หม่อม “เต่า” อดีตผู้ว่าแบงก์ชาติฯ จับธุรกิจร้านอาหารในนามร่วมทุน บริษัท ฟีนิกซ์ โฟร์ ติดลมบน แผนปีนี้ทุ่มงบ 100 ล้านบาท ขยายร้านอาหารออเรนเจอรี่ 2 แห่ง พร้อมปั้น 2 แบรนด์ใหม่แจ้งเกิด พร้อมสยายปีกธุรกิจนำเข้าแฟชั่น เตือนนักลงทุนระวังปัญหาการเงิน เผยท่าทีการเมืองเวลานี้ไม่คิดว่าจะไม่เล่น เมื่อมันยังมาไม่ถึงตัว
ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และหนึ่งในผู้ถือหุ้นบริษัท ฟีนิกซ์ โฟร์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารออเรนเจอรี่ เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ มีแผนใช้งบลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อขยายร้านอาหารออเรนเจอรี่เพิ่ม 2 สาขา แบ่งเป็นงบ 20 ล้านบาท เปิดสาขาใหม่ที่ สยามฟิวเจอร์ ดิอะเวนิว พัทยา ในกลางปีนี้ภายใต้ชื่อ “ออเรนเจอรี่ บายเดอะซี” บนพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร และเลมอน เชอร์รี่ คาเฟ่ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ ใช้งบลงทุน 10 ล้านบาท บนพื้นที่ 100 ตารางเมตร จะเปิดในอีก 2 เดือนข้างหน้านี้ เจาะกลุ่มเป้าหมายใกล้เคียงกับสาขาแรกที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน
อีกทั้งยังมีแผนเปิดตัวร้านอาหารใหม่เพิ่มอีก 2 แบรนด์ ในสิ้นปีนี้ ภายใต้งบลงทุน 40-50 ล้านบาท ในรูปแบบสแตนอะโลนเอเชี่ยนสไตล์และยุโรปสไตล์ ทั้งนี้การขยายร้านอาหารเพิ่ม ก็เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับร้านอาหารของบริษัทฯ
นอกจากนั้นในปีนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนขยายธุรกิจด้วยการนำเข้าสินค้าแฟชั่นแบรนด์ดังจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่าย จากเดิมที่ก่อนหน้านี้บริษัทฯ เป็นตัวแทนจำหน่ายเสื้อผ้าแบรนด์ลาอูและลาเซนซา
ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่า รูปแบบดำเนินธุรกิจจะเน้นที่ตลาดที่ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดทำ เพื่อสร้างความแตกต่างจากธุรกิจที่มีอยู่ในตลาด อย่างร้านอาหารออเรนเจอรี่ ที่เปิดตัวศูนย์การค้าสยามพารากอน ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เป็นร้านอาหารที่รวม
ร้านอาหารชื่อดัง 8 แห่ง 8 สไตล์ อาทิ ร้านอาหารบลู เอเลเฟ่น, ซีดาร์, ชีน ชีน และจุสโต้ มาไว้ในที่แห่งเดียวกัน ซึ่งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แต่ในต้นปีที่ผ่านมาหลังจากเกิดเหตุการณ์วางระเบิด ส่งผลกระทบให้ยอดขายลดลง โดยลูกค้าต่างประเทศเหลือ 70% และภายในประเทศ 30% ทำให้ตั้งเป้าว่าจะมีรายได้คุ้มทุนในกลางปีนี้
ล่าสุดบริษัทฯ ได้จัดออเรนเจอรี่ คลับ เพื่อมอบส่วนลดให้กับลูกค้าที่เข้ามารับประทานอาหารในร้าน 15% อีกทั้งได้จับมือร่วมกับสถานบริการแนวไลฟ์สไตล์หลายแห่งให้กับสมาชิกผู้ถือบัตร โดยมีตั้งแต่ร้านค้าสตูดิโอแต่งเล็บไปจนถึงร้านเครื่องเพชรชั้นนำ ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นยอดขาย
เตือนนักลงทุนระวังปัญหาการเงิน
ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่า ขณะนี้ภาวะเศรษฐกิจไม่ดี นักลงทุนควรระวังด้านการเงินให้มากขึ้น โดยเฉพาะการกู้จากทางแบงก์ แต่สำหรับรูปแบบของทางบริษัทฯ ไม่เหมือนคนอื่น เน้นในเรื่องของความเร็วเป็นหลัก อย่างเช่น จังซีลอน และเอสพลานาดในเครือเมเจอร์ ผมก็สนใจที่จะเข้าไปดำเนินธุรกิจแต่ต้องไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน สำหรับการสนใจเข้าไปเปิดจังซีลอน เนื่องจากต้องการเข้าไปแก้ปัญหาโครงสร้างและคอนเซปต์ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ภูเก็ตสแควร์ จำกัด
“การลงทุนที่มาก ในสถานการณ์นี้ใช้หนี้ได้นิดหน่อยก็พอ แล้วที่เหลือผมปล่อยให้มีกำไรสะสม ธุรกิจที่ทำแล้วล้มละลาย เพราะไม่มีเงินจ่ายเงินเดือนให้พนักงาน”
ส่วนด้านการเมืองนั้น เวลานี้ไม่คิดว่าจะไม่เล่น เมื่อมันยังมาไม่ถึงตัว แต่ขณะนี้อยู่ในฐานะภาคเอกชน ก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับรัฐบาล และถ้าอยู่ในฐานะรัฐบาลก็ไม่ควรมีคราบของเอกชน ส่วนงานด้านบริหารร้านอาหาร ถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก เพราะเป็นธุรกิจใหม่โดยเฉพาะปัญหาต้นไม้ภายในร้าน ซึ่งในส่วนนี้ผมให้เวลาค่อนข้างมาก เพราะไม่ชอบที่จะอยู่ออฟฟิศชอบมาที่ร้านอาหารมากกว่า
สำหรับม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ในฐานะสวมหมวกภาคเอกชน ดำรงตำแหน่งหลากหลาย อาทิ ผู้ร่วมก่อตั้งอาคารสุธาวงศ์ ออฟฟิศ ประธานบริษัทเอ็มทีอาร์ แอสเส็ท เมเนเจอร์ส จำกัด ประธานบริษัท เอฟ เจ เบนจามิน คอนเซ็พท์ส ประเทศไทย จำกัด ประธานบริษัท อี-เด็บท์เทรดดิ้ง ดอทคอม และหนึ่งในผู้ถือหุ้นบริษัท ฟีนิกซ์ โฟร์ จำกัด ในสัดส่วน 50% และอีก 50% เป็นของตระกูลศรีชวาลาเป็นต้น