นับจากนี้การส่ง e-mail ไม่ต้องพึ่งพาคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องมีคีย์บอร์ด ขอมีแค่กระดาษ และปากกา ข้อความที่ส่งไป ก็ออนไลน์ถึงกันได้แล้ว

ข้อแม้เดียวว่า การส่ง e-mail นี้จะต้องใช้ปากกา และกระดาษดิจิตอลเท่านั้น

แนวคิดเหล่านี้เกิดขึ้นมาจากบริษัท Anoto ที่ได้คิดค้นเทคโนโลยีเหล่านี้มาจาก แนวคิดที่ต้องทำให้อุปกรณ์ดั้งเดิมที่ใช้งานกันอย่างคุ้นเคยมานานปีอย่างปากกา สามารถประยุกต์เข้ากับความทันสมัยของเทคโนโลยี กลายเป็นอุปกรณ์ชิ้นใหม่ที่ใช้งานได้ในโลกดิจิตอล

ความแปลกใหม่ของเทคโนโลยีที่บริษัท Anoto คิดค้นขึ้นมา อยู่ที่ว่าพวกเขาได้ทำให้การส่งข้อความผ่านอีเมล จาก ที่เคยต้องพึ่งพาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ต้องเปิดโปรแกรม คีย์ข้อความ เรียกว่าต้องเรียนรู้การใช้งาน มาใช้วิธีดั้งเดิมที่คุ้นเคย คือใช้กระดาษ และปากกาแทน เรียกว่า เปลี่ยนจากเรื่องยากๆ มาเป็นการใช้งานแบบง่ายๆ ด้วยวิธีการใช้งานแบบเดิมๆ ที่คุ้นเคยกันดี

แน่นอนว่า กระดาษ และปากกาย่อมไม่ใช่ธรรมดาๆ บรรจุหมึกอย่างที่ใช้งานกันอยู่ แต่ปากกาชนิดนี้บรรจุเทคโน โลยีส่งข้อความผ่านอุปกรณ์ไร้สาย หรือ Bluetooth และกล้องขนาดเล็กจิ๋วเอาไว้ภายใน เพื่อทำหน้าที่จดจำความเคลื่อน ไหว ในขณะที่ปากกาขีดเขียนข้อความลง บนกระดาษ

กระดาษก็เช่นกัน จะต้องเป็นกระดาษดิจิตอล ที่จะมีจุดขนาดเล็กๆ ฝังตัวอยู่ในแผ่นกระดาษ เมื่อลากปากกาลงบนกระดาษ ปากกาจะทำหน้าที่ในการอ่านค่าจากลายจุดบนกระดาษ และบันทึกไว้ด้วยกล้องที่มีหน่วยความจำ

เมื่อข้อความถูกบันทึกลงบนกระดาษเป็นที่เรียบร้อย แทนที่จะกดปุ่ม sent บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ก็ทำได้เพียงแค่นำปากกาไปกดบนคำว่า sent มุมล่างสุด ขวามือของแผ่นกระดาษ ข้อความเหล่านี้จะถูกยิงสัญญาณผ่านระบบ Bluetooth จากปากกา ไปยังเครื่องโทรศัพท์มือถือ จากนั้น e-mail จะถูกส่งไปยัง server ของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ

ข้อความจะถูกส่งไปยังผู้รับเปิดอ่านจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือบนโทรศัพท์มือถือได้ทันที ตามที่ระบุไว้ใน e-mail address ใน phone book ในโทรศัพท์ มือถือ ซึ่งข้อความที่ผู้รับได้รับจะเป็นลายมือ ที่เหมือนกับที่ผู้เขียนส่งไป

ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ สีสันของข้อความ โดยกระดาษดิจิตอลจะมีแผ่นที่บรรจุสีต่างๆ เมื่อนำปากกาจิ้มลงบนสีที่ต้องการ ข้อความที่ผู้รับได้จะเปลี่ยนไปตามสีเหล่านั้น

