|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ผลสำรวจ เมอร์ริล ลินช์ ชี้ผู้จัดการกองทุนขยาดหุ้นไทย หันไปให้น้ำหนัก ตลาดสิงคโปร์ มาเลย์ ฟิลิปปินส์ อินเดีย เพิ่ม เหตุโครงสร้างเศรษฐกิจแข็งแกร่งกว่า เน้นลงทุนกลุ่ม สินค้าอุปโภคบริโภค อุตสาหกรรม และเทคโนโลยี
จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้จัดการกองทุนในประเทศแถบแปซิฟิกครั้งล่าสุดของ เมอร์ริล ลินช์ พบว่า ผู้จัดการกองทุน ให้น้ำหนักตลาดไทยน้อยที่สุดหลังจากที่มีการประกาศใช้มาตรการควบคุมเงินทุนของต่างชาติอย่างรุนแรงเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา
โฆษกของ เมอร์ริลลินช์ กล่าวว่า ผู้จัดการกองทุนได้ลดความเสี่ยงและเม็ดเงินลงทุนในตลาดไทยลงราว 783ล้านดอลลาร์สหรัฐ และให้น้ำหนักแก่ตลาดสิงคโปร์มากที่สุดในเอเชีย
"สิงคโปร์เป็นตลาดที่บรรดาผู้จัดการกองทุนต่างให้น้ำหนักการลงทุนมากที่สุดในภูมิภาคในขณะนี้"
ในเดือนมกราคมผู้จัดการกองทุนให้ความเห็นว่าจะลงทุนในสิงคโปร์ถึง 24% จากเดิมที่ระดับ 17% ในเดือนธันวาคมและจาก 9% ในเดือนพฤศจิกายน รวมถึง 17% ในเดือนตุลาคม
ส่วนฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ผู้จัดการกองทุนเพิ่มน้ำหนัก 3% จากที่ได้ลดน้ำหนัก 4%ในเดือนธันวาคม และยังเพิ่มน้ำหนักแก่ตลาดมาเลเซียเป็น 12% จากที่ลดน้ำหนักการลงทุน13% ในช่วง 3 เดือนก่อน
ทั้งนี้ผู้จัดการกองทุนได้ลดความเสี่ยงต่อการลงทุนในจีน ฮ่องกง ไต้หวัน และเกาหลีแต่หันไปเพิ่มน้ำหนักให้กับตลาดสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และอินเดีย เพราะมีโครงสร้างเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งมากกว่า โดยได้ลดน้ำหนักในตลาดไต้หวันเหลือ 21% จาก 27%
นอกจากนั้น เมอร์ริล ลินช์ ยังได้ให้ข้อสังเกตเพิ่มเติมด้วยว่า ผู้จัดการกองทุนเริ่มมีความกังวลมากขึ้นในการจัดสรรพอร์ตการลงทุนในเอเชียและเริ่มมีการลดน้ำหนักลงทุนเช่นกัน โดยพบว่าในเดือนมกราคมระดับเงินสดที่ได้รับการจัดสรรในหมู่ผู้จัดการกองทุนกลับไปอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเคยเกิดขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนมกราคมของปีที่แล้ว
"เห็นได้ชัดว่า การซื้อสุทธิของต่างชาติในเอเชียลดลง โดยในเดือนมกราคมนี้เหลือแค่ 174 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับ 3,800 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว"
ในประเทศแถบเอเชียเหนือยังคงเป็นอนุภูมิภาคในทวีปนี้ที่ผู้จัดการกองทุนชอบลงทุนแต่มีระดับลดลงในเดือนมกราคมเมื่อมีการพิจารณาการลงทุนในแต่ละตลาดสำหรับ 12 เดือนข้างหน้า
สำหรับการลงทุนตามภาคต่างๆในเอเชียซึ่งไม่รวมญี่ปุ่น นักลงทุนได้เพิ่มเงินไปยังหุ้นในกลุ่มที่มีตลาดมั่นคง เช่น กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค อุตสาหกรรม และเทคโนโลยี แทนกลุ่มธนาคารและประกันฯ โดยพบว่า ผู้จัดการกองทุนได้ลดน้ำหนักกลุ่มธนาคารและประกันฯลงมากที่สุดจากที่เคยให้น้ำหนักมากสุด
จากการที่ เมอร์ริล ลินช์ ได้สำรวจผู้จัดการกองทุนทั่วโลก พบว่ามีผู้จัดการกองทุนถึง 53%ที่ต้องการให้บริษัทใช้กระแสเงินสดเพื่อคืนเงินให้กับผู้ถือหุ้น โดยให้อยู่ในรูปปันผลซื้อหุ้นคืน หรือเข้าถือสิทธิ์เงินสด ขณะที่อีก 43% กลับกังวลว่า บริษัทอาจจะลงทุนในธุรกิจของตนเองน้อยเกินไปและอาจจะสร้างความเสียหายต่อการเติบโตของรายได้ในระยะยาวได้ และดูเหมือนว่า ผู้จัดการกองทุนจำนวนมากสนับสนุนให้บริษัทออกตราสารหนี้เพื่อซื้อหุ้นคืน
|
|
|
|
|