต่างชาติที่ซื้อเป็นบ้านพักตากอากาศ รวมทั้งนักลงทุนต่างชาติที่ทำธุรกิจในย่านนี้ และคนไทยบางส่วน

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตลาดอสังหาริมทรัพย์พัทยามีการเติบโตอย่างสวนกระแสมาโดยตลอด แม้จะเกิดวิกฤติฟองสบู่แตกเมื่อปี 2540 ที่ทำให้ตลาดรวมอสังหาริมทรัพย์ดิ่งลงถึงจุดต่ำสุด แต่พัทยากลับมีตลาดที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากค่าเงินที่อ่อนตัวลงมากในช่วงนั้น กลายเป็นจังหวะของชาวต่างชาติที่จะได้มาช็อปปิ้งของราคาถูก ประกอบกับการเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และมีการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ จึงยิ่งผลักให้เศรษฐกิจของพัทยาโตอย่างไม่หยุดยั้ง

จนเมื่อธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาประกาศใช้มาตรการสกัดกั้นการเก็งกำไรค่าเงินบาท รวมทั้งการเสนอแก้ไข พรบ.ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจไทยส่วนใหญ่ซึ่งปัจจุบันต้องพึ่งพิงเงินทุนต่างประเทศเป็นหลักได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยลำพังมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ออกมาเพื่อสกัดกั้นนักเก็งกำไรก็ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจเข้ามาลงทุนของกลุ่มทุนต่างชาติทั้งกลุ่มเก่าที่จะเพิ่มทุนหรือกลุ่มใหม่ที่จะขยายธุรกิจเข้ามาในไทยอยู่แล้ว แต่เมื่อมีการแก้ไข พรบ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวออกมา จึงกลายเป็นวิกฤติที่ยิ่งสั่นคลอนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพัทยาอย่างรุนแรงขึ้น เพราะพัทยาเป็นตลาดที่เจาะกลุ่มเป้าหมายชาวต่างชาติมากที่สุด

ผลกระทบอันรุนแรงดังกล่าว ไพศาล บัณฑิตยานนท์ อดีตนายกสมาคมตัวแทนและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท แคท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ดีเวลลอปเปอร์ พัฒนาโครงการในพัทยา แสดงความเป็นห่วงว่าจะทำอย่างไรกับซัปพลายที่อยู่อาศัยปัจจุบันในพัทยาที่ยังเหลือค้างอยู่ในตลาดอีก 50% หรือมูลค่ากว่า 40,000 ล้านบาท เพราะหลังจากเกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เหตุการณ์ระเบิดในกรุงเทพฯ ที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น ก็ทำให้ชาวต่างชาติชะลอการซื้อมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว รวมทั้งการที่รัฐบาลออกมาเข้มงวดเรื่องการใช้นอมินีในการทำธุรกิจ ก็กลายเป็นอุปสรรคทำให้ซัปพลายดูดซับได้ช้าลงอีก เนื่องจากที่ผ่านมามากกว่า 49% ของตลาดเป็นการซื้อโดยใช้นอมินี และคอนโดมิเนียมบางโครงการในพัทยาก็มีลูกค้าเป็นชาวต่างชาติถึง 100% เรียกได้ว่าที่ผ่านมาตลาดพัทยาโตจากดีมานด์ของชาวต่างชาติอย่างแท้จริง

ไพศาล กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่เป็นอุปสรรคต่อการซื้อดังกล่าว หากรัฐบาลไม่แก้ไขกฎหมายจะส่งผลกระทบทำให้บ้านเดี่ยวราคาแพงเกิน 2.5 ล้านบาทขึ้นไป ที่เจาะกลุ่มชาวต่างชาติ และเกินกำลังซื้อคนไทย รวมทั้งคอนโดมิเนียมระดับบนที่ขายชาวต่างชาติครบ 49% แล้วและยังเหลือยูนิตอีก 51% ที่จะต้องขายคนไทยเท่านั้น เข้าสู่ภาวะโอเวอร์ซัปพลายอย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ดีเวลลอปเปอร์ในพัทยาหันมาพัฒนาที่อยู่อาศัยราคาแพงเพื่อขายชาวต่างชาติกันมาก โดยไม่ได้ศึกษาภาวะตลาดเลย จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโอเวอร์ซัปพลายขึ้นได้

ด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต หัวเมืองท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่มีการลงทุนอสังหาริมทรัพย์เจาะกลุ่มชาวต่างชาติเป็นหลัก ก็ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาครัฐเช่นเดี่ยวกัน เดวิด ซี มิสเตอร์ ประธาน ซีบีริชาร์ด เอลลิส ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ลูกค้าชาวต่างชาติมีการชะลอซื้อในระยะสั้น และเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาซื้อคอนโดมิเนียมในโครงการที่ชาวต่างชาติยังซื้อไม่เกิน 49% และซื้อวิลล่าแบบ Lease Hold (สิทธิ์เช่าระยะยาว) แทน ซึ่งเป็นการซื้ออย่างถูกต้องตามกฎหมาย และใช้เงินสดส่วนดีมานด์หลังจากมาตรการบังคับใช้ พบว่ายังอยู่ในเกณฑ์ดี เห็นจากความสนใจของลูกค้าเมื่อไปโรดโชว์ในต่างประเทศ ด้านผู้ซื้อหรือดีเวลลอปเปอร์ที่เข้าข่ายใช้นอมินีในการซื้อหรือลงทุนก็กำลังเร่งหาคนไทยเข้ามาร่วมทุน เพื่อปรับสัดส่วนผู้ถือหุ้นให้ถูกต้อง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us