แกรมมี่เตรียมนำบริษัทย่อยอีก 2 บริษัทเข้าตลาด หลักทรัพย์ เพื่อสยายปีกกลุ่ม
ให้บริษัทเหล่านั้นทำธุรกิจอิสระเต็มที่ ขณะที่ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ยันหนุนทุกบริษัทในเครือจ่ายเงินปันผล
ตราบใดที่ดอกเบี้ยยังต่ำติดดินเช่นปัจจุบันเพราะตนและพรรคพวกเป็น ผู้ถือหุ้นใหญ่
ที่จะได้ประโยชน์เต็มที่จากนโยบายนี้ แถมเน้นกู้เงินขยายธุรกิจในเครือ แทนระดมทุนในตลาดหุ้น
นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน)
เปิดเผยว่า บริษัทมีนโยบายจะผลักดันบริษัทย่อยแยกตัวเป็นอิสระ และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ต่อเนื่อง หลังจากปีที่ผ่านมา แกรมมี่รวมบริษัทด้าน สื่อทั้งหมด จดทะเบียนในตลาด
หลักทรัพย์ ภายใต้บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย ไปแล้ว
บริษัทย่อยที่มีแนวโน้มจะแยกตัวจดทะเบียนเร็วๆนี้ 2 บริษัท คือจีเอ็มเอ็ม พิคเจอร์
และอีโอ ทูเดย์ ดอท คอม
คุณสมบัติบริษัทย่อยที่จะแยกตัวออกจดทะเบียนได้ต้องมีฐานธุรกิจแข็งแกร่งพอ และไม่พึ่งความช่วยเหลือบริษัทแม่มากเกินไป
ที่กำหนดไว้ คือบริษัทย่อยที่จะแยกตัวออก ต้องมีรายได้จากบริษัทแม่ต่ำกว่า 50%
ของรายได้รวมของบริษัท คือบริษัทย่อยแห่งนั้น ต้องไม่เป็นบริษัทที่แกรมมี่เป็นลูกค้ารายใหญ่
สิ่งที่แกรมมี่ทำตอนนี้ เป็นไปตามแนวทาง ที่วางไว้ตั้งแต่แรก ว่าหากบริษัทย่อยแห่งไหน
มีโอกาสโต ก็ต้องสนับสนุนให้โต เพื่อสร้างผลตอบแทนสูงขึ้น อย่างจีเอ็มเอ็ม มีเดีย
พอแยกออกจากแกรมมี่ ก็มีภาพลักษณ์อิสระและชัดเจน กว่าเดิมจะจับมือทำธุรกิจกับใครก็ได้ทั้งนี้
"วัดกันง่ายๆ ยอดโฆษณาที่เข้ามาสื่อต่างๆ ของจีเอ็มเอ็ม มีเดีย ตอนนี้แทบเต็มหมดทุกสื่อ
นอกจากจะเป็นผลดีมีเดียเอง แกรมมี่ก็ได้ประโยชน์ เพราะเมื่อคนอื่นซื้อโฆษณาจนเต็ม
แกรมมี่ก็ไม่ต้องใส่เงินเข้าไปซื้อโฆษณาเยอะๆ เหมือนแต่ก่อน ทำให้ผลดำเนินงานแกรมมี่ดีขึ้นด้วย"
ส่วนนโยบายจ่ายเงินปันผลจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ที่เกิดความสับสนช่วงที่ผ่านมา นาย
ไพบูลย์ กล่าวว่าหากย้อนกลับอดีต บริษัทกำหนดนโยบายจ่ายเงินปันผลประมาณ 40% ของกำไรสุทธิ
เวลาจ่ายจริงจะประมาณ 60% ของ กำไรสุทธิ แต่ขณะนี้ บริษัทมีเงินสดในมือกว่า 1,000
ล้านบาท ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร
ขณะเดียวกัน ถ้าบริษัทจำเป็นต้องใช้เงินทุนขยายธุรกิจจริงๆ จะกู้เงินสถาบันการเงินมาก
กว่า เพราะดอกเบี้ยปัจจุบันต่ำมาก ทำให้บริษัทไม่จำเป็นถือเงินสดไว้จึงเห็นควรว่ากำไรแต่ละปี
ควรจ่ายเป็นเงินปันผลตอบแทนผู้ถือหุ้นให้หมด ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นตนเอง และพรรคพวก
นโยบายจ่ายเงินปันผลจากำไรสุทธิทั้งหมด นายไพบูลย์กล่าวว่า ยังรวมถึงบริษัทลูกอย่าง
จีเอ็มเอ็ม มีเดีย เพราะมีเดียมีเงินสดในมือถึง 1,320 ล้านบาท ถ้าต้องการขยายการลงทุน
จะเลือกกู้เงินสถาบันการเงินอันดับแรกเช่นกัน กำไรสุทธิที่มีเดียทำได้ปีที่ผ่านมา
จะจ่ายปันผลทั้งจำนวนเหมือนบริษัทแม่
นโยบายจ่ายปันผลลักษณะดังกล่าว เขายืนยันว่า จะใช้เรื่อยไปจนกว่าดอกเบี้ยระบบสถาบันการเงินในไทยจะเพิ่มขึ้นจนส่งผลกระทบต้นทุนบริษัท