แม้บริษัทกำลังฉลองขึ้นปีที่ 2 สำหรับการดำเนินงาน แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะเพิ่งเริ่มต้น
สำหรับธุรกิจที่ปรึกษา
ในแวดวงธุรกิจที่ปรึกษาชั้นนำของโลกอาจจะนึกถึงอาเธอร์ แอนเดอร์เซ่น, เอคเซนเชอร์,
เอิร์น แอนด์ ยัง หรือไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส (PwC) แต่สำหรับอัสพารา
(ASPARA) ผู้ดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์แก่สถาบันการเงินที่ประสบปัญหาในการบริการสินเชื่อ
และกลุ่มสินทรัพย์อื่นที่เกี่ยวข้องกับเงินให้กู้ยืม (Asset Portfolios)
อาจจะยังไม่เป็นที่คุ้นเคยมากนัก เนื่องเพราะเป็นบริษัทเพิ่งเปิดตัวมาได้เพียงหนึ่งปีเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หากมองไปถึงผู้บริหารและผู้ก่อตั้งแล้วพบว่าล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์ในธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงินมาอย่างยาวนาน
จุดกำเนิดของ ASPARA เกิดจากเจ็ด อัลเลน, ไซม่อน กิบสัน และวิล นิวตัน
ซึ่งเคยร่วมงานกับ PwC หน่วยงาน Loan Portfolio Service แผนก Finance and
Recovery ตัดสินใจลาออกมาดำเนินกิจการภายใต้แนวคิดของตนเอง
"พวกเราต้องการช่วยเหลือลูกค้าในการบริหารสินทรัพย์เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนสูงสุดในระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้"
วิล นิวตัน กรรมการบริหารการขายและการตลาด ASPARA กล่าว
จากประสบการณ์ของพวกเขาทั้งสามประกอบกับทีมงานเกือบ 60 คน แม้ ASPARA จะเป็นชื่อใหม่แต่ทุกวันนี้ดูเหมือน
ว่าคู่แข่งไม่สามารถมองข้ามไปได้ เพราะหากพิจารณาถึงลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการนับว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง
"ลูกค้ามีทั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์สัญชาติอเมริกัน, สถาบันการเงิน ธนาคาร
พาณิชย์ หรือองค์กรของรัฐในภูมิภาคเอเชีย" นิวตันบอก "ส่วนในเมืองไทยพวกเรายังไม่มีลูกค้าเลย
แต่ก็กำลังเจรจาคาดว่าในปีนี้อาจจะเห็นสถาบันการเงินให้บริษัท เข้าไปทำงาน
1-2 แห่ง"
ถึงแม้ว่า ASPARA จะมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษาและผลิตภัณฑ์ ดูเหมือนว่าที่ผ่านมาจะประสบความสำเร็จ
ในธุรกิจแรก โดยเฉพาะที่ปรึกษาด้านการบริหารกลุ่มสินทรัพย์ (Portfolio Manage-ment)
ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสถาบัน, การซื้อ กลุ่มสินทรัพย์ และการขายกลุ่มสินทรัพย์
ปัจจัยที่ส่งผลให้บริษัทได้รับความไว้วางใจเกิดจากความเชื่อมั่นว่า ข้อมูลเป็นปัจจัยเดียวที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
ในการเพิ่มหรือลดมูลค่าการลงทุน ดังนั้นบริการให้คำปรึกษาในการซื้อขายกลุ่มสินทรัพย์จึงเน้นเรื่องผลตอบแทนที่ลูกค้าควรได้รับ
"มุ่งความสำเร็จที่ลูกค้าจะได้รับประโยชน์ที่ผู้ซื้อจะได้รับจากการใช้บริการของพวกเรา
คือ การลดความเสี่ยงที่แฝงมาจากการซื้อกิจการ และการลดค่าใช้จ่ายในการซื้อกิจการ"
นิวตันชี้ "ประโยชน์ ที่ผู้ขายจะได้รับ คือ การลดค่าความเสี่ยงที่ผู้สนใจจะซื้อต้องใช้ในการตัดสินใจซึ่งจะทำให้ราคาขายสินทรัพย์สูงขึ้น"
ขณะที่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ หมายถึงASPARA ได้พัฒนาระบบที่เรียกว่า Imp. ขึ้นมาด้วยตนเองเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
โดยเฉพาะในการบริหารสินเชื่อและสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องในรูปแบบการบริหารที่เหมาะสมกับประเภทสินทรัพย์
นิวตันบอกว่าระบบ Imp. ไม่ใช่ระบบการประมวลผลข้อมูลแบบดั้งเดิม ทว่าเป็นระบบที่คำนึงถึงการพัฒนาประสิทธิภาพกระบวนการปฏิบัติงานของสถาบันการเงินเป็นหลัก
แตกต่างจากระบบอื่นที่ใช้เป็นระบบบันทึกบัญชี ที่มักเชื่อกันว่าสามารถนำมาแก้ปัญหาการบริหารภายในสถาบันการเงินได้
"ในปีนี้บริษัทจะให้ความสำคัญกับการนำเสนอระบบนี้ต่อลูกค้ามากขึ้น โดยจะดำเนินการควบคู่ไปพร้อมกับบริการเป็นที่ปรึกษา"