อุปกรณ์อีกชิ้นที่จะขาดไม่ได้คือ โทรศัพท์มือถือ ทำหน้าที่ในการส่งข้อความ ที่บันทึกอยู่ในปากกา ผ่านเทคโนโลยีส่งข้อความไร้สาย Bluetooth และส่งผ่านไปยังเครื่องแม่ข่าย server ของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ สำหรับในไทยก็คือ บริษัทเอไอเอสที่ติดต่อเตรียมนำมาให้บริการแล้ว

ส่วนโทรศัพท์มือถือ จะต้องเป็นรุ่น ที่มีเทคโนโลยี Bluetooth บรรจุอยู่ เวลานี้ มี 2 รุ่น คือ อีริคสัน รุ่น T39 และรุ่น T68i

เทคโนโลยีนี้ใช้กับระบบ GSM และ ต้องใช้กับเทคโนโลยีเครือข่าย GPRS จึงจะทำให้การส่งข้อความได้เร็วขึ้น ส่วนอัตรา ค่าบริการจะต้องขึ้นอยู่กับบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) เป็นผู้กำหนด ส่วนกระดาษดิจิตอลนั้น ผู้นำเข้าระบุว่า ราคาสูงกว่ากระดาษธรรมดาแค่ 10% เท่านั้น

บริษัท Anoto ที่แปลมาจากภาษากรีกว่า I take note ก่อตั้งโดย Christer Fahraeus ชาวสวีเดน ที่ได้แนวคิดนี้ระหว่างเรียนปริญญาเอกอยู่ใน University of Lund

c-pen คือ เทคโนโลยีต้นแบบแรก ที่เขาพัฒนาจากห้องแล็บ มีคุณสมบัติที่ เปลี่ยนจากปากกาธรรมดา ให้กลายเป็นอุปกรณ์ที่ใช้อ่าน บันทึกข้อมูลจากแผ่นกระดาษลงไปยังคอมพิวเตอร์ โดยไม่ต้องคีย์ข้อมูล เนื่องจากปากกาจะบรรจุกล้องดิจิตอล หน่วยความจำ

จากจุดเริ่มต้นของเทคโนโลยี c-pen ที่ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในตลาดสวีเดน ทำให้บริษัทคิดค้นเทคโนโลยีแห่งนี้เป็นที่สนใจจากอีริคสันที่เข้ามาซื้อหุ้นและกลายเป็นผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ และได้พัฒนาปากกา ดิจิตอล และกระดาษดิจิตอล ออกมาใช้งาน ร่วมกับโทรศัพท์มือถือ และเปลี่ยนชื่อจากบริษัท The C Technologies มาเป็นบริษัท Anoto Group

Anoto Group นั้น ไม่ได้ผลิตเองจะเป็นผู้คิดค้นเทคโนโลยีอย่างเดียว ส่วนการผลิตนั้นจะใช้วิธีร่วมมือกับผู้ผลิตที่มีอยู่ในตลาด และทำตลาด

พันธมิตรที่ลงขันร่วมผลิตปากกาดิจิตอลให้กับ Anoto มี 10 กว่าบริษัท มีทั้งผู้ผลิตปากกา บริษัท Cross, Pilot, Montblanc บริษัท Mitsubishi Pencil บริษัท Hitachi maxell บริษัท Logitech Europe และบริษัทโซนี่ อีริคสัน

ส่วนพันธมิตรร่วมผู้ผลิตกระดาษมีประมาณ 20 กว่าราย นำโดยบริษัท 3M นอกจากทำตลาดในสวีเดน เริ่มขยายไป ยังสหรัฐอเมริกา มีสำนักงานอยู่ในเมือง บอสตัน ฮ่องกง และโตเกียว ส่วนในไทยทำตลาดผ่านตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่นของไทย และจะให้บริการในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยผู้นำเข้าทำตลาดร่วมกับเอไอเอส ซึ่งคาดหวังอย่างมากว่าบริการชิ้นนี้จะ เป็นหนึ่งใน killer application ที่จะเข้าถึงการใช้งานของผู้ใช้ ด้วยวิธีง่ายๆ ตามยุทธศาสตร์ใหม่ของผู้ให้บริการรายนี้

งานนี้เรียกว่า ไม่ต้องเรียนรู้ใหม่ขอมีแค่กระดาษ และปากกา อุปกรณ์ในโลกยุคเก่าก็ท่องโลกดิจิตอลได้แล้ว