นายมาซาโนบุ ไซโตะ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่-บริหาร บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ซูซูกิในประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการที่ยอดขายของซูซูกิลดลงต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ทำให้จำเป็นต้องมีการปรับโครงสร้างนโยบายเครือข่ายการจำหน่ายใหม่ พร้อมๆกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพ และแนะนำสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง
" การทำตลาดซูซูกิในไทยที่ผ่านมา ได้แต่งตั้งให้บริษัท เอส.พี.ซูซูกิ จำกัด(มหาชน) ดูแลตลาดและเครือข่ายการจำหน่ายทั่วประเทศ ยกเว้นภาคใต้ 14 จังหวัด ที่ดูแลโดยบริษัท บ้านซูซูกิ จำกัด ปรากฎว่าตลาดในภาคใต้ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ สามารถทำยอดขายเป็นอันดับสองรองจากฮอนด้าเท่านั้น แต่ในส่วนของภาคอื่นๆ กลับมียอดขายลดลงต่อเนื่อง เหตุนี้ไทยซูซูกิฯ จึงจำเป็นต้องปรับนโยบายใหม่ โดยจะเข้าไปดูแลตลาดในพื้นที่ของเอส.พี.ซูซูกิ แต่ไม่ได้หมายถึงปลดเอส.พี.ซูซูกิ ซึ่งนโยบายขณะนี้จะทำงานเสริมกันในพื้นที่ที่เป็นจุดอ่อนเท่านั้น"
สำหรับแผนในการดำเนินงานดังกล่าว ไทยซูซูกิฯ จะเข้าไปดูแลและทำหน้าที่เป็นผู้จัดหน่ายอีกแรงหนึ่ง โดยจะเข้าไปดำเนินการเปิดเครือข่ายจำหน่าย 40 แห่งในปีนี้ เพื่อเสริมสร้างและขยายโครงข่ายการขายของซูซูกิ ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในเขต 62 จังหวัดทั่วประเทศ ยกเว้น 14 จังหวัดทางภาคใต้ ซึ่งการที่ปรับเปลี่ยนนโยบายเช่นนี้ เพื่อที่จะผลักดันให้ยอดขาย และส่วนแบ่งทางการตลาดของรถจักรยานยนต์ซูซูกิในไทยดีขึ้น
นายไซโตะกล่าวว่า การที่ไทยซูซูกิฯ จะเข้ามาช่วยทำหน้าที่ผู้จัดจำหน่ายทั่วประเทศ ยกเว้นภาคใต้ที่อยู่ในการดูแลของบ้านซูซูกิ จำเป็นต้องใช้ผู้ที่มีความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์เกี่ยวกับตลาดเมืองไทย เหตุนี้จึงได้เชิญนายเคนจิ ยามาโมโตะ อดีตกรรมการผู้อำนวยการของ บริษัท ไทยซูซูกิ มอเตอร์ จำกัด และ นายโคอิชิโร ฮิราโอะ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการคนก่อน ที่เพิ่งกลับไปที่ญี่ปุ่นเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ให้กลับมาดูแลและรับผิดชอบด้านการตลาด และเครือข่ายการจำหน่ายตามนโยบายใหม่นี้
"อีกจุดหนึ่งที่เราจำเป็นจะต้องดำเนินการ คือการแนะนำรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่สู่ตลาด ซึ่งคาดว่าภายในครึ่งปีแรกนี้จะแนะนำสู่ตลาดทั้งหมด 2 รุ่น โดยรุ่นแรกได้แก่ ซูซูกิ ฮายาเต้ 125 รถจักรยานยนต์สปอร์ตเกียร์ออโตเมติก สู่ตลาดนับตั้งแต่วันนี้ (30 ม.ค.) เป็นต้นไป ส่วนอีกรุ่นจะเป็นรถแบบครอบครัวรุ่นใหม่ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้"
ทั้งนี้ซูซูกิ ฮายาเต้ 125 ใหม่ เป็นรถจักรยานยนต์สปอร์ตออโตเมติก ระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT 4 จังหวะ 125 ซีซี ด้วยจุดเด่นที่มีสายพานรูปตัววี (V-Belt) ขนาดใหญ่ ให้ความทนทานและสมรรถนะการส่งกำลังที่ดี พร้อมความอเนกประสงค์ พื้นที่เก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ และช่องใส่ของสารพัดประโยชน์ด้านหน้าถึง 2 ช่อง เป็นต้น โดยมีราคาอยู่ที่ 4.98 หมื่นบาท
"การปรับเปลี่ยนนโยบายทำตลาด รวมถึงเปิดตัวแทนจำหน่ายเพิ่มอีก 40 แห่ง และรองรับรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่จะแนะนำสู่ตลาด รวมถึงการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ปีนี้ไทยซูซูกิฯ จึงได้เตรียมงบประมาณไว้รองรับ 500 ล้านบาท เพื่อผลักดันให้บรรลุเป้าหมาย ในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของซูซูกิในไทย" นายไซโตะกล่าวและว่า
สำหรับเป้าหมายการขายรถจักรยานยนต์ซูซูกิ ฮายาเต้ 125 ตั้งเป้าไว้เดือนละ 4,000 คัน และหากรวมรถทุกรุ่นในปีนี้คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 200,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ทำได้ 150,000 คัน โดยคาดว่าสัดส่วนของรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติจะเพิ่มเป็น 60% จากปีที่แล้วจะเท่าๆ กันกับเกียร์ธรรมดา และประเมินว่าตลาดรวมในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,800,000-1,850,000 คัน
ด้านฮอนด้า นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด รายงานสรุปยอดการจำหน่ายรถยนต์รวมในปีที่ผ่านมาทุกยี่ห้อ 2,061,610 คัน เติบโตลดลงจากปีที่แล้ว 2 % หรือ 41,937 คัน โดยฮอนด้ายังคงรักษาความเป็นผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 18 ด้วยยอดจำหน่าย 1,335,104 คัน มีส่วนแบ่งการตลาดถึง 65 %
หากแบ่งเป็นยอดจำหน่ายรถแต่ละประเภท ตลาดใหญ่อันดับหนึ่งรถแบบครอบครัวที่ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด 56 % มียอดจำหน่ายรวม 1,149,242 คัน ลดลงจากปีที่แล้ว 30 % อันดับสองเป็นรถแบบเอทีที่ครองส่วนสัดส่วนตลาด 38 % มียอดจำหน่ายรวม 790,319 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 256 % นอกนั้นเป็นรถสปอร์ตและแฟมิลี่สปอร์ตประมาณ 6 % หรือเทียบเท่าจำนวน 122,006 คัน
|