"สามารถ" เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งรอบด้าน เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายความเป็น ผู้นำสายธุรกิจเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูล วางตัว 3 ผู้บริหารใหม่ขับเคลื่อนงานสำคัญ กุมงานวางแผนกำหนดกลยุทธ์ระดับนโยบาย ศึกษาการลงทุน พัฒนาธุรกิจใหม่ วางแผนตลาดเชิงกลยุทธ์ มุ่งเน้นนำเสนอสินค้าและบริการในรูปแบบโทเทิ่ลบิสซิเนสโซลูชั่น สนองความต้องการลูกค้าทั้งรายบุคคลและองค์กร ทำรายได้ตามเป้า 12,000 ล้านบาท ในปีนี้

นายธวัชชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่าเป้าหมายของบริษัทในปีนี้ต้องการก้าวไปสู่ความเป็นผู้นำในสายธุรกิจเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูล หรือ InfoCom เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ทั้งด้านการดำเนินชีวิตและการบริหารธุรกิจ ที่ผ่านมาได้มีการปรับเปลี่ยนธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องแนวทางธุรกิจใหม่

ในการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มีทั้งการจัดโครง สร้างการบริหารองค์กรให้มีความชัดเจนขึ้น มีการกำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจใหม่ การแบ่งกลุ่มธุรกิจหลักโดยแยกตามประเภทกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจภาครัฐ (Government Solutions) กลุ่ม ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม (Communication Services) และกลุ่มธุรกิจข้อมูลข่าวสารและมัลติมีเดีย (M-Info Service) นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม Related Business ที่จะดูแลธุรกิจต่างประเทศและท้องถิ่นเป็นหลัก

นายธวัชชัย กล่าวว่าโครงสร้างการบริหารภายในของสามารถ จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งโครงสร้างการบริหารจัดการออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือส่วนบนจะเน้นการวางแผนและกำหนดกลยุทธ์ รวมทั้งนโยบายแม่บท พร้อมให้คำปรึกษา การสนับสนุน และการดูแลผลการทำงานของกลุ่ม ธุรกิจต่างๆ ซึ่งจะรับผิดชอบโดยตรงต่อเป้าหมายทางธุรกิจที่ตั้งไว้ การจัดโครงการองค์กรที่ชัดเจนนี้จะช่วยเกิดความคล่องตัวและความชัดเจนในการบริหารงานและสามารถช่วยผลักดันส่วนล่างที่เป็นทัพหน้าที่ดูแลกลุ่มธุรกิจต่างๆ ที่ได้จัดแบ่งไว้ตามกลุ่มเป้าหมายอย่างได้ผล

"เส้นทางการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มสามารถเกิดจากความพร้อมทางด้านระบบเครือข่ายและเทคโนโลยีการสื่อสาร ประกอบกับการที่เราเป็นผู้นำในการพัฒนาข้อมูลหรือคอนเทนต์ จึงมั่นใจว่าปัจจัยทั้ง 2 จะผลักดันให้ก้าวสู่ความเป็นผู้นำใน ธุรกิจ InfoCom ได้ อย่างสมบูรณ์ ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของสามารถ จะต้องมีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดอย่าง เด่นชัด"

ทั้งนี้ ในการรุกตลาด InfoCom อย่างจริงจัง กลุ่มสามารถจะต้องพร้อมในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะหลังจากการปรับเปลี่ยนแนวทางธุรกิจและปรับโครงสร้างองค์กร การเสริมสร้างทีมงานมืออาชีพทั้งในระดับบริหารและระดับปฏิบัติการ การพัฒนาบุคลากรจึงเป็นสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญสูงสุดนำไปสู่การดึงผู้บริหารที่มีประสบการณ์จากหลากหลายที่มาช่วยผลักดันธุรกิจของกลุ่มสามารถ

