|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
สยามพิวรรธน์อัดงบตลาดปีนี้ 200 ล้าน ปลุกกิจกรรมทั้งปี หวังกระตุ้นการจับจ่าย แยกการทำตลาดออกจากกันระหว่าง สยามเซ็นเตอร์และสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ มั่นใจคนเดินเข้าศูนย์เพิ่ม 20% เผยไฮไลท์กิจกรรมใหญ่ ดึง ดาราดังเกาหลี “คิมเรวอน” มาร่วมกิจกรรม
นางชฎาทิพย์ จูตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์และสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะพัฒนาโครงการใหม่อีก 1 แห่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาทางด้านที่ดินประมาณ 2-3 แห่งใจกลางเมือง ส่วนรายละเอียดนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ก็จะเป็นการพัฒนาในสิ่งที่บริษัทฯ ไม่เคยทำมาก่อน
อย่างไรก็ตามคงต้องใช้ระยะเวลาอีกนาน เนื่องจากการเจรจานั้นบางครั้งก็สามารถตกลงได้ บางครั้งก็ไม่สามารถตกลงได้ ส่วนพื้นที่บริเวณโครงการสวนลุมไนท์บาซ่าร์เดิมนั้น บริษัทฯ ไม่ได้สนใจแล้ว ส่วนโครงการเก่าที่เปิดดำเนินการอยู่นั้น ในส่วนของสยามเซ็นเตอร์ ได้รีโนเวทเสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์นั้น ในปีนี้ก็อยู่ระหว่างการรีโนเวทคาดว่าจะเสร็จปลายปีนี้ทั้งหมด ทั้งสองศูนย์ฯ นี้มีผู้เช่าร้านค้าเต็มหมดแล้ว ขณะเดียวกันก็มีรายชื่อร้านค้าที่รออยู่อีกหลายรายด้วย
ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งงบประมาณการตลาดไว้ประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมการตลาดทั้งปีของศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์และศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นงบประมาณที่มากกว่าปีที่แล้วที่ใช้ประมาณ 150 ล้านบาท โดยปีนี้จะมีการแยกทำตลาดของทั้งสองศูนย์ฯ ออกจากกันอย่างชัดเจน แต่จะมีบางกิจกรรมเน้นที่จัดทำร่วมกัน
เนื่องจากศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์จะจับกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นถึงวัยทำงานอายุ 12-28 ปี ส่วนสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์จะจับกลุ่มเป้าหมายคนทำงานอินเทรนด์และกลุ่มครอบครัวที่มีกำลังซื้อ โดยกิจกรรมที่จัดนั้นจะมี 3 ประเภทหลักๆ คือ 1.กิจกรรมอีเว้นท์ ใช้งบประมาณ 40% จากทั้งหมด ซึ่งปีนี้จะมีรวมมากกว่า 250 อีเว้นท์ จะเป็นในลักษณะเชิงลึกสำหรับลูกค้าเฉพาะกลุ่มและอีเว้นท์เชิงกว้างเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่
2.กิจกรรมโปรโมชัน ลดราคาสินค้า ใช้งบประมาณ 40% จากทั้งหมด ซึ่งจะทำเป็นเซลล์แบ่งกลุ่มสินค้า เช่นที่ผ่านมาทำการลดราคาสินค้ากลุ่มแฟชั่น ต่อไปอาจจะเป็นกลุ่มเครื่องสำอาง กีฬา ของแต่งบ้าน เป็นต้น และ 3.กิจกรรมแบบซีอาร์เอ็ม ใช้งบประมาณ 20% จากทั้งหมด ซึ่งจะมีการทำซีอาร์เอ็มแยกกลุ่มเป้าหมายทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ เช่น กิจกรรมร่วมทำกิจกรรมกับดาราเกาหลีชื่อดัง คิมเรวอน จากละครเรื่องกฎหมายรักฉบับฮาร์วาร์ด
ทั้งนี้คาดว่าการจัดกิจกรรมทั้งปี จะสามารถเพิ่มฐานลูกค้าเข้ามาเดินในศูนย์ฯ ทั้งสองแห่งได้ประมาณ 20% จากปัจจุบันที่มีคนเดินเข้าศูนย์สยามเซ็นเตอร์ประมาณ 1- 1.2 แสนคนโดยเฉลี่ยต่อสัปดาห์ และศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ ประมาณ 7.5-8 หมื่นคนโดยเฉลี่ยต่อสัปดาห์ โดยแบ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 30-35%
อย่างไรก็ตามในช่วงต้นปีหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ระเบิดในกรุงเทพฯหลายจุดนั้น ส่งผลกระทบต่อยอดลูกค้าที่เดินเข้าศูนย์น้อยลงเหมือนกันในช่วงสองสัปดาห์แรก แต่หลังจากนั้นก็เข้าสู่ภาวะปรกติ เนื่องมาจากบริษัทฯได้สร้างความมั่นใจให้กับร้านค้าในศูนย์ฯและผู้ที่มาเดินศูนย์ฯในเรื่องของความปลอดภัยเต็มที่
“ปัจจัยลบจากนี้ คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรมาก แต่เราอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว คงต้องให้เวลากับรัฐบาลใหม่ชุดนี้ในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองและเศรษฐกิจ ส่วนเราในฐานะที่เป็นศูนย์กลางของความสนุกสนาน แฟชั่น บันเทิง ก็ต้องจัดกิจกรรมและหากลยุทธ์ในการกระตุ้นอารมณ์จับจ่ายชอปปิ้งของผู้บริโภคตลอดเวลา” นางชฎาทิพย์กล่าว
ในปีนี้บริษัทฯ มั่นใจว่าผลประกอบการจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 10% ซึ่งส่วนใหญ่จะเติบโตมาจากรายได้พื้นที่ให้เช่ากิจกรรมและพื้นที่โฆษณา ซึ่งคิดสัดส่วน 15% จากรายได้รวม ขณะที่รายได้ค่าเช่านั้นจะทรงตัวจากราคาค่าเช่าที่ตั้งไว้
เปิดสื่อรักวาเลนไทน์
นายสมชาย ชีวสุทธานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แม็ทชิ่งสตูดิโอ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯได้ทุ่มงบลงทุนกว่า 120 บาท ในการติดตั้งฮาร์ดแวร์ทั้งสยามเซ็นเตอร์และสยามดิสคัฟเวอรี่ ล่าสุดบริษัทฯได้เปิดตัวโครงการ Live Media สื่อรักในศูนย์การค้าแห่งแรกของไทย ซึ่งเปิดตัวในวันวาเลนไทน์ปีนี้ โดยเป็นสื่อที่ผู้บริโภคสามารถส่งข้อความไปยังหมายเลข 4554595 ส่งข้อความละ 4 บาทผ่านสื่อไฮเทค ชีสมีเดีย ซึ่งเป็นอินเทอร์แอคทีฟทีวี ซึ่งข้อความจะไปปรากฏบนจอแอลอีดี คาดว่าหลังจากที่เปิดตัวโครงการนี้แล้ว จะได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นอินเทรนด์อย่างมาก คาดว่าจะมีการส่งข้อความประมาณ 50,000 ข้อความ ในวันเสาร์-อาทิตย์ และ 15,000 ข้อความในวันธรรมดา และจะมีจำนวนการส่งเอสเอ็มเอสเพิ่มขึ้น 20% ต่อวัน
|
|
|
|
|