Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน25 กุมภาพันธ์ 2546
อากู๋ทิ้ง "ฟอร์มี" คืนสหพัฒน์หลังเจอปัญหาเพียบ             
 


   
search resources

จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่, บมจ.
ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์, บมจ.
Instant Food and Noodle




อากู๋ ตัดสินใจขายทิ้งหุ้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ฟอร์-มี (4 me) ให้กลุ่มสหพัฒน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยอมรับพ่ายต่อปัญหาทั้งปวง ประกาศลั่นจะไม่กลับมาทำตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอีกแล้ว ส่วนจำนวนหุ้นส่วนตัวและของศิลปินรวมกัน 60% เป็นหน้าที่ของสหพัฒน์ที่จะนำ ไปจัดสรรกันเอง พร้อมเดินแผนแตกแขนงธุรกิจอีก 4-5 โครงการ ด้วยเงินลงทุน 1,000 ล้านบาท

วานนี้ (24 ก.พ.) นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท 4 พีเพิล ฟูดส์ จำกัด เจ้าของบะหมี่กึ่งสำเร็จ รูป ฟอร์ มี (4 me) เปิดเผยว่าได้ตัดสินใจขายหุ้นในส่วนของตนเองจำนวน 40% และของกลุ่มศิลปินในเครือแกรมมี่ และดารา ที่เข้ามาร่วมถือหุ้นอีก 20% รวมเป็น 60%ให้แก่กลุ่ม สหพัฒน์ ซึ่งจะมีการจ่ายเงินค่าหุ้นสิ้นเดือนก.พ.นี้

"ผมได้หารือกับคุณพิพัฒ พะเนียงเวทย์ (กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หลังจากที่เราได้หารือเรื่องการหาตัวแทนจัดจำหน่ายและเอเยนซี่ตัวแทนโฆษณาแล้ว ซึ่งทางคุณพิพัฒ อยากให้ผมขายหุ้นให้ไทยเพรซิเดนท์ ฟูดส์ ผมก็โอเคไม่มีปัญหาอะไรเพื่อความสบายใจก็ตกลงจะขายและโอนหุ้นให้ในสิ้นเดือนก.พ.นี้ เพราะถ้าทำแล้วไม่สบายใจผม ก็ไม่อยากทำ" นายไพบูลย์กล่าว

สำหรับมูลค่าหุ้นที่กลุ่มสหพัฒน์ จะต้องจ่ายให้แก่นายไพบูลย์ และกลุ่มศิลปินนั้น คิดจาก ทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท แต่ว่าได้เรียกชำระเพียง 25% ของทุนจดทะเบียน ซึ่งคิดเป็นเงิน 50 ล้านบาท ซึ่งจำนวนหุ้น 60% ของทุนที่เรยกชำระแล้วคิดเป็นเงิน 30 ล้านบาท ซึ่งทางกลุ่มสหพัฒน์จะจ่ายให้เต็มจำนวน โดยหุ้นในส่วนดังกล่าว นาย ไพบูลย์ กล่าวว่าเป็นเรื่องของกลุ่มสหพัฒน์ที่จะต้องไปจัดสรรกันเอง โดยกลุ่มสหพัฒน์ที่ร่วมถือหุ้น อยู่ใน บริษัท 4 พีเพิล ฟูดส์ จำกัด ประกอบด้วย บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด ในสัดส่วนที่เท่ากัน สำหรับบริษัท 4 พีเพิล ฟูดส์ จำกัด พร้อมพนักงาน 6 คน ก็จะย้ายไปอยู่กับ ไทยเพรซิเดนท์ ฟูดส์

"ที่ผ่านมามันเหมือนฝัน เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าถามว่าผมซีเรียสไหม ไม่เลยเพราะผมทำบะหมี่เป็นเพียงอาชีพเสริม ทำด้วยความสนุก ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรแค่เพียงอยากลองดู อยาก ขยายธุรกิจของตัวเองออกไป แต่ไม่ซีเรียสว่าจะต้อง ได้หรือต้องเสีย เพราะผมจำกัดเงินทุนไว้จำนวนหนึ่ง ไม่ได้ทุ่มมาก" คำกล่าวของนายไพบูลย์ ที่เหมือนจะไม่รู้สึกอะไรกับการขายทิ้งธุรกิจส่วนตัวในครั้งนี้ ทั้งที่เมื่อเริ่มก่อตั้งนายไพบูลย์ มีความหวังกับธุรกิจนี้มาก

สำหรับเหตุผลสำคัญที่ทำให้นายไพบูลย์ตัดสินใจขายหุ้นในครั้งนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปลายปี 2545 การประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท 4 พีเพิล ฟูดส์ จำกัด ซึ่งมีนายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์เข้าร่วมประชุมด้วย ก็ได้เจรจาเพื่อขอซื้อหุ้นจากนายไพบูลย์ แต่ในครั้งนั้นนายไพบูลย์ได้ออกมาแถลงข่าวว่า ยังอยากจะทำต่อ ไป เพราะมองแล้วว่าปัญหาคือเรื่องการโฆษณาและการจัดจำหน่าย ที่มีมติว่าจะหาบริษัทจัดจำหน่ายมืออาชีพ และบริษัทตัวแทนโฆษณา ซึ่งก็คือ เอสซี แมทช์บอกซ์ เข้ามาดำเนินการ