สำหรับผู้บริหารใหม่ที่จะเข้ามาเสริมทัพ ของกลุ่มสามารถนี้ผ่านประสบการณ์การทำงาน ในสายงานมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็น นายไพโรจน์ วโรภาษ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญทางด้านการบริหาร การเงินและการลงทุน จะเข้าดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท สามารถ คอร์ปอ-เรชั่น จำกัด(มหาชน) นายปีเตอร์ กัน ผู้บริหาร ไฟแรงที่คร่ำหวอดในแวดวงการตลาดมากว่า 20 ปี และผ่านงานกับบริษัทโซนี่มิวสิคไม่ต่ำกว่า 16 ปี เข้ามาทำหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการด้านการตลาด บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) และนายประสิทธิ์ชัย วีระยุทธวิไล ซึ่งผ่านประสบการณ์ในด้านเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลมานานกว่า 19 ปี จะเข้ามาดูแลทำงานในตำแหน่งรองประธานกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สามารถ เทลคอม จำกัด

ในด้านภารกิจสำหรับผู้บริหารที่เข้ามาเสริมทัพสามารถในครั้งนี้ ในส่วนของนายไพโรจน์ ในฐานะรองประธานกรรมการบริหารงานที่ดูแลจะเกี่ยวข้องกับการวางแผนและกำหนดกลยุทธ์ในระดับนโยบาย โดยเน้นทางด้านการลงทุนและการศึกษาแนวทางในการพัฒนาธุรกิจใหม่เป็นหลัก ถือเป็นงานที่ท้ายเพราะการสื่อสารเป็นธุรกิจที่รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนทั่วโลก และมีความเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

ส่วนนายปีเตอร์ กัน บทบาทในฐานะกรรมการผู้อำนวยการด้านการตลาด ได้รับมอบหมายงานที่ตรงกับความถนัดและประสบการณ์ที่สั่งสมมาก จะทำหน้าที่ในการศึกษาและกำหนดทิศทางการตลาดเชิงกลยุทธ์ โดยเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่แปลกใหม่และตรงใจผู้ใช้บริการ ทั้งรายบุคคลและรายองค์กร โดยการสร้างข้อมูลหรือคอนเทนท์ที่น่าใจ และพัฒนาช่องทางในการนำเสนอข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ที่ถือเป็นการผนวกศาสตร์คือเทคโนโลยีสื่อสาร และศิลป์คือการพัฒนาข้อมูลให้ตรงใจผู้บริโภคเข้าไว้ด้วยกัน ที่ผ่านมานายปีเตอร์ กัน ถือเป็นคนหนึ่งที่ชอบคิดนอกกรอบเพื่อแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ จึงน่าที่จะมีส่วนผสมที่ลงตัวในการมาร่วมงานกับทีมสามารถได้เป็นอย่างดี

ด้านนายประสิทธิ์ชัย วีระยุทธวิไล ในตำแหน่งรองประธานกรรมการผู้อำนวย บริษัท สามารถ เทลคอม จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นธุรกิจที่ถูกจัดอยู่ในทัพหน้าของกลุ่มสามารถ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม (Communication Services) จะเข้ามาช่วยยกระดับการแข่งขันให้กลุ่ม สามารถแข่งขันได้ระดับโลก ซึ่งจากประสบการณ์ในสายงานเทคโนโลยีอี-บิสซิเนส และอินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี โดยตรงและการที่ได้สัมผัสลูกค้ารายองค์กรธุรกิจที่หลากหลาย จะสามารถชี้แนวทางในการพัฒนาบิสซิเนสโซลูชั่นที่สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละองค์กรได้อย่างเฉพาะเจาะจง อีกทั้งการบริหารงานในรูปแบบทีมเวิร์ก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการรองรับและให้บริการลูกค้าได้เป็นอย่างดี

"กลุ่มธุรกิจของสามารถจะมุ่งเน้นการนำ เสนอสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มในรูปแบบของโทเทิ่ลบิสซิเนสโซลูชั่นที่ครบเครื่อง และต้อง ตอบโจทย์ทางธุรกิจให้ตรงความต้องการของ ผู้บริโภคทั้งรายบุคคลและรายองค์กรให้ได้มากที่สุด ความแข็งแกร่งทางธุรกิจเกิดขึ้นจะช่วยให้สามารถทำรายได้ได้ตามเป้าหมาย 12,000 ในสิ้นปีนี้"