|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"สุรยุทธ์" ชงเอง ให้กลับมาใช้ดอนเมือง พร้อมประกาศเป็นสนามบินนานาชาติควบคู่สุวรรณภูมิ ส่วนการย้ายเที่ยวบินใดกลับ คาด 2 สัปดาห์ สรุปแผนได้ "ธีระ" เผยต้องการลดความแออัดระหว่างซ่อมปรับปรุงสุวรรณภูมิ ยันไม่กระทบความเป็นฮับ ด้าน "สนธิ" ติงควรพูดให้ชัดไปเลยว่าจะต้องปิดเพื่อซ่อมรันเวย์ แท็กซีเวย์ ชี้โอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงมาก "สรรเสริญ" เตรียมเปิดเวทีนัดถกสายการบิน ด้าน "หมอเสริฐ" หวั่นผู้ลงทุนรุมฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทการท่าฯ ขณะที่หลายสายการบินโวย เกรงมีปัญหาความสับสน หวั่นทุกสายการบินแห่กลับ เผยนโยบาย 2 สนามบิน เข้าทางไทยแอร์เอเชีย ได้ใช้ดอนเมืองเป็นฐานสมใจ
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี วานนี้ (6ก.พ.) ว่า ที่ประชุมมีมติให้มีสนามบินนานาชาติ 2 แห่ง คือ ทั้งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) เพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในช่วงนี้จึงต้องเตรียมท่าอากาศยานดอนเมืองให้มีความพร้อมเพื่อเป็นสนามบินนานาชาติอีกแห่งหนึ่ง
พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รมว.คมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมยังไม่ได้เสนอเรื่องการย้ายการจราจรทางอากาศบางส่วนกลับมาที่สนามบินดอนเมือง แต่ในที่ประชุมครม.ได้มีการพูดถึงสนามบินดอนเมือง และได้เห็นชอบให้สนามบินดอนเมืองเป็นสนามบินนานาชาติอีกแห่งเช่นเดียวกับสนามบินสุวรรณภูมิ และทำให้ไทยมีสนามบินนานาชาติ 2 แห่ง ซึ่งไม่ได้ทำให้กระทบต่อการเป็นศูนย์กลางทางการบิน(ฮับ) เพราะความเป็นฮับ คือประเทศไทยที่ได้เปรียบเรื่องที่ตั้ง ไม่ได้เจาะจงที่สนามบินสุวรรณภูมิแห่งเดียว ดังนั้น สนามบินทั้งสองแห่งจะช่วยเสริมความเป็นฮับของไทย
ส่วนการพิจารณาในการจัดสรรว่าควรมีสายการบินใดบ้างย้ายมาสนามบินดอนเมืองนั้นจะต้องมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เพราะสนามบินสุวรรณภูมิจะต้องมีบางส่วนที่ปิดซ่อมทำให้ไม่สะดวกมีความแออัด ดังนั้นการย้ายสายการบินใดๆ นั้น คงต้องใช้เวลาพิจารณาศึกษารายละเอียดประมาณ 2 สัปดาห์ จึงจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน และจะต้องกำหนดกรอบที่ชัดเจนว่า สายการบินใดจะได้ใช้ดอนเมืองบ้าง ภายใต้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
"ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีแผนที่จะปิดสนามบินสุวรรณภูมิ และไม่อยากพูดอะไรมากตอนนี้ เพราะจะต้องรอผลสรุปปัญหาของสนามบินสุวรรณภูมิทั้งหมด โดยเฉพาะกรณีปัญหารันเวย์ และแท็กซี่เวย์ ซึ่งมีคณะกรรมการกลางชุดที่มีนายต่อตระกูล ยมนาค ตรวจสอบอยู่ จากนั้นจึงจะนำข้อมูลทั้งหมดมาประเมินเรื่องความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกกับผู้ใช้บริการ"