โดยนายไพบูลย์ให้เหตุว่า ธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นธุรกิจที่แข่งขันกันรุนแรงมาก ด้วยมูลค่าตลาดเกือบหมื่นล้านบาท ทำให้แต่ละค่ายต่างใช้เม็ดเงินโฆษณาจำนวนมาก ในขณะที่การเริ่มตลาดของบะหมี่ฟอร์ มี ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ใช้งบโฆษณาน้อย จึงทำให้ไม่อาจทานกระแสของการแข่งขันได้ นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องของความ ไม่พร้อม เช่น ทีมงานในการจัดจำหน่ายที่ไม่ชำนาญ ไม่มีโฆษณาอย่างต่อเนื่อง และอุปสรรคที่สำคัญอีก ประการก็คือ เรื่องของการเกรงอกเกรงใจซึ่งกันและกัน

"ด้วยความเคารพกลุ่มในเครือสหพัฒน์ ในฐานะที่ผมเคยเป็นลูกจ้างของสหพัฒน์มาก่อน ซึ่งผมพิจารณาแล้วเห็นว่ากลุ่มสหพัฒน์อาจคุ้นเคยกับการทำเองมากกว่า อย่างคุณพิพัฒ เป็นฝ่ายโรงงานเขาอาจมองเห็นกลยุทธ์ ที่ถ้าเป็นอย่างนั้น หรือเป็นอย่างนี้น่าจะดีกว่า ซึ่งเราอาจคิดไม่ได้แบบ เขา" นายไพบูลย์กล่าว

สำหรับการจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปฟอร์มี ในขณะนี้ก็ยังดำเนินต่อไป โดยแต่งตั้งให้ดีทแฮล์ม เป็นผู้จัดจำหน่าย และได้ทำโปรโมชั่นแลกซื้อซีดีของ แกรมมี่ในราคาพิเศษ รวมทั้งมีการลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ด้วย
ลงทุนโครงการใหม่อีก 1,000 ล้านบาท

แม้ว่าการขายทิ้งธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปฟอร์มีจะปิดฉากลง แต่นายไพบูลย์ กล่าวว่าเขายังมีโครงการลงทุนเพื่อสร้างขาหยั่งให้แก่ธุรกิจอีก 4-5 โครงการ ใช้เงินลงทุนรวม 1,000 ล้านบาท ประกอบด้วย ธุรกิจเครื่องสำอาง ทั้งในระบบขายตรง ที่ได้เปิดตัวไปแล้ว คือ ยู สตาร์ และกำลังจะเจรจาร่วมทุนกับนักลงทุนรายใหม่เพื่อเปิดตลาด เครื่องสำอางแบรนด์ใหม่ ในลักษณะของสินค้าคอนซูเมอร์ , ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งเร็วๆนี้อาจมีข่าวการร่วมทุนเพื่อดำเนินธุรกิจเครื่องดื่ม ในลักษณะเช่นเดียวกับฟอร์ มี , ธุรกิจเสื้อผ้า และ ธุรกิจเมอชั่นไดซ์ ซึ่งเป็นการนำลิขสิทธิ์ศิลปินของค่ายแกรมมี่ มาสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยแกรมมี่จะเป็น เจ้าของลิขสิทธิ์ แล้วเปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้ามาร่วม ทุนเพื่อบริหารลิขสิทธิ์ของแกรมมี่

สำหรับมุมมองในการขยายธุรกิจของนายไพบูลย์นั้น มีแนวทางในการพิจารณา 3 ประการ คือ 1. ต้องเป็นงานหรืออาชีพที่ตนเองมีความรู้และความถนัด 2. แนวทางของสินค้าต้องเป็นสินค้าที่ดีต่อสังคม มีอนาคต และมีขนาดตลาดที่ใหญ่พอที่จะเข้าไปทำตลาดได้ เนื่องจากศักยภาพของแกรมมี่ มีความชำนาญด้านการทำสินค้า mass product ที่ต้องอาศัยสื่อที่เป็น mass media ซึ่งต้องการธุรกิจที่ต้องใช้การโฆษณาเพื่อการแข่งขัน

3. ต้องเป็นธุรกิจที่ลงทุนไม่มาก เช่น ใช้เงินลงทุน 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นขนาดที่นายไพบูลย์ใช้อยู่ในขณะนี้ และต้องได้รับสิทธิ์ในการบริหารงานทั้งหมด ด้านการคัดเลือกพันธมิตรทางธุรกิจหรือผู้ร่วมงานนั้น ในส่วนของพันธมิตรทางธุรกิจ จะเลือกกลุ่มที่มีศักยภาพที่จะเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจได้อย่างชัดเจน เช่น โรงงานผู้ผลิตสินค้า เป็น ต้น ส่วนผู้ร่วมงานจะคัดเลือกระดับมืออาชีพเข้ามา บริหารงานเท่านั้น เพื่อต้องการให้การสร้างหรือขยายธุรกิจเป็นไปอย่างเร็วที่สุด

"นโยบายของผมต้องการสร้างขาหยั่งอันใหม่ เพื่อให้ตัวเองมั่นคงแข็งแรงยิ่งขึ้น" นายไพบูลย์กล่าวทิ้งท้าย

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us