ในวัย 72 ปี ปัญญา ควรตระกูล ยังสนุกกับการขายบ้านจัดสรร มีความสุขที่ได้พูดคุยพบปะลูกค้าเก่าแก่ที่คุ้นเคยกันมา
ตั้งแต่สมัยซื้อหมู่บ้านเศรษฐีโครงการแรก "ปัญญาพัฒนาการ" ที่วันนี้กลับมาอีกครั้งเพื่อมาหาซื้อบ้านให้ลูกหรือหลาน
เกือบทุกวัน ในสำนักงานขายของ หมู่บ้านปัญญารามอินทราโครงการใหม่ "Private
Living Panya" ปัญญา ควรตระกูล เจ้าของโครงการ ในชุดกางเกง ขาสั้น เสื้อยืด
จะนั่งประจำอยู่ในออฟฟิศตั้งแต่ 10 โมงเช้า ก่อนที่จะกลับไปทานข้าวเที่ยงที่บ้าน
ที่ห่างไปไม่มากนักและ จะกลับเข้ามาอีกครั้งในช่วงบ่าย หลังจากนั้นก็เลยไปออกรอบในสนามกอล์ฟปัญญารามอินทราฝั่งตรงข้ามกับลูกชาย
หรือไม่ก็บริวารคนรอบข้าง
ปัญญา คือโมเดลของผู้ประสบความสำเร็จอีกคนหนึ่งในสังคมไทยที่ใช้ความลำบาก
ยากจน เป็นฐานสำคัญในการสร้างความมุมานะ เพื่อสร้างฐานะ เขาเป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวน
3 คนของคุณพ่อแสง และคุณแม่หงษ์ แซ่โค้ว มีรูปร่างผอมสูง ผิวพรรณดีตามเผ่าพันธุ์
ซึ่งเป็นคนจีนผสมไทยปนมอญ ในวัยเด็กต้องช่วยครอบครัว ขายผัก ขาย ปลาทู ขายขนมหวาน
อยู่ในตลาดพระประแดง ย่างเข้าวัยรุ่น ก็เคี่ยวน้ำหวาน น้ำแดง น้ำสละ น้ำมะลิ
ส่งขายเป็นกิจการของตัวเองตั้งแต่อายุ 15 ปี พร้อมๆ หัดตั้งวงแชร์ เพื่อเป็นเงินเก็บตั้งแต่ตอนนั้น
ต่อมาก็เริ่มมาเป็นลูกจ้างให้กับพี่สาวซึ่งเป็นเอเย่นต์ ขายบุหรี่ แล้วเปลี่ยนไปอยู่โรงรับจำนำ
ก่อนที่จะไปร่วมหุ้นกับทางญาติภรรยาเพื่อเริ่มงานซื้อขาย ที่ดิน ซื้อมาขายไปจนกระทั่งไปได้ที่ดินแปลงหนึ่งบนถนนพัฒนาการ
และพัฒนาเป็นหมู่บ้านผู้มีรายได้สูงโครงการแรกๆ ของเมืองไทย
"ปัญญาพัฒนาการ" เป็นสปริงบอร์ดครั้งสำคัญทำให้ชีวิตพลิกกลับเหมือนฝ่ามือ
การอ่านเกมการตลาดได้ออก เข้าใจความต้องการของคนในสังคมไทยเรื่องที่อยู่อาศัย
ทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างมากจากโครงการนี้ และมีเม็ดเงินไปหว่านซื้อที่ดินในทำเลต่างๆ
ไว้อีกอย่างมากมาย
ดีลการขายครั้งสำคัญของเขาอีกครั้ง เมื่อปี 2538 คือการขายสนามกอล์ฟปัญญารีสอร์ท
และปัญญาฮิลล์ให้กับพันธมิตรต่างวัย ทวีพงศ์ จารุทวี แห่งกลุ่มแนเชอรัลพาร์ค
ผู้เล่นกอล์ฟ ไม่เป็นเลย แต่หวังอย่างยิ่งว่าจะทำรายได้มหาศาลจากธุรกิจกอล์ฟที่กำลังรุ่งโรจน์สุดๆ
ในช่วงนั้น
2 ปีหลังจากนั้น ความล่มสลายของเศรษฐกิจโลกก็เกิดขึ้น ธุรกิจที่เคยเฟื่องฟูอย่างกอล์ฟ
ได้ตกต่ำลงอย่างสุดขีด กลับกลายเป็นว่าปัญญา ควรตระกูล โชคดีอย่างมากๆ ที่ได้ขายสนามกอล์ฟ
ไปได้ก่อนหน้านี้ และหลังจากเปิดขายโครงการปัญญาเลคโฮมที่สุวินทวงศ์เมื่อปี
2539 พร้อมๆ กับ การขายที่ดินแปลงเปล่ารอบๆ สนามกอล์ฟไปอย่างเงียบๆ กลุ่มนี้ก็แทบจะหายไปจากวงการพัฒนาที่ดินเหลือไว้เพียงตำนานของอดีตเจ้าพ่อสนามกอล์ฟของเมืองไทยเท่านั้น
วันนี้ ปัญญา งัดเอาที่ดินในไพร์มแอเรียแปลงสุดท้าย ย่านรามอินทรา ตรงข้ามสนามกอล์ฟ