พล.ร.อ.ธีระ กล่าวว่า การพิจารณาต่อจากนี้จะมีหลายปัจจัย เช่น การพิจารณาให้สายการบินระหว่างประเทศใช้ดอนเมืองด้วยหรือไม่ หากใช้จะกำหนดอย่างไร รวมถึงการเชื่อมระบบการขนส่งระหว่างสองสนามบินเพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกมากที่สุด โดยจากตัวเลขผู้ใช้สนามบินสุวรรณภูมิในปีแรกกว่า 40 ล้านคน จากขีดความสามารถที่จะรองรับได้เพียง 45 ล้านคนต่อปี ซึ่งการใช้จ่ายของ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. นั้น ยังมีเรื่องอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ดังนั้นเพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาล จึงจำเป็นต้องพยายามใช้สิ่งที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รมช.คมนาคม กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเป็นผู้หยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาหารือในที่ประชุมเป็นวาระแรกก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ซึ่งเป็นการอนุมัติในหลักการเพื่อให้แผนการปรับปรุงการใช้สนามบินดอนเมืองสามารถเดินหน้าไปได้ ส่วนการจัดสรรสายการบินต่างๆ นั้น ทางกรมการขนส่งทางอากาศและ ทอท.จะต้องสรุปแผนเสนอมายังกระทรวงคมนาคม และจะต้องมีการประชุมเพื่อเปิดรับฟังความเห็นจากผู้ประกอบการสายการบินก่อนที่จะสรุปเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป
ควรพูดให้ชัดต้องปิดสุวรรณภูมิ
นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ กล่าวระหว่างดำเนินรายการ "ยามเฝ้าแผ่นดิน" ออกอากาศทาง ASTV เมื่อคืนวานนี้ว่า เรื่องนี้มีอะไรไม่ชอบมาพากล เหมือนกับว่ากำลังมีใครปกปิดอะไรบางอย่าง หากจะย้ายเที่ยวบินกลับมาใช้สนามบินดอนเมือง ควรจะประกาศให้ชัดเจนไปเลยว่าจะปิดสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อตรวจสอบปัญหาและซ่อมแซม ซึ่งอาจจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี หรือ 1 ปีครึ่ง หลังจากที่ วิศวกรจากวิศวกรรมสถานได้ไปเจาะทรายใต้พื้นแท็กซี่เวย์ตรวจสอบแล้ว วิเคราะห์ว่าทรายไม่ได้มาตรฐาน และผู้เชี่ยวชาญบอกว่า มีโอกาสจะเกิดอุบัติเหตุ 1 ครั้งต่อการลงจอด 10,000 ครั้ง เพราะฉะนั้นสนามบินสุวรรณภูมิมีเที่ยวบินประมาณวันละ 1,000 เที่ยว จึงมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุ 10 วันต่อ 1 ครั้ง เท่ากับเดือนละ 3 ครั้ง ดังนั้นปัญหาวิกฤติขนาดนี้ควรจะปิดทันที ตนจึงไม่เข้าใจว่า รมว.คมนาคม กำลังเล่นกับชีวิตของประชาชนอยู่หรืออย่างไร และถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมา พ.ต.ท.ทักษิณ จะเป็นคนหัวเราะเยาะ เพราะเขาจะอ้างว่า เมื่อรู้ว่ามีปัญหา และมีอำนาจรับผิดชอบแล้วทำไมไม่ปิด
นายสนธิ กล่าวว่า เหตุที่ครม.ให้เปิดดอนเมืองเป็นสนามบินนานาชาติแห่งที่ 2 น่าจะเป็นเพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าถึงอย่างไรจะต้องปิดสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อซ่อมอย่างแน่นอน แต่เพื่อต้องการรักษาหน้าของใครบางคนจึงต้องใช้วิธีการที่นุ่มนวล ถ้าตนเป็นรัฐบาลจะเรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้วฟันธงไปเลยว่าจะต้องปิด เพื่อทำการตรวจสอบทั้งบริเวณลานบิน อุปกรณ์ ตัวอาคาร รวมทั้งสัญญาต่างๆ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี และใช้อีก 2 ปีในการซ่อมแซม
