Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน6 กุมภาพันธ์ 2550
"ออมสิน" กำไรพุ่งสวนเศรษฐกิจซบเปิดแผนปี 50 รับมือต้นทุนดอกเบี้ย-กันสำรองเพิ่ม             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารออมสิน

   
search resources

ธนาคารออมสิน
Banking




ออมสินโชว์ผลประกอบการปี 49 กำไรพุ่งเฉียด 13,700 ล้านบาท ฟุ้งยอดหนี้เสียอยู่ในระดับที่ต่ำ ยันยังไม่ปรับลดดอกเบี้ยตามแบงก์พาณิชย์ รอท่าทีกนง. และแนวโน้มดอกเบี้ยตลาดโลกที่อยู่ในขาขึ้นก่อน เผยนโยบายปี 50 ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง มุ่งสู่สถาบันการออม การลงทุน บ่มเพาะและพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนให้แข็งแกร่ง และผลักดันธุรกรรมการเงินที่ครบวงจรเพื่อให้บริการเข้าถึงประชาชน

นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ผลประกอบการของธนาคารออมสิน ในปี 2549 ปรากฏว่า มีกำไรสุทธิก่อนการตรวจสอบโดยสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน 13,669 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ที่มีกำไรสุทธิ 13,242 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.22% โดยสาเหตุหลักมาจากการที่ในปี 2549 ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิ (NII) 24,084 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2548 จำนวน 1,936 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.74% (ซึ่งมาจากการที่ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลจำนวน 36,326 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2548 จำนวน 7,049 ล้านบาท ขณะที่ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและเงินรางวัลมีจำนวน 12,242 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,113 ล้านบาท)

ทั้งนี้ จากกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้กำหนดให้ธนาคารทุกแห่งตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มจากเกณฑ์ปกติ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีใหม่ (International Accounting Standards ฉบับที่ 39) หรือ IAS39 ซึ่งจะให้ธนาคารในระบบใช้เกณฑ์ดังกล่าวตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นไป ดังนั้น ในปี 2549 ธนาคารจึงได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มจากเกณฑ์ปกติเป็นจำนวนถึง 3,600 ล้านบาท สูงกว่าเกณฑ์ IAS39 ประมาณ 1,200 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิในปี 2549 อยู่ที่ 10,069 ล้านบาท ลดลงจากปี 2548 จำนวน 2,272 ล้านบาท โดยในปี 2548 ธนาคารออมสินได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญตามเกณฑ์เดิมเพียง 900 ล้านบาท ทำให้ปี 2548 มีกำไรสุทธิหลังหักการตั้งสำรองฯ 12,342 ล้านบาท

ฟุ้ง NPL อยู่ในระดับต่ำกว่าที่คาด

สำหรับอัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคาร หรือ NPLs อยู่ที่ 3.82% ของยอดสินเชื่อรวมคงเหลือ 432,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นสัดส่วนที่อยู่ในระดับต่ำกว่าคาดการณ์ในระดับ 4.00% ถือว่าธนาคารออมสินมีสัดส่วนหนี้ NPLs อยู่ในระดับต่ำ แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการบริหารจัดการหนี้ด้อยคุณภาพของธนาคาร

“หากจะนับยอดหนี้ NPLs ที่ทุกสถาบันการเงินต้องรายงานต่อธนาคารแห่งประเทศไทยตามเกณฑ์ IAS39 ซึ่งเป็นการรายงานยอด NPLs net (นำยอด NPLs คงค้างหักด้วยเงินสำรองของ NPLs ทั้งหมด) ซึ่งปัจจุบันธนาคารออมสินได้กันสำรองครบ 100% โดยไม่หักมูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสด ที่คาดว่าจะได้รับจากลูกหนี้หรือจากหลักประกัน ทำให้ยอด NPLs net ของธนาคารออมสินเท่ากับ ร้อยละ 0” นายกรพจน์ กล่าว

ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวต่อไปว่า สำหรับในด้านเงินฝาก ณ สิ้นปี 2549 ธนาคารมียอดเงินฝากคงเหลือ 614,233 ล้านบาท เพิ่มขึ้นสุทธิ 30,982 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.31% ขณะที่ ปี 2548 มีเงินฝากเพิ่มขึ้นสุทธิเพียง 3,022 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.52% ขณะที่สินทรัพย์รวมอยู่ที่ 711,492 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31,420 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 4.62% ซึ่งสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นมาจากเงินฝาก โดยที่ส่วนของทุนอยู่ที่ 76,667 ล้านบาท ขณะที่อัตราส่วนของทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ 22.26% เป็นอัตราส่วนที่สูงเมื่อเทียบในระบบธนาคาร

