|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แพรนด้าฯ ตั้งเป้าจับมือพันธมิตรบุกตลาดที่อินเดียภายในปี 50 ชี้อินเดียเป็นตลาดใหญ่และมีการบริโภคอัญมณีและเครื่องประดับสูง คาดสิ้นปีนี้โกยรายได้เติบโตขึ้น 10% แตะ 4 พันล้านบาท
นางสุนันทา เตียสุวรรณ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายเครื่องประดับอัญมณีประมาณ 4,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบจากปีก่อนที่มียอดขายในรูปเงินสกุลบาท 18% หรืออยู่ที่ประมาณ 3,800 กว่าล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ มีการขยายตลาดส่งออกรวมทั้งรักษาตลาดฐานลูกค้าเก่าไว้ ทั้งสหรัฐฯ อังกฤษ เยอรมัน ยุโรปตะวันออกและประเทศแถบเอเชีย
ซึ่งปีนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะบุกตลาดในประเทศอินเดีย โดยจะหาพันธมิตรร่วมทุนเพื่อใช้เป็นฐานการจัดจำหน่ายที่อินเดียเช่นเดียวกับที่บริษัทฯ ได้ร่วมทุนใน Pranda&Kroll Gmbh&Co.KG.เพื่อทำการตลาดทั้งในเยอรมันและยุโรปตะวันออก เนื่องจากปัจจุบันอินเดียเป็นประเทศขนาดใหญ่ และมีการบริโภคอัญมณีและเครื่องประดับจำนวนมาก ขณะที่สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยมีความได้เปรียบคู่แข่งด้านฝีมือแรงงาน
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในอินเดียดังกล่าวนี้ บริษัทฯ ไม่มีแผนที่จะสร้างโรงงานผลิตอัญมณีและเครื่องประดับ เพราะไม่เห็นความจำเป็นเนื่องจากไทยมีการลงนามสัญญาเอฟทีเอไทย-อินเดีย ทำให้สามารถส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับเข้าไปจำหน่ายในอินเดียโดยไม่เสียภาษี ซึ่งปัจจุบันแพรนด้าฯ มีโรงงานผลิตเครื่องประดับอยู่ที่ไทย จีน อินโดนีเซียและเวียดนาม
ในปีที่ผ่านมา อัญมณีแท้ที่มีราคาสูงตลาดส่งออกจะลดลง แต่ยอดขายแพรนด้าฯไม่ลดลง เนื่องจากบริษัทผลิตเป็นจำนวนมาก และราคาไม่สูง ซึ่งตลาดยังมีกำลังซื้อดีอยู่ ผนวกกับได้มีการขยายตลาดเพิ่มเติมในต่างประเทศทั้งยุโรปตะวันออก และจีน
สำหรับภาพรวมตลาดเครื่องประดับตลอดปี 2549 ที่ผ่านมา ไทยส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับคิดเป็นมูลค่า 3644 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตจากปีก่อน 12.73 % และมีมูลค่าการส่งออกเป็นอันดับ 6 ของการส่งออกไทย เป็นที่น่าสังเกตว่าตลาดส่งออกไปยังตลาดหลักทั้งสหรัฐฯ ฮ่องกง อิสราเอล ญี่ปุ่น และเบลเยี่ยม มีอัตราการขยายตัวลดลง อาทิ ส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่า 925.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 3.23% ฮ่องกง 369.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 1% อิสราเอล 334.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง6.18% ขณะที่การส่งออกไปออสเตรเลีย 286.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 415% เป็นผลมาจากการทำสัญญาเอฟทีเอไทย-ออสเตรเลีย และตลาดสหราชอาณาจักร 209 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 33.42% และสวิสเซอร์แลนด์ 208 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตขึ้น 73.13% เป็นต้น
ในปี 2549 ไทยมีการส่งออกสินค้าในรายการเครื่องประดับแท้ คิดเป็นมูลค่า 1718 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตขึ้น 1.6% ขณะที่ยอดการส่งออกเครื่องประดับอัญมณีเทียม มีมูลค่าส่งออก 160 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตขึ้น 33.67% โดยยอดส่งออกเครื่องประดับแท้ไปยังตลาดสหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นตลาดหลักที่มีมูลค่ารวมสูงที่สุด คือ 754.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 7 % ขณะที่ตลาดสหราชอาณาจักร มีมูลค่า 197 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตขึ้น 36% เยอรมัน 95 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 6.75% ออสเตรเลีย 51 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 32%
|
|
|
|
|