"ควรสั่งไปเลยว่าภายใน 45 วัน ต้องกลับไปดอนเมืองให้หมด ถ้ากลัวไม่ทันก็สั่งเจ้าหน้าที่ให้ทำงานล่วงเวลาหามรุ่งหามค่ำ เพื่อให้ย้ายให้เสร็จ" นายสนธิ กล่าว
"หมอเสริฐ" หวั่นฟ้องค่าเสียหายการท่าฯ
นายแพทย์ปราเสริฐ ประสาททองโอสถ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ หรือบางกอกแอร์เวย์ส กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ในเชิงธุรกิจการบินจริงๆ นั้นทำไม่ได้ และการแถลงมติของครม.ยังไม่มีความชัดเจน เพราะไม่มีการกำหนดเวลาว่าจะให้อยู่ที่สนามบินดอนเมืองนานแค่ไหน ซึ่งไม่มีสนามบินที่ไหนในโลกเขาทำกัน ทั้งนี้สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ย้ายที่ทำการบินไปที่สุวรรณภูมิต้องมีภาระเพิ่มขึ้นอีกปีละ 600 ล้านบาท
"การมีมติของรัฐบาลออกมาแบบนี้ สายการบินต้องย้ายกลับหมดแน่ และต้องบอกให้มีความชัดเจนว่า จะใช้ดอนเมืองเป็นสนามบินนานาชาติในระยะเวลาเท่าไร เช่น 1-2 ปี แต่นี่ไม่ได้กำหนด ซึ่งมั่นใจว่าสายการบินต่างๆ ในสุวรรณภูมิ ก็จะแห่กลับไปใช้ดอนเมืองแทน เพราะสายการบินที่ใช้สนามบินดอนเมืองมีต้นทุนที่ถูกกว่า"
นายแพทย์ปราเสริฐ กล่าวแสดงความเห็นว่า บริษัท การท่าอากาศยานไทย ควรจะลดราคาผู้ใช้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิลงอีก 50% เพื่อเป็นการดึงดูดให้มีผู้มาใช้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิ หรือมีการยกเลิกค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินไปเลย ทั้งนี้รัฐบาลอาจไม่คำนึงถึงข้อสัญญาของบริษัทท่าอากาศยานไทย ที่ได้ทำไว้กับสายการบิน หรือผู้ลงทุนในสนามบินสุวรรณภูมิว่าจะใช้สนามบินสุวรรณภูมิเพียงแห่งเดียว แต่ถ้ามีมติให้มี 2 สนามบิน ปัญหาที่ตามมาก็คือ ผู้ลงทุนในสนามบินสุวรรณภูมิ และสายการบินต่างๆ อาจจะเรียกร้องค่าชดเชยและค่าเสียหายต่างๆ ที่ไม่เป็นไปตามสัญญา
“รัฐไม่กำหนดเวลาที่ชัดเจน เวลาที่ผู้ลงทุนในสุวรรณภูมิ หรือสายการบินต่างๆ ก็อาจจะเรียกค่าเสียหาย หรือชดเชยถึง 20 ปีก็ได้ ตรงนี้บริษัทการท่าฯ ต้องรีบออกมาสร้างความชัดเจนในเรื่องนี้"
หวั่นทุกสายการบินแห่กลับ
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การจัดสรรให้เที่ยวบินกลับมาใช้สนามบินดอนเมืองนั้น จะมีการกำหนดแผนที่ชัดเจนอีกครั้ง ไม่ใช่เปิดให้ทุกสายการบินสามารถโอนย้ายกลับมาได้ แต่จะต้องคำนึงความเหมาะสม โดยเฉพาะสายการบินไทย ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติจะต้องมีฐานหลักอยู่ที่สุวรรณภูมิ ส่วนสายการบินอื่นๆ จะพิจารณาความเป็นไปได้ทางการตลาดธุรกิจการบินเป็นหลัก และบางสายการบินก็มีการลงทุนเป็นจำนวนมากไปแล้ว
นางกัลยา ผกากรอง รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า การกลับมาใช้สนามบินดอนเมืองนั้น ทอท.ได้ทำการศึกษาและเสนอให้ย้ายเที่ยวบินภายในประเทศ และเที่ยวบินระหว่างประเทศแบบจุดต่อจุด ( Point to Point) ที่ไม่มีการต่อเครื่องกลับมาใช้ดอนเมือง แต่บอร์ด ทอท.เห็นว่าระยะแรกควรย้ายเฉพาะเที่ยวบินภายในประเทศ ส่วนเที่ยวบินระหว่างประเทศแบบจุดต่อจุด ที่ไม่มีการต่อเครื่องจะต้องรออีกระยะหนึ่งก่อน แต่เชื่อว่าจะช่วยลดความแออัดของสนามบินสุวรรณภูมิได้อย่างแน่นอน เพราะจำนวนผู้โดยสารเกือบจะเต็มขีดความสามารถของสนามบินแล้ว หากมีการปิดพื้นที่เพื่อซ่อมแซม จะยิ่งทำให้เกิดความแออัดมากขึ้น