“ในปี 2549 เป็นอีกปีที่ธนาคารออมสินมีอัตราการขยายตัวที่ดีในแทบทุกด้าน ซึ่งเกิดจากการวางกลยุทธ์ที่ครอบคลุมในทุกด้าน การบริหารงานที่มีประสิทธิภาพที่นำไปสู่เป้าหมาย และความร่วมมือร่วมใจของพนักงานทุกคน ที่นำนโยบายของธนาคารทั้งในเชิงสังคมและธุรกิจไปปรับใช้ในการทำงาน ซึ่งอัตราส่วนทางการเงินเกือบทุกด้านสะท้อนการทำงานอย่างหนักของพนักงานทุกคนได้เป็นอย่างดี โดยผลการดำเนินงานข้างต้นไม่เพียงสะท้อนฐานะทางการเงินที่มั่นคง แต่ยังแสดงออกถึงศักยภาพของธนาคารที่โดดเด่นด้วยบทบาทในการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ควบคู่กับการพัฒนาธุรกิจด้านต่างๆ” นายกรพจน์ กล่าว

เผยยังไม่ปรับดอกเบี้ยรอดูท่าทีตลาดโลกก่อน

นายกรพจน์ กล่าวถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารว่า ขณะนี้ยังไม่มีนโยบายปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามธนาคารพาณิชย์ที่มีการปรับลดไปก่อนหน้านี้ โดยธนาคารจะต้องรอดูภาวะแนวโน้มในตลาดโลกก่อนว่าเป็นอย่างไรถึงมีการพิจารณาปรับลด แต่อย่างไรก็ตามได้ประเมินจากสถานการณ์แล้วพบว่า ในขณะนี้อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอียู นอกจากนี้ยังต้องรอดูผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งต่อไปด้วย

“การลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารต้องรอดูสถานการณ์ของโลกก่อนว่าเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้ที่ดูมาคิดว่าอัตราดอกเบี้ยโลกน่าจะปรับเพิ่มมากขึ้นมากกว่าลดลง ซึ่งการพิจารณาการลดดอกเบี้ยของธนาคารออมสินก็ต้องดูสถานการณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศก่อนด้วย” นายกรพจน์กล่าว

ย้ำปี 50 เป็นสถาบันเพื่อการออม-สร้างเศรษฐกิจชุมชน

นายกรพจน์ กล่าวว่า สำหรับแนวทางการดำเนินงานในปี 2550 ธนาคารได้กำหนดนโยบายหลัก 4 ด้าน ภายใต้วิสัยทัศน์ “เป็นสถาบันที่มั่นคงของประเทศ เพื่อการออม การลงทุน การสร้างเศรษฐกิจชุมชน การพัฒนาประเทศ และการบริการทางการเงินที่ครบวงจรแก่ประชาชนทุกระดับทั่วประเทศ” ดังต่อไปนี้

1. นโยบายส่งเสริมการออมและสร้างวินัยทางการเงิน มุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจด้านการออมให้มีความหลากหลายและครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม ด้วยการทำประชาสัมพันธ์และการตลาดเชิงรุก พร้อมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการออมและสร้างวินัยทางการเงิน

2. นโยบายส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจและสังคมในระดับฐานรากตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มุ่งเน้นสนับสนุนเงินทุนหรือเงินกู้ยืมแก่ลูกค้าในระดับฐานรากและวิสาหกิจชุมชน ส่งเสริมการพัฒนาอาชีพลูกค้าฐานราก การสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินงานของสถาบันการเงินชุมชน

3. นโยบายเพิ่มและขยายการให้บริการและธุรกรรมทางการเงิน มุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจและบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ขยายขอบเขตธุรกรรมในส่วนที่ธนาคารยังไม่ชำนาญ ขยายสินเชื่อข้อตกลงกับหน่วยงาน และให้สินเชื่อต่อยอดแก่ลูกค้าชั้นดี ดำเนินการพ่วงผลิตภัณฑ์ (Cross Selling) รวมถึงการขยายช่องทางให้บริการในรูปแบบสาขา หน่วยให้บริการ รถเคลื่อนที่ และช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งเพิ่มการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ เพื่อสนับสนุนการลงทุนพัฒนาประเทศ

4. นโยบายเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถทางการแข่งขัน มุ่งเน้นการบริหารและพัฒนาด้านทรัพยากรบุคคลให้เพียงพอทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ การปรับปรุงภาพลักษณ์ สำนักงานสาขาและสำนักงานใหญ่ ตลอดจนปรับปรุงประสิทธิภาพการวางแผน โดยใช้ Balanced Scorecard และ Economic Value Added การบริหารความเสี่ยงและควบคุมภายใน พัฒนาระบบ Core Banking และระบบข้อมูลเพื่อการบริหาร

คาดกำไรปี 50 อยู่ในระดับสูงกว่า 10,000 ล้าน

อย่างไรก็ตามในปี 2550 ธนาคารออมสินตั้งเป้าหมายจะมีเงินฝากเพิ่มขึ้น 20,000 ล้านบาท ให้สินเชื่อ 142,000 ล้านบาท โดยจะเน้นสินเชื่อรายย่อยเป็นหลัก ขณะที่เงินลงทุนคาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 10,600 ล้านบาท เพิ่มรายได้จากค่าธรรมเนียมประมาณ 1,700 ล้านบาท โดยคาดว่าในปี 2550 ธนาคารออมสินจะมีกำไรสุทธิในระดับที่สูงกว่า 10,000 ล้านบาท ทั้งที่ในปี 2550 จะอยู่ในภาวะที่ต้นทุนสูง เนื่องจากภาวะอัตราดอกเบี้ยสูงที่ต่อเนื่องมาจากปี 2549 และการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญตามเกณฑ์ IAS39

“ในปี 2550 ธนาคารออมสินจะเดินหน้าปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลให้มากยิ่งขึ้นและรุกอย่างเต็มตัว โดยอาศัยจุดแข็งของธนาคารคือ เครือข่ายสาขากว่า 600 แห่ง ซึ่งครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ กับความสัมพันธ์อันดีของพนักงานธนาคารกับประชาชนในพื้นที่ ที่จะเป็นปัจจัยหนุนให้ธุรกิจสินเชื่อของธนาคารออมสินในปี 2550 ขยายตัวไปได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งอยู่ใกล้ชิดและมีความสัมพันธ์อันดีกับธนาคารออมสินมาโดยตลอด” ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าว

ลุยปล่อยสินเชื่อบุคคลสานนโยบายเดิม

สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลที่ธนาคารจะเร่งดำเนินการปล่อยกู้ในปี 2550 นี้ ได้แก่ สินเชื่อเคหะเพิ่มยอด (GSB Plus) เป็นสินเชื่อเอนกประสงค์สำหรับลูกค้าสินเชื่อเคหะทั้งของธนาคารออมสินและสถาบันการเงินอื่นที่มีประวัติการชำระเงินดีหรือผ่อนเงินกู้ใกล้หมดแล้ว โดยธนาคารให้วงเงินสูงสุดเท่ากับวงเงินกู้เดิมหรือไม่เกินราคาประเมินหลักประกันสินเชื่อภาครัฐเพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นโครงการที่พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ อาทิ โครงการสร้างศูนย์เลี้ยงเด็กในชุมชน ตลาดสด ศูนย์กีฬา สถานีขนส่ง ท่าเรือ เป็นต้น ซึ่งนอกเหนือจากการให้สินเชื่อแล้วธนาคารจะคอยให้คำแนะนำในการดำเนินโครงการควบคู่ไปด้วย

นอกจากนี้ยังมีสินเชื่อเคหะและสินเชื่อเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี รวมถึงสินเชื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ซึ่งธนาคารออมสินได้ดำเนินโครงการนี้มากว่า 7 ปีแล้ว และเร็วๆ นี้ ธนาคารจะสามารถเริ่มปล่อยสินเชื่อตามโครงการปรับโครงสร้างหนี้ครูตามวิทยฐานะตามนโยบายของรัฐบาล โดยที่ธนาคารได้ผ่อนคลายเงื่อนไขหลักเกณฑ์เดิมเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงมากขึ้น

“อย่างไรก็ตาม ธนาคารออมสินจะยังคงบทบาทด้านสังคม ที่มุ่งเน้นสนับสนุนสินเชื่อควบคู่กับการจัดฝึกอบรมและพัฒนาอาชีพ สนับสนุนการเปิดสถาบันการเงินชุมชน ส่งเสริมและขยายกิจกรรมการออมในสถาบันการศึกษาในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น ส่วนด้านธุรกิจจะเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้งที่ได้เปิดให้บริการแล้ว และธุรกรรมการเงินใหม่ๆ เพื่อให้ธนาคารออมสินเป็นสถาบันการเงินที่สามารถให้บริการได้อย่างครบวงจรสำหรับลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย และทุกระดับ” นายกรพจน์ กล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us