ปัญญารามอินทรา จำนวน 85 ไร่ มาทำโครงการบ้านจัดสรรราคาแพงและเปิดโครงการไปเมื่อกลางเดือนธันวาคม
2545 พร้อมๆ กับข่าวการขายโครงการสนามกอล์ฟ 27 สุวินทวงศ์ให้กับกลุ่มดัชมิลล์เป็นเม็ดเงินไม่ต่ำว่า
700-800 ล้านบาท
วันที่ "ผู้จัดการ" เข้าไปนั่งคุยกับเขาที่สำนักงานขายเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม
2546 นั้น ปัญญากำลังรอโทรศัพท์จากชาตรี โสภณพนิช เตรียมเสนอเงื่อนไขซื้อหุ้นส่วนหนึ่งของสนาม
กอล์ฟที่สุวินทวงศ์คืน เพื่อรวบรวมขายต่อให้กับกลุ่มดัชมิลล์ ซึ่งเขาบอกว่าไม่น่ามีปัญหา
ในช่วงบั้นปลายของชีวิต ปัญญา ควรตระกูล น่าจะปิดฉากการทำธุรกิจของเขาอย่างมีความสุขเพียงแค่โครงการบ้านจัดสรรโครงการนี้
แต่ดูเหมือนว่าความเป็นนักซื้อนักขายมันยังเดือดพล่านอยู่ในสายเลือด
"พอได้เงินมามันก็อดไม่ได้อีกที่จะมองหาที่ดินแปลงใหม่ๆ" เขาพูดยิ้มๆ
ด้วยท่าทีเรียบเรื่อยดูสบายๆ เช่นเดียวกับสไตล์การทำธุรกิจที่ดินของเขาที่จะมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป
และระวังตัวมาโดยตลอด ปัญญายอมรับว่ากลุ่มปัญญา พร็อพเพอร์ตี้ส์ มีตัวเขาเองเป็นหลัก
เป็นภาพพจน์ที่ดี และเป็นจุดขายสำคัญในเรื่องการรักษาคำมั่นกับลูกค้ามาตลอด
โดยมีลูกอีก 3 คนในตำแหน่งกรรมการรองผู้จัดการเป็นคนคอยช่วยเสริม โดย พัชร
ลูกชายคนโต จะรับผิดชอบทางด้านบัญชีและการเงิน อรนภา ดูแลทางด้านงานประชาสัมพันธ์
ส่วนปฏิญญา ลูกสาวคนเล็กมีหน้าที่ดูแลทางด้านงานขาย
ปัญญา เป็นนักพัฒนาที่ดินรายแรกๆ ในเมืองไทยที่กล้าลงทุน ทำบ้านจัดสรรขายเศรษฐี
โดยพัฒนารูปแบบบ้านให้ต่างกับบ้าน จัดสรรอื่นๆ ที่คนระดับนี้เคยมองว่าเป็น
"บ้านโหล" ในขณะเดียว กันก็ลงทุนเต็มที่ในเรื่องของระบบสาธารณูปโภค
และระบบความปลอดภัยในโครงการขายทั้งที่ดินเปล่าและบ้านพร้อมที่ดิน ซึ่งแบ่ง
ขายแปลงใหญ่ถึง 200-300 ตารางวา ส่วนแบบบ้านในยุคนั้นได้มติ ตั้งพานิช เป็นคนเขียนแบบ
ต่อมาเป็นพวงเพ็ญ วิบูลย์สวัสดิ์ ผู้เป็นน้องภรรยาเข้ามาช่วย
กว่าโครงการใหญ่นั้นจะสำเร็จ เขาต้องฉีดยาบำรุงประสาท เพื่อลดความเครียดวันละ
3 เวลา และเป็นที่มา ทำให้ต้องลุกขึ้นมาออกกำลังกายด้วยการตีกอล์ฟ ก่อนที่ยาจะเอาไว้ไม่อยู่
กอล์ฟเลยกลายเป็นชีวิตจิตใจของเขามานับตั้งแต่ตอนนั้น
สนามกอล์ฟปัญญารีสอร์ท ที่อำเภอบางพระ จังหวัดชลบุรี เป็นสนามกอล์ฟแห่งแรกที่ซื้อที่ดินมาจากบริษัทเชลล์จำนวน
2,800 ไร่ และหลังจากนั้นสนามกอล์ปัญญา ฮิลล์ สนามกอล์ฟปัญญารามอินทรา และสนามปัญญาปาร์ค
สุวินทวงศ์ ก็เกิดขึ้นตามๆ มา พร้อมกับแผนการที่จะสร้างสนามกอล์ฟเพิ่มอีก
3-4 สนาม ฉายาเจ้าพ่อสนามกอล์ฟเลยเกิดขึ้นในเวลานั้น
วันนี้เขาเหลือโครงการสนามกอล์ฟปัญญารามอินทรา เพียงสนามเดียว ที่เขาจะต้องเล่นทุกวัน
วันละ 9 หลุม เป็น การออกกำลังกายอย่างเดียวที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงพร้อมๆ
กับการทานอาหารชีวจิต