นางกัลยา กล่าวว่า สนามบินดอนเมืองในปัจจุบันมีค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว แม้จะให้บริการเพียงเที่ยวบินเช่าเหมา ลำ (Charter Flight) เพราะต้องคงสภาพของความเป็นสนามบินไว้ ดังนั้นการย้ายเที่ยวบินบางส่วนกลับมาอาจทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ ทอท.จะได้ประโยชน์เพราะสามารถชะลอการลงทุนการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำได้ ทำให้การใช้สนามบินดอนเมืองเป็นการบริหารจัดการทรัพย์สินที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพและได้ประโยชน์สูงสุด
ด้านเรืออากาศเอกพินิจ สาหร่ายทอง ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง กล่าวว่า หากจะย้ายเที่ยวบินระหว่างประเทศกลับมาที่สนามบินดอนเมืองด้วย ก็จำเป็นจะต้องมีการเปิดใช้อาคารผู้โดยสาร 2 แห่ง คือ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร1 และอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ แต่ต้องมีความชัดเจนว่ามีสายการบินใดบ้างที่จะย้ายกลับมาเพื่อคำนวณปริมาณผู้โดยสารและเตรียมกำลังคนและอุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวก โดยเบื้องต้นหากย้ายปริมาณจราจรมา 30% ต้องเพิ่มกำลังคนประมาณ 5% และมั่นใจว่าหลังเปิดให้บริการเพียง 3 ปี จะเห็นความชัดเจนว่า จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
การบินไทยปรับแผนรับนโยบายใหม่
ด้านเรืออากาศโทอภินันท์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การบินไทยอาจต้องมีการทบทวนนโยบายแผนการย้ายกลับมาใช้สนามบินดอนเมืองเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายที่เปลี่ยนไป ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลด้วย เพราะการบินไทยเป็นสายการบินแห่งชาติ
นายอุดม ตันติประสงค์ชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการสายการบินไทย โอเรียนท์ แอร์ไลน์หรือวัน-ทู-โก กล่าวว่า ในส่วนของโอเรียนท์ ก็คงตัดสินใจที่จะย้ายกลับมาที่สนามบินดอนเมืองอย่างแน่นอน และอาจมีผลทำให้หลายสายการบินกลับมาเช่นกัน ซึ่งเกรงว่าอาจส่งผลหรือทำเกิดความสับสนต่อผู้ใช้บริการได้
แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการบินหลายราย กล่าวว่า รู้สึกงงและสับสนกับนโยบายของรัฐบาลครั้งนี้ เพราะจะทำให้เกิดปัญหาความไม่สะดวกกับผู้โดยสารได้ อีกทั้งยังได้มีการตั้งข้อสังเกตว่า จะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับสายการบินบางรายที่ต้องการจะใช้ประเทศไทยและสนามบินดอนเมืองในการขยายฐานทางการบินด้วย ทำให้นโยบายดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการบริหารการจัดการด้านการบินของประเทศ โดยเฉพาะอยู่ในภาวะของความไม่พร้อมในระบบสาธารณูปโภคและการขนส่งเชื่อมต่อทั้งสองสนามบินด้วย
ส่วนการขนส่งสินค้าก็อาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการได้ เพราะรัฐบาลได้ผลักดันให้สนามบินสุวรณภูมิเป็นตลาดหลักในการขนส่งสินค้า แต่หากมีการแยกปริมาณการจราจรเช่นนี้ รัฐบาลจะต้องกำหนดแนวทางที่ชัดเจนด้วยว่า หากจะต้องมีการเปิดตลาดขนส่งสินค้าที่สนามบินดอนเมือง จะส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุนในสนามบินสุวรรณภูมิแน่นอน
ด้านนายทัศพล แบเลเวลล์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ขอรอดูนโยบายที่ชัดเจนก่อน หากเปิดให้สายการบินต่างประเทศใช้สนามบินดอนเมืองได้ ทางไทยแอร์เอเชียก็พร้อมที่จะกลับมาใช้สนามบินดอนเมือง เพราะก่อนหน้านี้ได้ทำหนังสือถึงกระทรวงคมนาคมเพื่อเรียกร้องให้สายการบินต้นทุนต่ำกลับมา
นายพาที สารสิน ซีอีโอของสายการบินนกแอร์ กล่าวว่า นโยบายนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสายการบินนกแอร์ ซึ่งมีแผนที่ชัดเจนว่าจะกลับมาใช้สนามบินดอนเมืองอยู่แล้ว แต่เห็นว่าอาจส่งผลให้สายการบินต่างประเทศบางรายที่ไม่มั่นใจความปลอดภัยของสนามบินสุวรรณภูมิขอย้ายกลับมาด้วย ซึ่งเป็นผลมาจากกรณีที่กรมการขนส่งทางอากาศไม่ออกใบรับรองการใช้สนามบินและข่าววงในด้านลบเกี่ยวกับสนามบิน ส่งผลให้หลายสายการบินเกิดความไม่มั่นใจได้
AOC ไม่เห็นด้วย 2 สนามบินทำสับสน
ด้านว่าที่ร้อยตรีหญิงโสภิณ แดงเทศ ประธานคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินสายการบินระหว่างประเทศ (AOC) กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่จะมีสนามบินนานาชาติ 2 แห่ง เพราะจะทำให้เกิดความสับสนกับผู้โดยสาร และมีปัญหาในเรื่องของการต่อเที่ยวบิน เนื่องจากระบบขนส่งและสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะเชื่อมต่อ 2 สนามบินยังไม่มีความพร้อม อย่างไรก็ตาม ทาง AOC ได้เคยเสนอผลการศึกษา ให้กระทรวงคมนาคม พิจารณาไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีรายงานผลศึกษาของ สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาต้า) ที่ระบุว่าการบริหารจัดการท่าอากาศยานให้มีประสิทธิภาพ คือแนวทางมีท่าอากาศยานนานาชาติเดียว เท่านั้น แต่หากรัฐบาลเห็นว่า จำเป็น ต้องเปิดใช้ท่าอากาศยานดอนเมือง ในรูปแบบที่เหมาะสมจะต้องคำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้โดยสารเป็นที่ตั้งมากกว่าการคำนึงถึงผลประโยชน์ของทอท.
นายชัยวัฒน์ นวราช ประธานคณะอนุกรรมการ อำนวยความสะดวกด้านการขนส่งทางอากาศ AOC กล่าว่า สนามบินดอนเมืองควรเป็นสนามบินสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) มากกว่า เพราะจะเป็นการแยกสถานที่ตามประเภทบริการของสายการบินออกจากกัน และจะทำให้ผู้โดยสารไม่สับสน นอกจากนี้ยังเห็นว่าการบินไทยในฐานะที่เป็นสายการบินแห่งชาติ ไม่ควรย้ายเที่ยวบินกลับมาบินใช้ที่ดอนเมือง เพราะนอกจากจะเป็นสายการบินแห่งชาติแล้ว ยังมีภาระที่ต้องดูแลอำนวยความสะดวกให้แก่สายการบินระหว่างประเทศอื่นๆ ซึ่งเป็นลูกค้าอีกด้วย
|
|
|
|
|